@ เพิ่งเคยเห็นนายกฯคนแรกนี่แหละ ที่สนับสนุนให้เด็กเก่งคณิตศาสตร์
@ แด่..มนุษย์เงินเดือน "อันความรู้ รู้กระจ่างแต่อย่างเดียว แต่ให้เชี่ยวชาญเถิดจะเกิดผล"
@ สิ่งที่ควรรู้ ก่อนเรียน Master of Business Administration (MBA)
@ ฮู้ยยยย...สติแตกกันไปหมดแย้วทั้งคนเล่นและกองเชียร์แนวร่วม
@ ความเป็นมาของ คดีสะเทือนโลก "ที่ดินรัชดา" ที่ทุกๆคนควรรู้!!!
@ ผมไม่ได้แหล!!! แต่เรื่องดีๆอย่างนี้..clickดูเองเหอะ
@ สาระน่ารู้... เขาซื้อทองคำ ขายทองคำ กันอย่างไร?????
@ เฮ้อ!! ณ นาทีนี้..บอกได้คำเดียว เสียดาย..เสียดายครับ...นโยบายดีๆที่คน กทม. ไม่เอ๊า..ไม่เอา...
@ ใครคิดถึง มานี..มานะ..ปิติ..ชูใจ..วีระ.. โหลดไปอ่านรำลึกความหลังกันได้!!
@ จะทำอย่างไร? ถูกเลิกจ้าง..ลาออก..ว่างงาน..ชราภาพ55ปี,เกิน60ปี
คลิกที่ภาพ...เพื่อดูขนาดที่ใหญ่ขึ้น @ New!! แจกปฏิทินนายกฯปู พ.ศ.2556 คลิกที่นี่...
คลิกที่ภาพ...เพื่อดูขนาดที่ใหญ่ขึ้น
ได้ฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมหญิงคนแรก เข้ากระทรวง 11 ก.ค.2556 เวลา 11.11 น. มีพิธีขึ้นแท่นรับทหารกองเกียรติยศจาก 3 เหล่าทัพ ถือเป็นประวัติศาสตร์ของกองทัพไทยที่มี รมว.เป็นพลเรือนหญิง
นายกฯปู ห่วงน้ำท่วม สั่งกองทัพระดมกำลังพล-ยุทโธปกรณ์ ช่วยเหลือประชาชน
เมื่อวันที่ 25 ก.ค.2556 น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม มีความห่วงใยต่อสถานการณ์อุทกภัยใน จ.นครราชสีมา จ.ระนอง จ.จันทบุรี และ จ.ตราด ได้สั่งการให้ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยของทุกเหล่าทัพเข้าช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนทันที
ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองบัญชาการกองทัพไทย (ศบภ.บก.ทท.) จัดกำลังพล รถลำเลียงพล รถยนต์บรรทุกขนาดเล็ก และเรือท้องแบนพร้อมเครื่องยนต์ ในการขนย้ายสินค้าทางการเกษตร ร่วมกับ อบต.เทพนิมิต นำถุงยังชีพไปแจกจ่ายให้กับราษฎรที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ เข้าช่วยเหลือราษฎร ขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง ขนย้ายสุกร ในพื้นที่ อ.บ่อไร่ และ อ.เมือง จ.ตราด
ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพบก (ศบภ.ทบ.) จัดกำลังพลพร้อมยานพาหนะช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ อ.เมือง จ.นครราชสีมา และจัดกำลังพล พร้อมรถยนต์ ขนาด 2 ตันครึ่ง จำนวน 3 คัน เข้าช่วยเหลือบ้านของราษฎรที่ถูกต้นไม้ล้มทับได้รับความเสียหาย และขนย้ายสิ่งของให้กับราษฎรในพื้นที่ อ.เมือง จ.ระนอง ปัจจุบัน ศบภ.ทบ. มีการติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง หากเมื่อเกิดเหตุการณ์สามารถเข้าช่วยเหลือได้ทันที
สำหรับศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ (ศบภ.ทร.) จัดกำลังพล จำนวน 80 นาย พร้อมยานพาหนะ เรือท้องแบน ออกช่วยเหลือราษฎรในการขนย้ายทรัพย์สิน และช่วยเหลือยานพาหนะของราษฎรให้ผ่านถนนที่ถูกน้ำท่วม ซึ่งรถยนต์ไม่สามารถผ่านไปมาได้ ในพื้นที่ อ.บ่อไร่ จ.ตราด
ได้กำหนดระดับความพร้อมของเรือหลวงสุโขทัย เรือหลวงอ่างทอง เครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์ ตลอดจน นักทำลายใต้น้ำ (นทต.) จู่โจม ให้พร้อมออกปฏิบัติการในหน้าที่หมู่เรือเฉพาะกิจบรรเทาสาธารณภัยทางทะเลกองทัพเรือ พร้อมปฏิบัติภายใน 48 ช.ม.
และกองทัพเรือยังจัดกำลังพลและอุปกรณ์ พร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยในพื้นที่ต่างๆ โดยสามารถขอความช่วยเหลือไปยังหน่วยทหารเรือที่ใกล้ที่สุด หรือโทรสายด่วน 1696 ได้ตลอด 24 ช.ม.
นอกจากนี้ได้ออกสำรวจบ้านเรือนที่ได้รับผลกระทบเสียหาย รวมทั้งพื้นที่การเกษตร เพื่อวางแผนร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดในการหาแนวทางช่วยเหลือต่อไป สำหรับพื้นที่ที่น้ำลดระดับลงแล้วได้ระดมกำลังพลเข้าฟื้นฟู ขนย้ายสิ่งของ ทำความสะอาดในพื้นที่ รวมถึงการล้างถนนและสาธารณูปโภคให้กลับเข้าสู่สภาพปกติ
ฝนตกหนัก อาคาร ร.ร.บ้านพะเด๊ะ อ.แม่สอด พังถล่มทั้งหลัง
28 ก.ค.2556 ผู้สื่อข่าว น.ส.พ.มติชน รายงานจากอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ว่า อาคารคอนกรีต2 ชั้น ซึ่งมีห้องนักเรียน 5 ห้องเรียน ชั้นประถมศึกษา ของโรงเรียนบ้านพะเด๊ะ ตำบลพระธาตุผาแดง อ.แม่สอด ได้พังถล่มลงมาทