*..รอโหลดซักกะเดี๋ยวเตง..*           วิกฤติการเมืองเรื่องฅนตอแหล..๒๕๕๕
. . . ร่วมด้วยช่วยกันเผยแพร่สื่อสารถึง"คนเสื้อแดง"ทั่วไทยและทั่วโลก . . . ขอขอบพระคุณเจ้าของclipภาพถ่ายและบทความทุกๆท่านที่กรุณาเอื้อเฟื้อแบ่งปัน . . .น้ำใจซื้อขายไม่ได้ แต่น้ำใจให้กันได้...อิอิ


PlayListนี้ เริ่มต้นด้วย "เล่าเรื่อง ตาดูดาวเท้าติดดิน" เรียงลำดับตั้งแต่ ตอนแรก ถึง ตอนปัจจุบัน ..ท้ายเพลย์ลิสท์เป็นคลิป "เมื่อศาลรัฐธรรมนูญกระทำขัดรัฐธรรมนูญ : จะทำอย่างไร?" วันพุธที่ 1 พฤษภาคม 2556 เวลา 13.00 - 16.00 น. ห้องกมลทิพย์ ชั้น 2 โรงแรมสุโกศล (สยามซิตี้เดิม) คลิปนี้..วิทยากร รศ.ดร.วรเจตน์ ภาคีรัตน์ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แสดงความคิดเห็นเริ่มนาที 0:14:24
คลิกที่นี่ ดูบนyoutube...
หรือคลิกที่นี่.. @ AsiaUpdate "เล่าเรื่อง ตาดูดาวเท้าติดดิน"

คลิกที่นี่ ดูบนyoutube...

คลิกที่นี่ ดูบนyoutube...

คลิกที่ภาพ...เพื่อดูขนาดที่ใหญ่ขึ้น

วันเสาร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

04... พี่สาวผมเคยถามผมว่า ทำไมผมจึงฝักใฝ่อยู่กับคุณทักษิณ?????

@ ภาพหนึ่งภาพ แทนคำพูดล้านคำ..
@ เปิดใจ "พงศพัศ พงษ์เจริญ" ว่าที่ผู้ว่าฯกรุงเทพมหานคร (ย่อมรับคนนี้เก่งจริง)
@ ข้อคิดถึงคุณคน กทม. 3มี.ค.นี้ คุณควรเลือกใครเป็นผู้ว่าฯ ?????
@ ท่านหม่อม!! เหนื่อยนักก็ พักก่อน นะครับ
@ เพิ่งเคยเห็นนายกฯคนแรกนี่แหละ ที่สนับสนุนให้เด็กเก่งคณิตศาสตร์
@ แด่..มนุษย์เงินเดือน "อันความรู้ รู้กระจ่างแต่อย่างเดียว แต่ให้เชี่ยวชาญเถิดจะเกิดผล"
@ สิ่งที่ควรรู้ ก่อนเรียน Master of Business Administration (MBA)
@ ฮู้ยยยย...สติแตกกันไปหมดแย้วทั้งคนเล่นและกองเชียร์แนวร่วม
@ ความเป็นมาของ คดีสะเทือนโลก "ที่ดินรัชดา" ที่ทุกๆคนควรรู้!!!
@ ผมไม่ได้แหล!!! แต่เรื่องดีๆอย่างนี้..clickดูเองเหอะ
@ มือหยาบกร้านคู่นั้น มีแต่เส้นเอ็นปูดโปน...ทำให้ผมนึกถึงมือของผู้หญิงคนหนึ่ง...
@ สาระน่ารู้... เขาซื้อทองคำ ขายทองคำ กันอย่างไร?????
@ "ลื้อมีร่มมั้ย??..." แค่คำนี้แหละ ที่ทำให้นิสัยผมเปลี่ยนทันที
@ เฮ้อ!! ณ นาทีนี้..บอกได้คำเดียว เสียดาย..เสียดายครับ...นโยบายดีๆที่คน กทม. ไม่เอ๊า..ไม่เอา...

คลิกที่ภาพ...เพื่อดูขนาดที่ใหญ่ขึ้น @ New!! แจกปฏิทินนายกฯปู พ.ศ.2556 คลิกที่นี่...



พี่สาวผมเคยถามผมว่า ทำไมผมจึงฝักใฝ่อยู่กับคุณทักษิณ?????
By: ทวดเอง เว็บpantip

เป็นคำถามที่เคยถามผมในช่วงที่พันธมิตรฯกำลังชุมนุมขับไล่คุณทักษิณ พี่สาวผมก็เป็นคนหนึ่ง แม้จะไม่เคยใส่ใจเรื่องการเมือง แต่เพราะแถวบ้านมีคนรู้จักที่ค่อนข้างกว้างขวางเกลียดชังคุณทักษิณ เป็นพวกที่คิดว่ารู้ลึกกว่าคนอื่น รู้ทันคุณทักษิณมากกว่าคนอื่น ได้จัดรถขนคนไปร่วมชุมนุมด้วย ดังนั้นพี่สาวผมพลอยติดร่างแหไปด้วย แม้จะไม่ได้ไปเป็นประจำ แต่ก็ได้ข้อมูลเชิงลึกมามากมาย ดังนั้นคำถามนี้จึงได้เกิดขึ้น... ทำไมเอ็งยังฝักใฝ่อยู่กับทักษิณ?

เอ็งไม่รู้หรือว่า ทักษิณมันขายประเทศ

เอ็งไม่รู้หรือว่า ทักษิณมันโกงบ้านโกงเมือง

เอ็งไม่รู้หรือว่า ทักษิณมันไม่ยอมเสียภาษี ซึ่งแม้แต่แม่ค้ายังต้องเสียภาษีเลย

และ... เอ็งไม่รู้หรือว่า ทักษิณจะทำให้ประเทศล่มจม

ผมก็เลยตอบพี่สาวไปว่า เรื่องขายประเทศจริงหรือเปล่าตอนนี้ (หมายถึงตอนนั้น) ผมไม่รู้

สำหรับเรื่องโกง ผมจะพูดอย่างไรพี่ก็คงไม่เชื่อผม

สำหรับเรื่องทำให้ประเทศล่มจม มันพิสูจน์ยาก เพราะเป็นเรื่องของอนาคต

แต่สำหรับเรื่องไม่เสียภาษี ผมพอจะตอบได้ ในตลาดหุ้นเขายกเว้นให้ ถ้าขายหุ้นในตลาด เพราะต้องการจูงใจนักลงทุน แต่สำหรับเรื่องแม่ค้ายังต้องเสียภาษีนั้น พี่น่าจะรู้ว่ามันจริงหรือเปล่า พี่เองก็ขายก๋วยเตี๋ยวมากี่สิบปี เคยเสียภาษีไปเท่าไหร่ แค่เรื่องนี้เรื่องเดียว พี่ก็พอจะรู้หรือยังว่า ข้อมูลเชิงลึกของพี่มันเป็นข้อมูลเท็จหรือไม่ พี่สาวผมอึ้งไปพักหนึ่ง แล้วก็หัวเราะหึหึ ท่าจะจริงของเอ็ง

ผมได้ทีผมตอกซ้ำเข้าไปอีก แล้วพี่ลองคิดดูสิว่า ช่วงที่ผ่านมาตอนที่คุณทักษิณบริหาร พี่รู้สึกว่าลำบากหรือดีขึ้นกว่าเดิมระหว่างรัฐบาลทักษิณกับรัฐบาลที่ผ่านมา

พี่เคยเห็นรัฐบาลไหนที่ผ่านมา ไม่เคยมีข้อครหาเกี่ยวกับการทุจริตคอรัปชั่น

พี่ไม่แปลกใจหรือที่รัฐบาลที่ไม่มีอะไรดีสักอย่าง แต่กลับเป็นรัฐบาลแรกที่อยู่ครบสี่ปี

แล้วถ้ารัฐบาลทักษิณบริหารงานล้มเหลว ทำไมกลับได้รับการเลือกตั้งเข้ามามากกว่าเดิม

เรื่องอย่างนี้พี่ไม่จำเป็นต้องไปหาข้อมูลจากแหล่งไหนทั้งสิ้น ลองใช้สติแล้วคิดตามสภาพความเป็นจริงก็พอ

หลานชายผมซึ่งก็คือลูกชายของพี่สาว ทำงานแบงค์ แบงค์ไหนก็ช่างเหอะ แต่อยู่แถวสีลม ก็สอดขึ้นว่า กู๋ไม่รู้อะไร ที่ได้เพราะประชานิยมล้วนๆ หลอกได้แต่คนรากหญ้า เดี๋ยวอีกหน่อยเหอะ ประเทศล่มจมแล้วกู๋จะรู้สึก

ผมก็เลยตอบเขาไปว่า กู๋คงไม่รู้สึกอะไรหรอกนะ เพราะไม่คิดว่าประเทศจะล่มจมอย่างที่เขากล่าวหา

แต่ประชานิยมอย่าง 30 บาทรักษาทุกโรค กู๋สนับสนุนนะ เพราะเป็นการช่วยเรื่องปัญหาสุขภาพของคนจนๆให้มีโอกาสเท่าเทียมกัน

แต่ประชานิยมอย่างกองทุนหมู่บ้าน กู๋ก็สนับสนุนนะ เพราะเป็นการสร้างโอกาสให้คนในหมู่บ้านได้เข้าถึงแหล่งทุนโดยง่าย

แต่ประชานิยมอย่างธนาคารประชาชน ก็เป็นการช่วยให้ผู้มีรายได้น้อยกู้เงินเพื่อไปสร้างรายได้ให้กับตัวเอง

แต่ประชานิยมอย่างหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ ก็เป็นการส่งเสริมการสร้างงานให้กับผู้ตกงานและเสริมรายได้ให้กับเหล่าเกษตรกร ทั้งยังเป็นการส่งเสริมภูมิปัญญาชาวบ้าน

นี่เป็นเพียงตัวอย่างเท่านั้นนะ ซึ่งความจริงผลงานของคุณทักษิณมีมากกว่านี้มากมาย จนกู๋ไม่สามารถบรรยายได้หมดในช่วงเวลาของการสนทนาได้หรอก

หลานชายผมยังคงทำสีหน้าไม่เชื่อถือ แต่สำหรับพี่สาวผมเริ่มคล้อยตาม เออ จริงของเอ็งว่ะเรื่อง 30 บาทรักษาทุกโรค เพราะเพื่อนเขาคนหนึ่งต้องผ่าตัดหัวใจด้วยเงินเพียง 30 บาท ถ้าไม่มีโครงการนี้มันคงตายแหงแก๋แน่เลย ส่วนอีกคนผ่าตัดไส้ติ่งก็ 30 บาท

แล้วพี่รู้หรือเปล่าว่า โครงการนี้น่ะ พรรคที่พี่กับครอบครัวเลือก เขาเอาไปติดไว้ตามขั้นบันไดพรรค เดินขึ้นเดินลงก็เหยียบย่ำตลอด แล้วบอกว่า เป็นโครงการ 30 บาทตายทุกโรคเลยนะ

สำหรับเรื่องนี้ผมพลาดไปถนัด พี่สาวผมเถียงคอเป็นเอ็น เอ็งอย่าไปใส่ร้ายเขาเลยหน่ะ มันจะเป็นไปได้อย่างไร พรรคนี้ออกจะเก่าแก่ ทุกคนเป็นคนดี ทำงานเพื่อประชาชนล้วนๆ จะไปทำอย่างนั้นได้อย่างไร ผมก็เลยต้องหุบปาก เพราะขืนพูดต่ออาจกลายเป็นวิวาทไปเสียก็ได้ เสียดายตอนนั้นผมยังไม่เก่งเรื่องอินเตอร์เน็ตสักเท่าไหร่ เลยไม่มีหลักฐานไปยืนยัน

แต่หลังจากคุยกันวันนั้น ก็เป็นผลให้พี่สาวผมกับครอบครัวเลิกจงเกลียดจงชังคุณทักษิณเหมือนแต่ก่อน เว้นแต่เจ้าหลานชายตัวแสบ จนกระทั่งเจ้าหลานชายได้มีโอกาสไปเรียนต่อยังต่างประเทศ มุมมองเริ่มเปลี่ยนไป พี่สาวผมก็มีโอกาสเดินทางไปต่างประเทศบ่อยขึ้น


จนกระทั่งเมื่อวานนี้ เมื่อมีการรวมญาติกันอีกครั้งหนึ่ง คุยกันสัพเพเหระ คุยไปคุยมา ก็มาคุยกันถึงเรื่องการเดินทาง พี่สาวผมก็เลยพูดขึ้นเองว่า เออ ถ้าทักษิณไม่สร้างสนามบินสุวรรณภูมิในตอนนั้น ไม่รู้ว่า เราจะมีสนามบินรองรับนักท่องเที่ยวมากมายขนาดนี้ได้อย่างไรเนาะ

ผมได้ทีขี่แพะไล่ทันที นี่แหละเขาเรียกว่า วิสัยทัศน์ล่ะ มองเห็นการณ์ไกลไง ถ้าอยากได้นักท่องเที่ยวเพิ่ม มันต้องมีสนามบินรองรับ ไม่งั้นใครเขาจะมาเที่ยว ตอนนี้ขนาดใช้สนามบินดอนเมืองอีกสนาม ยังทำท่าจะไม่เพียงพอแล้วนะรู้ไหม เห็นหรือยังว่า ผู้นำเก่งทำงานกับผู้นำเก่งการพูด มันแตกต่างกันยังไง

แล้วพี่ยังจำที่เคยถามผมหรือเปล่า เรื่องคุณทักษิณขายชาติหรือทำให้ประเทศล่มจม ตอนนี้ได้คำตอบแล้วหรือยังล่ะว่า ใครกันแน่ที่จะทำให้ประเทศล่มจม ยังจะเชื่อหรือเปล่าเรื่องเลือกตั้งผู้ว่าฯจะเป็นการยึดครองประเทศของทักษิณ การเสียเมืองหลวงจะเป็นการเสียประเทศไทยเหอ... พี่สาวผมบอกว่า รู้แล้วน่ะ


ถ้ารู้แล้ว วันที่ 3 พี่จะเลือกใครเป็นผู้ว่าฯรึ

พี่สาวผมบอก "พวกอั๊วเลือกยิ่งลักษณ์กันทั้งบ้านแล้วเฟ้ย"

ผมหันไปสบตากับเจ้าหลานชายตัวดี ยังไม่ทันได้ถาม เขารีบตอบ "เบอร์ 9 ครับกู๋ แถมให้อีกหนึ่งเสียงด้วย" แล้วหันไปเหล่ที่ภรรเมียด้วยความหวาดระแวง

ผมเลยหันไปมองที่หลานสะใภ้ หลานสะใภ้พูดขึ้นว่า "ถ้าไม่เบอร์ 9 ก็ไม่ต้องเข้าห้องนะ บอกก่อน"

ผมเลยไม่รู้ว่า ตกลงแล้วหลานชายผมเขาตาสว่างแล้วหรือกลัวคำขู่จากเบื้องบนกันแน่ งง อ่ะ


วันที่ 26 มีนาคม 2549 พรรคไทยรักไทย จัดการปราศรัยย่อย ที่วงเวียนใหญ่ โดย พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร หัวหน้าพรรค ขึ้นปราศรัย ในเวลา 20.00 น. มีผู้เดินทางมาฟังปราศรัย เป็นจำนวนหลายแสนคน ฉบับเต็ม.wmvโหลดที่นี่...

วันที่ 3 มีนาคม 2549 พรรคไทยรักไทย จัดการปราศรัยใหญ่ ที่ท้องสนามหลวง โดย พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร หัวหน้าพรรค ขึ้นปราศรัย ในเวลา 20.00 น. มีผู้เดินทางมาฟังปราศรัย เป็นจำนวนหลายแสนคน จนเต็มท้องสนามหลวง และล้นออกไปถึง ถนนราชดำเนินกลาง ใกล้ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย

@ งานพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี วันศุกร์ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ.2549
@ 5ธ.ค.2555 ปลื้มปีตี"ในหลวง"เสด็จออก ณ สีหบัญชร เปล่งเสียง"ทรงพระเจริญ"กึกก้อง

เทปโทรทัศน์ ถึงลูกถึงคน ช่อง 9 วันศุกร์ที่ 10 มี.ค.2549 "เปิดใจ พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร" (ก่อนถูกรัฐประหาร 19 ก.ย.2549)


สดุดี..นโยบายบัตรทองประกันสุขภาพ 30 บาทรักษาทุกโรค

By: ธนวุฒิ ดุษฎีปัญจพร

ครอบครัวของผมสนิทสนมกับโรงพยาบาลนพรัตนราชธานีมานานหลายๆสิบปี พ.ศ.2532 ลูกชายโทนของผมก็คลอดที่ รพ.นี้ แม่ของลูกชายก็เลือกประกันสังคมที่ รพ.นี้และผ่าตัดเอามดลูกออกก็ รพ.นี้ สำหรับผมบัตรทองประกันสุขภาพฯก็ รพ.นี้เช่นกัน เรียกว่าครอบครัวของผมเดินเข้าเดินออก รพ.นี้จนคุณเจ้าหน้าที่คุณพยาบาลคุณผู้ช่วยพยาบาลและคุณหมอจำหน้าได้ก็แล้วกัน

จะเป็นเวรเป็นกรรมหรือโชคดีก็แล้วแต่ เพราะอานิสงส์จากบัตรทอง 30 บาทรักษาทุกโรคนี่แหละ ที่ยังทำให้ผมมองเห็นสิ่งสวยๆงามๆในโลกใบนี้ได้

ผมเป็นโรคต้อหินและโรคต้อกระจก เป็นทั้งสองข้าง ดวงตาข้างซ้ายบอดไปแล้วแต่คุณหมออุดม ภู่วโรดม แผนกโรคตา รพ.นพรัตนฯ เป็นผู้ผ่าตัดใส่เลนส์แก้วตาเทียมให้ คงเหลือแต่ดวงตาข้างขวาซึ่งคุณหมอรุจยา ด่านอุตรา ติดตามดูอาการอยู่ ถ้าไม่ดีขึ้นก็ต้องผ่ากันละ (คุณหมอรุจยารักษาต่อจากคุณหมออุดมซึ่งท่านย้ายไปดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการสถาบันพยาธิวิทยา)

ทุกวันนี้ผมต้องใช้ยา Timodrop Eye Solution 0.5% หยอดตาทุกเช้า-เย็นเพื่อปรับความดันลูกนัยน์ตาทั้ง 2 ข้างซ้าย-ขวา และทุกๆเดือนผมมีนัดต้องไป รพ.เพื่อรับยา คุณหมอบอกว่า ผมต้องหยอดยาเพื่อปรับความดันลูกนัยน์ตาไปตลอดชีวิต

ปกติผมสายตาสั้นต้องใส่แว่นตาเป็นประจำ หลังผ่าตัดใส่เลนส์แก้วตาเทียม คุณหมออุดมบอกว่าเลนส์ที่ใส่ให้เป็นเลนส์สายตายาวมองไกลๆเห็นภาพชัดสดใสสีฟ้าสวยงาม ส่วนตาข้างขวาเป็นตาธรรมชาติที่ติดตัวมามองใกล้เห็นชัดแต่ภาพสีขุ่นๆไม่สดใสเหมือนตาข้างซ้าย ปัจจุบันตาทั้งสองข้างมันปรับเข้าหากันทำให้ผมมองเห็นได้ชัดเจนทั้งใกล้และไกลโดยไม่ต้องใส่แว่นตาเหมือนก่อน
อิอิ..มาแล้วๆ ของฝากที่ใครๆไม่อยากได้...

ขอบพระคุณรัฐบาลโครงการ30บาทรักษาทุกโรค

By: ฅนกรุงเก่า (โพสท์เมื่อ 12 มี.ค.2556) 7เดือนแล้วที่ผมมีหลานชายคนแรก ลูกสาวตั้งครรภ์ได้ฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลเอกชนได้เหมาค่าใช้จ่ายประมาณ 50,000 บาท ลูกสาวผมได้ไปตรวจครรภ์ทุกเดือนตามหมอนัดพร้อมอัลตร้าซาวด์ 3 มิติ ว่าได้ลูกผู้ชาย ถึงเดือนที่7 น้ำคล่ำรั่วได้ไปหาหมอ หมอบอกว่าต้องผ่าเด็กคลอดก่อนกำหนดและบอกค่าใช้จ่ายประมาณ 600,000-1,200,000 บาทโดยประมาณ ผมก็ถามว่ามีวิธีไหนบ้างมั๊ยที่ราคาจะลดลงได้บ้าง คุณหมอบอกว่าต้องโรงพยาบาลรัฐบาลเท่านั้นเพราะโรงพยาบาลเอกชนก็ต้องราคาประมาณนี้

ผมจึงขอคุณหมอย้ายไปโรงพยาบาลราชวิถีและคลอดเด็กแล้วเด็กจะได้อยู่โรงพยาบาลเด็กต่อเลย ลูกสาวผมย้ายมาโรงพยาบาลราชวิถี ได้ 2 วันก็คลอดน้ำหนักเด็กเพียง 950 กรัม (9ขีดครึ่ง) หลานชายผมอยู่โรงพยาบาลเด็กอยู่ตู้อบเป็นเวลาเกือบ 3 เดือนรวมอยู่โรงพยาบาล 4 เดือน ออกจากโรงพยาบาลเด็กมา 3 เดือนแล้วตอนนี้อายุได้ 7 เดือน ตอนออกจากโรงพยาบาลหลานชายผอมผิวดำ น้ำหนักตัว 2.5 โล แต่เดี๋ยวนี้เค๊า น้ำหนัก 7 กิโล

ขอขอบพระคุณแพทย์ พยาบาล จนท. โรงพยาบาลราชวิถี โรงพยาบาลเด็กที่ดูแลหลานชายผมอย่างดี

ขอขอบพระคุณรัฐบาลที่มีโครงการดีดี 30 บาทรักษาทุกโรค ที่หลานชายผมใช้บริการ

ผมคิดว่าคงมีผู้ที่ได้ใช้บริการโครงการดีดีของรัฐบาลอีกนับร้อยนับพันนับหมื่นนับแสน กราบขอบพระคุณมากๆครับ

จากใจจริง ที่เขียนมานี้เพื่ออยากขอบคุณรัฐบาลนายกฯปู โรงพยาบาลราชวิถี โรงพยาบาลเด็ก และด้วยความสัตย์จริงผมบอกครอบครัวตลอดว่าถ้าเรามีปัญญาจ่ายเราจ่ายเองเพื่อไม่ต้องไปเบียดกับคนอื่น แต่กรณีหลานชายผมมันเกินฐานะผม ผมจึงขอใช้โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค

รูปหลานชายไปเยี่ยม คุณหมอ-พยาบาล ที่ รพ.เด็ก

เด็กต้องอยู่ตู้อบวันละประมาณหนึ่งหมื่นบาท ที่ผ่านมาหลานผมอยู่ตู้อบประมาณสองเดือนกว่า ค่าผ่าทำคลอดไม่ทราบเท่าไหร่ ที่แพงคือค่าตู้อบ ถ้าปอด-หัวใจมีปัญญาหาจะหนักกว่านี้อีกเห็นหมอบอก

ผมไม่โทษใครครับเพียงแต่มากราบขอบพระคุณเท่านั้น


หลานชายผมโตรู้เรื่องพูดได้ ผมจะเล่าเรื่องของเค้าให้เค้ารู้และให้เค้ากราบขอบพระคุณทุกๆท่านที่ให้ชีวิตเค้า แต่ตอนนี้ขอกราบขอบพระคุณทุกๆท่านแทนหลานชายก่อนครับ

@ มีต่อที่นี่อีกครับ


ยูเอ็นเรียกร้องทุกประเทศจัดหลักประกันสุขภาพให้ประชาชน ยกไทยต้นแบบความสำเร็จ
ประชาไท: Mon, 2012-12-24 00:55

สมัชชาสหประชาชาติมีมติเอกฉันท์รับรองวาระหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า เรียกร้องทุกประเทศจัดหลักประกันสุขภาพ ป้องกันไม่ให้ประชาชนต้องล้มละลายและยากจนจากการจ่ายค่ารักษาพยาบาลเอง ยกตัวอย่างไทยประเทศกำลังพัฒนาที่ทำสำเร็จ เป็นต้นแบบ ให้จีน อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ สร้างหลักประกันสุขภาพ

23 ธ.ค.55 - นพ.จรัล ตฤณวุฒิพงษ์ ประธานคณะอนุกรรมการสื่อสารและประชาสัมพันธ์ กรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆนี้ นสพ.The Guardian ของประเทศอังกฤษ รายงานข่าวว่า ที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติ เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2555 ได้มีมติเป็นเอกฉันท์รับรองวาระหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า หรือ Affordable Universal Healthcare ซึ่งเป็นมติที่เรียกร้องให้ประเทศต่างๆจัดระบบบริการสุขภาพสำหรับประชาชนในประเทศ โดยไม่ต้องจ่ายค่าบริการโดยตรง แต่จ่ายทางอ้อมผ่านระบบภาษี และมีกลไกที่รวมความเสี่ยง เพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนล้มละลายหรือยากจนจากการจ่ายค่ารักษาพยาบาล มตินี้ได้รับการสนับสนุนอย่างมากจากประเทศต่างๆทั่วโลก ทั้งประเทศพัฒนาแล้วและประเทศกำลังพัฒนา เช่น สหรัฐอเมริกา อังกฤษ แอฟริกาใต้ และไทย

กรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กล่าวต่อว่า จากการวิจัยที่มูลนิธิร็อกกี้เฟลเลอร์ให้ทุนสนับสนุนพบว่า ระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าสามารถทำได้ไม่ว่าจะเป็นประเทศใดหรือเศรษฐกิจแบบใด ผลการศึกษาพบว่าแต่ละปี ประชากรโลก 150 ล้านคน ต้องจ่ายค่าบริการสุขภาพแพงมาก เป็นผลให้ 25 ล้านครัวเรือน มีฐานะยากจนลง และมีประชาชนมากกว่า 3,000 ล้านคนต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลด้วยเงินของตนเอง ทำให้ประชาชนโดยเฉพาะผู้หญิงและเด็กจำนวนมากต้องออกจากการเรียนเพื่อนำเงินมาจ่ายค่ารักษาพยาบาล การรับรองมติดังกล่าวนั้น หมายความว่าต่อไปนี้ระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าจะเป็นวาระสำคัญของสหประชาชาติ และเป็นเป้าหมายหนึ่งของการพัฒนาหลังปี 2015 (the post-2015 development goals)

นพ.จรัล กล่าวว่า ทั้งนี้ ที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติได้ยกตัวอย่างความสำเร็จของไทยในฐานะเป็นผู้บุกเบิกการสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าในประเทศกำลังพัฒนา ซึ่งครอบคลุมประชาชนทุกคนตั้งแต่ปี 2545 ประชาชนไทยประมาณ 99% ได้รับสิทธิประโยชน์ด้านบริการสุขภาพที่ครอบคลุม ตั้งแต่การป้องกันโรค /ส่งเสริมสุขภาพ บริการปฐมภูมิ การรักษาพยาบาลทุกระดับ รวมถึงการบริการที่มีค่าใช้จ่ายสูง เช่น รังสีรักษา ยาต้านไวรัสสำหรับผู้ติดเชื้อเอชไอวี และมีความก้าวหน้าในการสร้างความเสมอภาคด้านการรักษาพยาบาล ซึ่งความสำเร็จดังกล่าว เป็นต้นแบบให้ประเทศในกลุ่มอาเซียน เช่น อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และจีน มีแผนที่ชัดเจนที่จะสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าให้ครอบคลุมประชากรของตน

วันศุกร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

03... โถ..โถ..โถ..น่าสมเพชเวทนา เอา"ข้าวนึ่ง"จากไหนไม่รู้ จัดฉากใส่ร้ายเขาเป็นตุเป็นตะ หวัง"ตีกิน"ตามสันดาน!!

@ ภาพหนึ่งภาพ แทนคำพูดล้านคำ..
@ เปิดใจ "พงศพัศ พงษ์เจริญ" ว่าที่ผู้ว่าฯกรุงเทพมหานคร (ย่อมรับคนนี้เก่งจริง)
@ ข้อคิดถึงคุณคน กทม. 3มี.ค.นี้ คุณควรเลือกใครเป็นผู้ว่าฯ ?????
@ ท่านหม่อม!! เหนื่อยนักก็ พักก่อน นะครับ
@ เพิ่งเคยเห็นนายกฯคนแรกนี่แหละ ที่สนับสนุนให้เด็กเก่งคณิตศาสตร์
@ แด่..มนุษย์เงินเดือน "อันความรู้ รู้กระจ่างแต่อย่างเดียว แต่ให้เชี่ยวชาญเถิดจะเกิดผล"
@ สิ่งที่ควรรู้ ก่อนเรียน Master of Business Administration (MBA)
@ ฮู้ยยยย...สติแตกกันไปหมดแย้วทั้งคนเล่นและกองเชียร์แนวร่วม
@ ความเป็นมาของ คดีสะเทือนโลก "ที่ดินรัชดา" ที่ทุกๆคนควรรู้!!!
@ ผมไม่ได้แหล!!! แต่เรื่องดีๆอย่างนี้..clickดูเองเหอะ
@ มือหยาบกร้านคู่นั้น มีแต่เส้นเอ็นปูดโปน...ทำให้ผมนึกถึงมือของผู้หญิงคนหนึ่ง...
@ สาระน่ารู้... เขาซื้อทองคำ ขายทองคำ กันอย่างไร?????

คลิกที่ภาพ...เพื่อดูขนาดที่ใหญ่ขึ้น @ New!! แจกปฏิทินนายกฯปู พ.ศ.2556 คลิกที่นี่...




รมช.ณัฐวุฒิ ตอบกระทู้โครงการรับจำนำข้าว ประชุมสภา 07 2 56

- ตอบคำถามแรก นาที 1.58 ถึง นาที 5.30
- ตอบคำถามที่สอง นาที 13.08 ถึง นาที 17.00
- ตอบคำถามที่สาม นาที 26.28 ถึง นาที 29.32
- ใช้สิทธิ์พาดพิงตบท้าย นาที 34.07 ถึง นาที 35.46
"ผมได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ขององค์การคลังสินค้าซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบข้าวในโกดังเดินทางมารับมอบข้าวกระสอบนี้ และนำไปแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ....."


@ ขอบคุณรัฐบาลนายกฯยิ่งลักษณ์ ที่ทำให้ชาวนาไทยลืมตาอ้าปากได้

โถ..โถ..โถ..น่าสมเพชเวทนา เอา"ข้าวนึ่ง"
จากไหนไม่รู้ จัดฉากใส่ร้ายเขาเป็นตุเป็นตะ
หวัง"ตีกิน"ตามสันดาน!!



ข้าวนึ่ง (Parboiled Rice)
By: ricethailand.go.th

...ถึงคนที่ไม่รู้จักข้าวนึ่ง .. "ข้าวนึ่ง"คือข้าวที่นำมาแช่น้ำแล้วนึ่งหรือต้มให้สุก แล้วค่อยขัดสีเอาเปลือกออก ทำให้ข้าวมีสีเหลืองอย่างที่เห็นกลางสภา..ไม่ใช่ข้าวมันเสีย(เน่า)นะ .. ประเทศแถบตะวันออกกลางนิยมสั่งซื้อข้าวชนิดนี้ เพราะมีวิตามินบางชนิดสูงกว่าข้าวธรรมดา เก็บรักษาได้ง่ายและนานกว่า แต่ไม่เป็นที่นิยมในแถบบ้านเราเพราะกลิ่นและรสอาจไม่เป็นที่คุ้นเคย..."

"ข้าวนึ่ง" เป็นสินค้าออกประเภทข้าวของไทย ถึงแม้จะไม่มีการบริโภคภายในประเทศ แต่ข้าวนึ่งก็เป็นสินค้าออกของไทยมานานแล้ว ปีหนึ่งๆไทยส่งข้าวนึ่งออกประมาณ 7 แสน ถึง 1 ล้านเมตริกตัน คิดเป็นมูลค่าหลายพันล้านบาท

ประเทศที่สั่งซื้อข้าวนึ่งจากไทยได้แก่ประเทศต่างๆในแถบอัฟริกา และ ตะวันออกกลาง เช่น Mozambique Cameroon Somalia Nigeria Benin, Saudi Arabia, Yemen, Oman, Kuwait, Bahrain, Israel และ Lebanon เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีอีกหลายๆประทศใน ยุโรป อเมริกา เช่น Italy, Germany, France และบางประทศในเอเชีย เช่น Bangladesh และ Sri Lanka เป็นต้น

วิธีทำข้าวนึ่งได้มีการพัฒนาขึ้นเรื่อยๆเพื่อปรับปรุงคุณภาพได้ดีขึ้น วิธีล่าสุดของการพัฒนาก่อนถึงการใช้เครื่องจักรกลก็คือ วิธี Parboiled process ซึ่งวิธีแรก คือ Cold soaking method หรือ Single boiling method และวิธีที่ 2 คือ Double boiling method วิธีแรก Single boiling คือ แช่ข้าวแช่ในถังน้ำเย็นธรรมดาเป็นถังซีเมนต์ขนาดใหญ่ มีการหมุนเวียนของน้ำตลอดเวลา เป็นเวลา 24-48 ชั่วโมง ตามด้วยนำข้าวเปลือกที่แช่แล้วไปต้มอุณหภูมิน้ำเดือด 2 ชั่วโมง ขณะต้มมีการคนตลอดเวลาหรือทุกๆ 20 นาที แล้วนำไปทำให้แห้งโดยการตากแดด วิธีที่สอง Double Boiling method พัฒนาจากวิธีแรก โดยครั้งแรกแช่ข้าวเปลือกในน้ำอุ่น (60c) เพื่อให้แบคทีเรียและจุลินทรีย์อื่นๆตาย จากนั้นลดอุณหภูมิเหลือ 30-40c เพื่อให้ spore ของจุลินทรีย์ต่างๆเกิดขึ้นมาอีกครั้ง แล้วจึงนำไปต้มฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ให้หมดจริงๆ จากนั้นก็นำไปทำให้แห้ง วิธีนี้ช่วยลดกลิ่นลงสีข้าวเป็นสีเหลืองแดงแทนน้ำตาลคล้ำ และไม่เหม็นหืน

@ จุดประสงค์ของการทำข้าวนึ่ง

กรรมวิธีการทำข้าวนึ่ง เป็นการปฏิบัติต่อข้าวเปลือกก่อนที่จะนำไปสีโดยมีจุดประสงค์เพื่อลดปริมาณข้าวหักระหว่างการสี ลดการสูญเสียแร่ธาตุอาหารในบางส่วนของเมล็ดข้าวระหว่างการสี และเพิ่มคุณค่าการใช้ประโยชน์จากข้าวเปลือกคุณภาพการสีต่ำหรือข้าวเปลือกเปียก นอกจากนี้ยังมีจุดประสงค์ทางการค้า คือ ผลิตตามความต้องการของผู้บริโภคในบางส่วนของโลกที่เคยชินต่อการบริโภคข้าวนึ่งอีกด้วย

@ วิธีการทำข้าวนึ่ง

กรรมวิธีพื้นฐานของการทำข้าวนึ่งแบ่งออกเป็น 3 ขึ้นตอนที่ต่อเนื่องกันคือ

1. การแช่ (Soaking หรือ Steeping) นำข้าวเปลือกมาแช่น้ำให้มีความชื้นประมาณ 30-40% เพื่อให้แป้งอ่อนตัวลง น้ำที่แช่อาจเป็นน้ำเย็นหรือน้ำร้อนก็ได้ เวลาของการแช่ขึ้นอยู่กับน้ำ น้ำเย็นใช้เวลาแช่ 2-3 วัน น้ำอุ่นหรือน้ำร้อน เวลาการแช่ลดลง

2. การต้มหรือนึ่ง (Steaming) นำข้าวเปลือกขึ้นจากขั้นตอนแรกมาต้มหรือนึ่งให้สุก เพื่อให้แป้งภายในเมล็ดมีลักษณะเป็นวุ้น (gelatinize) สังเกตจากข้างนอกจะเห็นเปลือกเมล็ดข้าวปริมาณเล็กน้อย

3. การทำให้แห้ง (Drying) หลังจากต้มหรือนึ่งแล้วข้าวเปลือกจะถูกนำไปทำให้แห้งซึ่งอาจจะใช้ตากแดดธรรมดา หรือผ่านเครื่องอบแห้งก็ได้ การทำแห้งมีจุดประสงค์เพื่อลดความชื้นให้เหลือ 12-14% ก่อนนำไปสี

@ การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจากกรรมวิธีการทำข้าวนึ่ง

1. เปลือกเมล็ดจะปริเนื่องจากข้าวกล้องขยายตัว

2. การแช่ข้าวเปลือกในน้ำเย็นหลายๆวัน ทำให้เกิดการหมัก (fermentation) ข้าวนึ่งมีกลิ่นเหม็น แก้ไขโดยแช่น้ำอุ่นหรือน้ำร้อนแทนน้ำเย็น

3. ขณะแช่ข้าวเปลือก ความดัน (Pressure) ในน้ำสูงกว่าในเมล็ด ทำให้แร่ธาตุและสารอาหารต่างๆซึ่งอยู่ในเนื้อเยื่อชั้นนอกๆของเมล็ดซึมเข้าไปในส่วนของข้าวสาร ทำให้ข้าวสารนึ่งมีคุณค่าอาหารเพิ่มขึ้น

4. ในขั้นตอนนึ่ง จะเกิดลักษณะที่แป้งสุกเป็นกาวประสานเชื่อมรอยแตกร้าวภายในเมล็ดให้หายไป และเม็ดแป้งสุกขยายตัว จับเป็นเนื้อเดียวกันทำให้ช่องว่างภายในเม็ดข้าวสารที่เรามองเห็นเป็นลักษณะท้องไข่หายไปด้วย ดังนั้น ข้าวนึ่งเมื่อทำให้แห้ง แล้วนำไปสีจึงได้ปริมาณข้าวเต็มเมล็ดและต้นข้าวสูง ข้าวหักน้อย ข้าวสารใสไม่เป็นท้องไข่

5. ข้าวเปลือกเมื่อแช่น้ำ พวกแร่ธาตุและสารอาหารต่างๆ เช่น free sugar และ amino acid จะซึมเข้าไปส่วนที่เป็นแป้ง เมื่อนำไปนึ่ง เกิดการเปลี่ยนแปลงทางเคมีของสารเหล่านี้เรียกว่า browning reaction ทำให้ข้าวสารมีสีน้ำตาลอ่อนหรือคล้ำ แล้วแต่วิธีการแช่และนึ่ง

@ คุณภาพข้าวนึ่ง

ข้าวนึ่งคุณภาพดี พิจารณาจากสิ่งต่างๆ ดังนี้ คือ

สี : ควรเป็นสีเหลืองอ่อน หรือน้ำตาลอ่อน

กลิ่น : เมื่อหุงสุกแล้วควรมีกลิ่นน้อยที่สุด

คุณภาพการสี : สีได้เนื้อ มีข้าวหักน้อย

ลักษณะเมล็ด : ใส แกร่ง ไม่มีท้องไข่ ขนาดรูปร่างเมล็ดเหมือนข้าวธรรมดา

ลักษณะข้าวสุก : เมื่อหุงสุกแล้วเมล็ดร่วนไม่ติดกัน

@ ปัจจัยที่ต้องควบคุมในการทำข้าวนึ่ง

1. ข้าวเปลือกหรือวัตถุดิบสำหรับทำข้าวนึ่ง ควรมีสีของเปลือกและสีชั้นปลอกรำ อ่อน เช่น ขาว (ฟาง) หรือน้ำตาล เมล็ดอยู่ในสภาพสะอาด ไม่มีรอยแมลงกัดกินหรือเชื้อราทำลาย

2. ต้องควบคุมอุณหภูมิของน้ำและระยะเวลาการแช่ให้พอเหมาะ เพื่อป้องกันการเกิดกลิ่นและสีที่ไม่ดีของข้าวนึ่ง ** ในการแช่ควรทำให้มีการหมุนเวียนของน้ำและข้าวด้วย เพื่อป้องกันความร้อนสะสมซึ่งจะทำให้เกิดเมล็ดผิดปรกติ (deform grain)

3. อุณหภูมิและเวลาขณะนึ่งต้องควบคุมให้พอเหมาะ ไม่ควรให้สูงเกินไปเพราะจะมีผลต่อสีข้าวนึ่ง ลักษณะเมล็ดผิดปรกติ (deform grain) และข้าวสารแข็งเกินไปเมื่อใช้เวลานาน

4. การทำให้แห้ง ต้องเป็นไปอย่างช้าๆ และสม่ำเสมอ ถ้าใช้ความร้อนสูงเกินไปและทำให้แห้งรวดเร็ว ข้าวจะแตกร้าว สีแล้วหักมากขึ้น

5. ความชื้นของข้าวนึ่งไม่ควรเกิน 14% เมื่อเก็บไว้ในยุ้งฉางหรือโกดัง ทั้งนี้เพื่อป้องกันการทำลายของ จุลินทรีย์โดยเฉพาะเชื้อราต่างๆ

@ เปรียบเทียบข้าวนึ่งกับข้าวธรรมดา

1. ข้าวนึ่งกะเทาะเปลือกง่ายกว่าข้าวธรรมดา

2. ข้าวนึ่งใช้เวลาและการขัดสีมากกว่าข้าวธรรมดา

3. ข้าวนึ่งคุณภาพการสีดีกว่า ข้าวหักน้อยกว่าข้าวธรรมดา

4. ข้าวนึ่งเก็บรักษาได้นานกว่าข้าวธรรมดา เพราะ enzyme lypase ถูกทำลาย

5. หากข้าวธรรมดาเป็นท้องไข่ เมื่อทำเป็นข้าวนึ่งแล้วเมล็ดจะใสไม่เป็นท้องไข่

6. ข้าวสารนึ่ง มีไวตามิน บี และ อี สูงกว่าข้าวสารธรรมดา (พันธุ์เดียวกัน)

7. ข้าวนึ่งใช้เวลาหุงต้มนานกว่าข้าวธรรมดา

8. ข้าวนึ่งหุงขึ้นหม้อกว่าข้าวธรรมดา เพราะการทำข้าวนึ่งเป็นการทำให้ข้าวเก่า

9. ข้าวนึ่งย่อยง่ายกว่าข้าวธรรมดาเพราะแป้งสุกไปครั้งหนึ่งแล้ว Chain ของ glucose ถูกทำลายไปแล้ว

10. รำข้าวนึ่งมีน้ำมัน 25-30% ในขณะที่ข้าวธรรมดามีเพียง 15-20%

11. ข้าวนึ่งมีกลิ่นและรสไม่เป็นที่ต้องการของผู้บริโภคที่คุ้นเคยกับข้าวธรรมดา

12. ข้าวนึ่งเพาะไม่งอก แต่ข้าวธรรมดางอก (ถ้ายังมีชีวิต)

13. ข้าวนึ่งมีต้นทุนการผลิตสูงกว่าข้าวธรรมดา


Comment...

By charawon : โกหกคนกรุงคงได้นะหมอ.. แต่โกหกลูกชาวนาอย่างผมไม่ได้.. ข้าวเปลือกหรือข้าวสารไม่มีเน่าครับ มีแต่หมอนั่นแหละจะเน่า..

ข้าวเปลือกหรือข้าวสารต่อให้แช่น้ำเป็นเดือนมันก็ไม่เน่าครับ.. ข้าวเปลือกโดนน้ำหรือความชื้นพอเหมาะมันก็จะงอก..มันไม่เน่า.. ข้าวเปลือกก่อนบรรจุกระสอบเขาตากแดดไล่ความชื้น..ไม่มีโอกาสงอกและเน่า.. ข้าวเปลือกถ้าเสื่อมคุณภาพก็แค่ เปราะ ร่วน สีไม่เป็นตัว..ถึงขึ้นราก็ไม่เน่า..

เคยเห็นข้าวสารที่ไหนเน่าบ้าง.. ยิ่งอยู่ในกระสอบข้าวโอกาสเน่าเป็นศูนย์ อย่างเก่งก็แค่มีมดและมอดมากินเท่านั้น.. ลองเอาข้าวสารแช่น้ำทิ้งไว้ดูซิว่า มันจะเน่าสลายรึป่าว.. ถ้าเป็นข้าวสุกถึงจะบูดเน่าได้

สรุป หมอไปเอาข้าวกระสอบนั้นมาจากไหน ก็โดนทั้งนั้นครับ ขโมย หรือ หลักฐานเท็จ

ถ้าเอามาจริง >>> ผิดข้อหาขโมยทรัพย์สินของทางราชการ และรับหรือรับซื้อของโจร

ถ้าเอามาไม่จริง >>> ผิดข้อหา สร้างหลักฐานเท็จ ใส่ร้ายป้ายสีรัฐบาล


02... หึหึ ปวดตับละทีนี้ จะรุกเขมิบม้า เจอสวนรุกฆาต โบราณว่า..เดินไม่ดูตาม้าตาเรือ!!

@ ภาพหนึ่งภาพ แทนคำพูดล้านคำ..
@ เปิดใจ "พงศพัศ พงษ์เจริญ" ว่าที่ผู้ว่าฯกรุงเทพมหานคร (ย่อมรับคนนี้เก่งจริง)
@ ข้อคิดถึงคุณคน กทม. 3มี.ค.นี้ คุณควรเลือกใครเป็นผู้ว่าฯ ?????
@ ท่านหม่อม!! เหนื่อยนักก็ พักก่อน นะครับ
@ เพิ่งเคยเห็นนายกฯคนแรกนี่แหละ ที่สนับสนุนให้เด็กเก่งคณิตศาสตร์
@ แด่..มนุษย์เงินเดือน "อันความรู้ รู้กระจ่างแต่อย่างเดียว แต่ให้เชี่ยวชาญเถิดจะเกิดผล"
@ สิ่งที่ควรรู้ ก่อนเรียน Master of Business Administration (MBA)
@ ฮู้ยยยย...สติแตกกันไปหมดแย้วทั้งคนเล่นและกองเชียร์แนวร่วม
@ ความเป็นมาของ คดีสะเทือนโลก "ที่ดินรัชดา" ที่ทุกๆคนควรรู้!!!
@ ผมไม่ได้แหล!!! แต่เรื่องดีๆอย่างนี้..clickดูเองเหอะ

คลิกที่ภาพ...เพื่อดูขนาดที่ใหญ่ขึ้น @ New!! แจกปฏิทินนายกฯปู พ.ศ.2556 คลิกที่นี่...



รมช.ณัฐวุฒิ ตอบกระทู้โครงการรับจำนำข้าว ประชุมสภา 07 2 56

- ตอบคำถามแรก นาที 1.58 ถึง นาที 5.30
- ตอบคำถามที่สอง นาที 13.08 ถึง นาที 17.00
- ตอบคำถามที่สาม นาที 26.28 ถึง นาที 29.32
- ใช้สิทธิ์พาดพิงตบท้าย นาที 34.07 ถึง นาที 35.46
"ผมได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ขององค์การคลังสินค้าซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบข้าวในโกดังเดินทางมารับมอบข้าวกระสอบนี้ และนำไปแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ....."


@ ขอบคุณรัฐบาลนายกฯยิ่งลักษณ์ ที่ทำให้ชาวนาไทยลืมตาอ้าปากได้


คลิปนี้..รมช.ณัฐวุฒิเผยเบื้องหน้าเบื้องหลัง เริ่มนาที 13.15 เป็นต้นไป

http://www.thairath.co.th/content/pol/325502

http://www.dailynews.co.th/thailand/183440

http://www.dailynews.co.th/politics/183685

http://breakingnews.nationchannel.com/home/read.php?newsid=670058&lang=T&cat=&key=


Comment...

By imtj : เค้าเรียกเดินไม่ดูตาม้าตาเรือ กะจะเข้ารุก แต่โดนม้าเตะกลับมา จะหนีก็ไม่ได้โดนเรือดักอยู่อีก... กะกินเค้าฟรี งานนี้สงสัยต้องยอมสละเรือซะแล้วว

By charawon : โกหกคนกรุงคงได้นะหมอ.. แต่โกหกลูกชาวนาอย่างผมไม่ได้.. ข้าวเปลือกหรือข้าวสารไม่มีเน่าครับ มีแต่หมอนั่นแหละจะเน่า..

ข้าวเปลือกหรือข้าวสารต่อให้แช่น้ำเป็นเดือนมันก็ไม่เน่าครับ.. ข้าวเปลือกโดนน้ำหรือความชื้นพอเหมาะมันก็จะงอก..มันไม่เน่า.. ข้าวเปลือกก่อนบรรจุกระสอบเขาตากแดดไล่ความชื้น..ไม่มีโอกาสงอกและเน่า.. ข้าวเปลือกถ้าเสื่อมคุณภาพก็แค่ เปราะ ร่วน สีไม่เป็นตัว..ถึงขึ้นราก็ไม่เน่า..

เคยเห็นข้าวสารที่ไหนเน่าบ้าง.. ยิ่งอยู่ในกระสอบข้าวโอกาสเน่าเป็นศูนย์ อย่างเก่งก็แค่มีมดและมอดมากินเท่านั้น.. ลองเอาข้าวสารแช่น้ำทิ้งไว้ดูซิว่า มันจะเน่าสลายรึป่าว.. ถ้าเป็นข้าวสุกถึงจะบูดเน่าได้

สรุป หมอไปเอาข้าวกระสอบนั้นมาจากไหน ก็โดนทั้งนั้นครับ ขโมย หรือ หลักฐานเท็จ

ถ้าเอามาจริง >>> ผิดข้อหาขโมยทรัพย์สินของทางราชการ และรับหรือรับซื้อของโจร

ถ้าเอามาไม่จริง >>> ผิดข้อหา สร้างหลักฐานเท็จ ใส่ร้ายป้ายสีรัฐบาล

01... ที่ปรึกษาอัคคีภัยเซ็นทรัลฯ ยันจำเลยคดีเผาเซ็นทรัลเวิลด์ ไม่สามารถวางเพลิงได้

@ ภาพหนึ่งภาพ แทนคำพูดล้านคำ..
@ เปิดใจ "พงศพัศ พงษ์เจริญ" ว่าที่ผู้ว่าฯกรุงเทพมหานคร (ย่อมรับคนนี้เก่งจริง)
@ ข้อคิดถึงคุณคน กทม. 3มี.ค.นี้ คุณควรเลือกใครเป็นผู้ว่าฯ ?????
@ ท่านหม่อม!! เหนื่อยนักก็ พักก่อน นะครับ
@ เพิ่งเคยเห็นนายกฯคนแรกนี่แหละ ที่สนับสนุนให้เด็กเก่งคณิตศาสตร์
@ แด่..มนุษย์เงินเดือน "อันความรู้ รู้กระจ่างแต่อย่างเดียว แต่ให้เชี่ยวชาญเถิดจะเกิดผล"
@ สิ่งที่ควรรู้ ก่อนเรียน Master of Business Administration (MBA)
@ ฮู้ยยยย...สติแตกกันไปหมดแย้วทั้งคนเล่นและกองเชียร์แนวร่วม
@ ความเป็นมาของ คดีสะเทือนโลก "ที่ดินรัชดา" ที่ทุกๆคนควรรู้!!!
@ ผมไม่ได้แหล!!! แต่เรื่องดีๆอย่างนี้..clickดูเองเหอะ

คลิกที่ภาพ...เพื่อดูขนาดที่ใหญ่ขึ้น @ New!! แจกปฏิทินนายกฯปู พ.ศ.2556 คลิกที่นี่...


ยัน จนท.ยิงวัดปทุม >>> 3ตร.เบิกความ มีภาพถ่าย-คลิป หลักฐานคดี 6 ศพ คลิกดูที่นี่...


คลิกที่ภาพ...เพื่อดูขนาดที่ใหญ่ขึ้น




ที่ปรึกษาอัคคีภัยเซ็นทรัลฯ ยันจำเลยคดีเผาเซ็นทรัลเวิลด์ ไม่สามารถวางเพลิงได้
By: ข่าวสดออนไลน์

นัดพิพากษาคดีเผาเซ็นทรัลเวิลด์ 25 มี.ค.56นี้ สืบพยานครั้งสุดท้าย ที่ปรึกษาอัคคีภัยเครือเซ็นทรัลเบิกความไฟไหม้เพราะกองกำลังแต่งกายคล้ายทหาร ตำรวจยังไม่กล้ายุ่ง เผยช่วงเพลิงไหม้ทหารคุมพื้นที่ทั้งหมด 9 ผู้ถูกจับกุมในที่เกิดเหตุไม่มีความสามารถวางเพลิง ด้านนายจ้าง "สายชล" ยันวันเกิดเหตุขายของที่ห้างอิมฯลาดพร้าว

เว็บข่าวประชาไท รายงานว่า เมื่อวันที่ 28 ม.ค.56 เวลา 13.00 น. ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ห้องพิจารณาคดี 405 มีการสืบพยานจำเลยในคดีหมายเลขดำที่ 2478/2553 ซึ่งพนักงานอัยการสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ฟ้องนายสายชล แพบัว จำเลยที่ 1 อายุ 28 ปี (ในวันเกิดเหตุ) อาชีพรับจ้าง และนายพินิจ จันทร์ณรงค์ จำเลยที่ 2 อายุ 26 ปี (ในวันเกิดเหตุ) อาชีพรับจ้าง ในความผิดร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์ผู้อื่นซึ่งเป็นโรงเรือนที่เก็บสินค้าจนเป็นเหตุให้นายกิตติพงษ์ สมสุข ซึ่งอยู่ในอาคารเซ็นทรัลเวิลด์ถึงแก่ความตายและฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เหตุเกิดที่ ห้างเซ็นทรัลเวิลด์ ช่วงบ่ายวันที่ 19 พ.ค.53 ซึ่งมีการสลายการชุมนุมของแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) โดยคดีนี้เป็นคดีเดียวกันกับกรณีผู้ต้องหา 2 คนที่เป็นเยาวชนซึ่งศาลเยาวชนและครอบครัวกลางได้พิพากษายกฟ้องไปแล้ว เมื่อวันที่ 12 ธ.ค.55

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการสืบพยานจำเลย 2 ปากสุดท้าย คือ พ.ต.ต.เสงี่ยม สำราญรัตน์ อายุ 61 ปี แกนนำ นปช.จังหวัดชุมพร ปัจจุบันเป็นข้าราชการการเมืองประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ผู้เป็นนายจ้างนายสายชลจำเลยที่ 1 ที่จ้างให้ขายของที่ร้าน ชั้น 4 ห้างอิมพีเรียลเวิลด์ ลาดพร้าว และ พ.ต.ท.ชุมพล บุญประยูร อายุ 72 ปี พนักงานราชการ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย,เลขาธิการสมาคมอาสาสมัครบรรเทาสาธารณภัยแห่งประเทศไทยและที่ปรึกษาด้านอัคคีภัยกลุ่มบริษัทเซ็นทรัลพัฒนามากว่า 20 ปีในฐานะผู้ควบคุมการดับเพลิงในเซ็นทรัลเวิลด์

- แกนนำ นปช.นายจ้าง "สายชล" ยันอยู่อิมพีเรียลเวิลด์ลาดพร้าววันเกิดเหตุ

พ.ต.ต.เสงี่ยม สำราญรัตน์ เบิกความว่าเกี่ยวข้องกับการชุมนุมของกลุ่ม นปช.ในปี 53 นั้นทำหน้าที่ดูแลพื้นที่ ความสงบเรียบร้อย ประสานงานมวลชนเสื้อแดงกับเวทีปราศรัย โดยรู้จักกับสายชล จำเลยที่ 1 จากการที่ตนเองมาปราศรัยที่สนามหลวงหลังเหตุการณ์การรัฐประหาร 19 ก.ย.49 เป็นต้นมา โดยขณะนั้นตนสังกัดอยู่กลุ่มอิสระ เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลขณะนั้นจัดให้มีการเลือกตั้ง นายสายชลขณะนั้นใช้สนามหลวงเป็นที่พักและมีอาชีพรับจ้างทั่วไป

เขาเบิกความต่อว่าได้เปิดร้านค้าที่ห้างอิมพีเรียลเวิลด์ลาดพร้าวชั้น 4 เพื่อขายของกิน ของที่ระลึกของคนเสื้อแดง รวมทั้ง VCD เผยแพร่ประชาธิปไตยซึ่งเป็นเทปบันทึกการปราศรัยของแกนนำแต่ละคน และเห็นว่านายสายชล มีพฤติกรรมดี ซื่อสัตย์ จึงได้จ้างวันละ 300 บาท เพื่อมาขายของที่ร้านพร้อมยืนยันว่าในช่วงปิดล้อมการชุมนุม วันที่ 12-19 พ.ค.53 พยานได้ฝากร้านค้าที่ห้างอิมพีเรียลเวิลด์ลาดพร้าว ให้นายสายชลดูแล

ภาพซ้าย : ภาพที่ รปภ.ห้างเซ็นทรัลเวิลด์ มอบให้พนักงานสอบสวนและถูกนำมาใช้เป็นหลักฐานในการจับกุมโดยเจ้าหน้าที่เชื่อว่าภาพชายชุดดำดังกล่าวคือจำเลยที่ 1 ในที่เกิดเหตุ
ภาพขวา : นายสายชล จำเลยที่ 1 ขณะถูกนำตัวมาแถลงข่าวหลังถูกจับกุม เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.53 ภาพจากเว็บไซต์มติชน


ทนายจำเลยที่ 1 ได้นำภาพที่ใช้เป็นหลักฐานในการจับกุมและดำเนินคดีกับนายสายชล จำเลยที่ 1 (ดูภาพซ้ายประกอบ) ให้ พ.ต.ต.เสงี่ยม พิจารณาดูว่าเป็นนายสายชลหรือไม่นั้น พ.ต.ต.เสงี่ยม ได้ยืนยันต่อศาลว่าไม่ใช่ หลังจากนั้นทนายได้นำภาพที่นายสายชลขณะถูกนำตัวมาแถลงข่าวหลังถูกจับกุม เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.53 (ภาพประกอบ) พ.ต.ต.เสงี่ยม ได้ยืนยันต่อศาลว่าคนในภาพนี่คือนายสายชล

พ.ต.ต.เสงี่ยม ยังได้เบิกความต่อศาลถึงความเห็นที่มีการจับกุมตัวนายสายชลด้วยว่า หลังสลายการชุมนุม 19 พ.ค.53 นั้น ตนเองถูกผู้มีอำนาจผ่าน DSI ขอหมายจับข้อหาก่อการร้าย แต่ทราบว่าศาลไม่ได้ดำเนินการ อย่างไรก็ตามตนเองได้หลบไปต่างประเทศช่วงนั้นจึงคิดว่าในช่วงนั้นรัฐบาลพยายามที่จะตามหาตัวตนเอง การที่นายสายชลถูกจับนั้นก็อาจเป็นเพราะมีความใกล้ชิดกับตนเอง

พ.ต.ต.เสงี่ยม เบิกความต่อด้วยว่า จากประสบการณ์การเป็นตำรวจ คนเร่ร่อนหรือคนที่ที่อยู่สนามหลวง บางครั้งสายสืบก็จะใช้หรือจ้างหรือบังคับให้คนเหล่าเป็นสายสืบหาตัวผู้กระทำความผิดกฎหมายต่างๆ ซึ่งหากไม่ทำก็อาจมีปัญหากับเจ้าหน้าที่ สำหรับนายสายชลนั้นทราบว่าเคยมีปัญหากับเจ้าหน้าที่ทั้งตำรวจและเทศกิจ เช่น การไล่ร้าน แต่ตอนมาทำงานกับพยานที่ห้างอิมพีเรียลเวิลด์ลาดพร้าวนั้นไม่มีปัญหากับเจ้าหน้าที่

- ที่ปรึกษาอัคคีภัยเครือเซ็นทรัล เบิกความโยง "ชายชุดคล้ายทหาร"

พ.ต.ท.ชุมพล บุญประยูร เลขาธิการสมาคมอาสาสมัครบรรเทาสาธารณภัยแห่งประเทศไทยและที่ปรึกษาด้านอัคคีภัยกลุ่มบริษัทเซ็นทรัลพัฒนา เบิกความว่า ช่วง 2 เดือนที่มีการชุมนุมบริเวณสี่แยกราชประสงค์ของ นปช. นั้นได้วางแผนป้องกันความปลอดภัยและอัคคีภัยให้กับห้างเซ็นทรัลเวิลด์ โดยในเซ็นทรัลเวิลด์มีทีมดับเพลิงมืออาชีพที่เป็นพนักงานประจำอยู่ถึง 25 คน ดังนั้นจากประสบการณ์แล้วเห็นว่าห้างนี้มีระบบรองรับทุกอย่าง หากเกิดไฟไหม้เล็กๆ พนักงานหรือแม่บ้านก็สามารถดับได้ แต่หากเป็นเพลิงไหม้ขนาดใหญ่ก็จะมีพนักงานดับเพลิงมืออาชีพคอยป้องกันอยู่ ถือได้ว่ามีระบบการป้องกันอัคคีภัยเป็นหนึ่งในเอเชียก็ว่าได้ และได้มาตรฐานระดับสากล

ทนายจำเลยที่ 1 ได้ยกข้อความของ พ.ต.ท.ชุมพล ที่เคยให้สัมภาษณ์ในหนังสือ "ความลับหลังฉาก เผาเซ็นทรัลเวิลด์" ที่จัดพิมพ์โดย สำนักพิมพ์โลกวันนี้ หน้า 11 อ่านให้พ.ต.ท.ชุมพล ฟังเนื้อหาระบุว่า

"ตลอดเวลา 2 เดือนเต็มๆเราได้ประสานไมตรีกับผู้ชุมนุมมาเป็นอย่างดีโดยเฉพาะพวกการ์ดแทบจะรู้จักกันทุกคนแต่ในวันเกิดเหตุเผาเซ็นทรัลเวิลด์ขอบอกว่าไม่เห็นหน้าคนเหล่านั้นเลย มีแต่พวกที่เรียกตัวเองว่ากองกำลังไม่ทราบฝ่าย กลุ่มนี้แหละที่เขาบอกว่าเป็นผู้ก่อการร้าย เป็นผู้ก่อการร้ายที่แม้แต่ตำรวจและทหารก็ไม่กล้าแตะ ถ้าแตะมันก็ต้องมีศพกันบ้างหละ แต่นี่ไม่ คนกลุ่มนี้เข้าออกในที่เกิดเหตุโดยไม่มีใครกล้าทำอะไรพวกเขา เจ้าหน้าที่มีข้อมูลทุกอย่างแต่ทำไมถึงจับคนร้ายไม่ได้"

หลังจากนั้น พ.ต.ท.ชุมพล ได้ยืนยันต่อศาลว่าตนเองเป็นผู้พูดเช่นนั้น โดยหลังการสลายการชุมนุมได้มีคนมาสัมภาษณ์และนำไปลงในหนังสือ "คนช่วยคน" ของสมาคมอาสาสมัครบรรเทาสาธารณภัยแห่งประเทศไทย ที่ตนเองเป็นเลขาธิการอยู่ และคาดว่าหนังสือความลับหลังฉากฯ ได้นำไปเผยแพร่ต่อ

ที่ปรึกษาอัคคีภัยเครือเซ็นทรัลเบิกความต่อด้วยว่า ในห้างมีสปริงเกอร์ทุกๆ 3 เมตร แต่เหตุการณ์เพลิงไหม้ที่เกิดขึ้นในวันที่ 19 พ.ค.53 นั้นอยู่นอกเหนือจากความสามารถของพนักงานดับเพลิง เพราะไม่สามารถดับเพลิงได้ พนักงานดับเพลิงปฏิบัติหน้าที่ได้เฉพาะในตอนต้นที่มีคนกลุ่มแรกเข้ามา รปภ. ที่มีกว่า 180 คนก็สามารถผลักดันออกไปได้ แต่เมื่อมีคนกลุ่มที่ 2 เข้ามาอีก รปภ.ได้แจ้งว่ามีการปาระเบิดเข้าใส่พนักงานจนทำให้มีคนบาดเจ็บ จึงได้มีการร้องขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามา เมื่อตำรวจเข้ามาในห้างประมาณ 25 คน ได้มีการจับกุมคนที่เข้ามาหลบซ่อนตัวในห้าง ก่อนที่จะถอนกำลังออกไปเมื่อพบผู้บุกรุกชุดที่สองซึ่งมีอาวุธอยู่ด้านหน้าของห้าง

เขาขยายความต่อว่า ชุดแรกที่เข้ามานั้นมีประมาณ 14 คน เข้ามาจาก 2 ด้านคือด้านถนนพระราม 1 และถนนราชดำริ ซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้าเซน (ZEN) ในเวลาประมาณเกือบ 14.00 น. โดยทุบกระจกเข้ามาในห้าง แต่ รปภ.ที่มีจำนวนถึง 180 คนก็ได้ไล่คนเหล่านั้นออกไป ต่อมาเวลาประมาณ 15.00 น. จากการตรวจสอบกล้อง CCTV เห็นว่ามีกลุ่มคนชุดที่สอง ประมาณ 7-8 คน แต่งกายคล้ายทหารและมีอาวุธด้วยเข้ามาทางด้านห้างเซ็นทรัลเวิลด์ รปภ.พยายามต้านทานไม่ให้คนกลุ่มนี้เข้ามาแต่กลับถูกปาระเบิดใส่ ตำรวจในเครื่องแบบเข้ามาช่วยก็ยังต้องถอนกำลังออกไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทนายได้นำภาพผู้ถูกจับกุม 9 คนซึ่งถูกตำรวจจับกุมตัวในห้างฯ โดยนำมาจากหนังสือ "ความลับหลังฉาก เผาเซ็นทรัลเวิลด์" หน้า 27 ซึ่ง 1 ในนั้นมีจำเลยที่ 2 (พินิจ) รวมอยู่ด้วยให้ พ.ต.ท.ชุมพล จากนั้น พ.ต.ท.ชุมพล ได้ยืนยันต่อศาลว่า 9 คนนี้เป็นพวกที่หลบอยู่ในห้างไม่มีอาวุธและไม่ใช่กลุ่มคนที่มีอาวุธดังกล่าว โดยเขาได้รับการยืนยันจากหัวหน้า รปภ.ที่อยู่ในที่เกิดเหตุด้วย

ภาพ 9 คนที่ถูกตำรวจจับกุมตัวในห้างฯจากหนังสือ "ความลับหลังฉาก เผาเซ็นทรัลเวิลด์" หน้า 27

พ.ต.ท.ชุมพล เบิกความต่อว่า หลังจากที่ตำรวจทั้ง 25 คน ถอนกำลังออกจากห้างไปทำให้ รปภ.และพนักงานดับเพลิงเสียขวัญกำลังใจ จึงได้ไปรวมตัวที่จุดรวมพลตรงลานจอดรถใกล้โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ เพื่อให้ฝ่ายบริหารห้างตัดสินใจ เนื่องจากพนักงานเหล่านั้นไม่มีหลักประกันความปลอดภัยในการปฏิบัติงาน สุดท้ายจึงได้ตัดสินใจออกจากห้างทั้งหมดในเวลาประมาณ 16.40 น.

เขากล่าวด้วยว่า หลังจากนั้นเวลาประมาณ 19.00 น.เศษ ทางสมาคมอาสาสมัครบรรเทาสาธารณภัยแห่งประเทศไทยได้รับการขอร้องจากเซ็นทรัลเวิลด์อีกให้เข้าไปช่วยดับไฟแต่ก็ไม่สามารถเข้าไปได้เนื่องจากไม่ได้รับการยืนยันความปลอดภัยจากเจ้าหน้าที่ทหารกว่าจะได้เข้าไปถึงพื้นที่ได้ก็เวลาประมาณ 22.00 น. และจากการตรวจสอบ CCTV จากห้างเกษรพลาซ่าที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับห้างเซ็นทรัลเวิลด์นั้นพบว่า เวลาประมาณ 21.00 น.กว่าๆ ตึกก็ได้ถล่มลงมาแล้ว และพื้นที่รอบๆนั้นถูกควบคุมโดยกองกำลังของทหารทั้งหมด แม้กระทั่งตอนออกจากห้างในช่วงเย็นทางด้านหลังห้างพารากอนก็มีทหารควบคุมพื้นที่อยู่ รถพยาบาลหรือ รปภ.วิ่งออกมาจากพื้นที่ก็ยังต้องผ่านด่านทหาร

ทนายได้ถามด้วยว่า หลังสลายการชุมนุมของ นปช. บริเวณห้างและรอบๆนั้น จากที่พยานได้รับรายงานและประสานงานนั้นเป็นหน่วยไหนที่ควบคุมพื้นที่ พ.ต.ท.ชุมพล เบิกความว่าเป็นเจ้าหน้าที่ทหารของ ศอฉ.

"ทีมงานเราอยู่ภายในถ้าไม่ไล่เราออกไป มันเรื่องเล็กสำหรับไฟขนาดนั้น ในอาคารมีอุปกรณ์พร้อม น้ำในห้างก็มีจำนวนมหาศาลทั้ง 3 อาคารเชื่อมต่อกัน ระบบแรงดันน้ำภายในห้างก็ใช้ได้ ถ้าไม่ไล่เราออกไม่มีทางจะไหม้ ส่วนคนที่ไล่เราออกไปนั้นคือกลุ่มคนที่มีอาวุธ มีการโยนระเบิด ขนาดตำรวจยังต้องหนี" ที่ปรึกษาฯกล่าว

เขาเบิกความต่อว่า เมื่อออกไปแล้วก็กลับเข้ามายากมากเพราะต้องติดด่านที่ทหารตั้งอยู่ ตั้งแต่ด่านตรงเพชรบุรี สะพานหัวช้าง และถนนพระราม 1 ก็ไม่ให้เข้า เลยต้องขอเข้าด้านหลังแทน

พ.ต.ท.ชุมพล เบิกความย้ำด้วยว่า "ไม่มีที่ไหนในโลกหรอกที่เขาไม่เคลียร์พื้นที่ให้กับทีมดับเพลิง ตั้งแต่เย็นไม่มีใครเคลียร์พื้นที่ให้ ปล่อยให้มันไหม้ได้อย่างนั้น"

ที่ปรึกษาด้านอัคคีภัยเครือเซ็นทรัล เบิกความภายหลังทนายได้นำภาพถ่ายที่ถูกนำมาใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินคดีกับนายสายชล ซึ่งเป็นรูปชายชุดดำกำลังถือถังสีเขียวว่า ภาพดังกล่าวถ่ายในบริเวณห้าง ส่วนถังสีเขียวในรูปเป็นถังดับเพลิง ซึ่งในตัวห้างก็มีถังในลักษณะนี้อยู่ ยืนยันว่าไม่ใช่ถังแก๊ส และเครื่องดับเพลิงไม่สามารถใช้เป็นอุปกรณ์ในการวางเพลิงได้

ภาพชายชุดดำกำลังถือถังสีเขียวที่ใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินคดีกับนายสายชล

อัยการได้ซักค้านพยานด้วยว่า กลุ่มคนกลุ่มที่สองซึ่งติดอาวุธ 7-8 คนที่เข้ามาในห้างที่พยานระบุว่ามีการแต่งกายคล้ายทหารนั้นมีลักษณะอย่างไร พ.ต.ท.ชุมพล ตอบว่าดูจากกล้อง CCTV ประกอบกับที่ได้รับการยืนยันจากหัวหน้า รปภ.แล้วคาดว่าเป็นชุดปฏิบัติการรบในลักษณะปฏิบัติการพิเศษแน่นอน เครื่องแต่งกายมีหมวกเหล็ก ท็อปบู๊ต ชุดพรางและมีฮู้ดปิดหน้า

พ.ต.ท.ชุมพล เบิกความยืนยันตอนท้ายด้วยว่า เมื่อพิจารณาจากปัจจัยหลายๆอย่างทั้งระบบการป้องกันอัคคีภัยและรายงานจากทีมดับเพลิงในที่เกิดเหตุเห็นว่า ผู้ถูกจับกุมทั้ง 9 คนที่ถูกจับในห้างนั้นไม่มีความสามารถในการวางเพลิงได้

หลังเสร็จสิ้นการสืบพยาน ศาลได้นัดพิพากษาคดีนี้ในวันที่ 25 มี.ค.53 เวลา 9.00 น. ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้

ทั้งนี้นายสายชล แพบัว จำเลยที่ 1 และนายพินิจ จันทร์ณรงค์ จำเลยที่ 2 ปัจจุบันยังคงถูกคุมขังที่เรือนจำชั่วคราวหลักสี่หรือโรงเรียนพลตำรวจบางเขน โดยไม่ได้รับสิทธิการประกันตัวมาตั้งแต่กลางปี 2553




ที่มา: prachatai.com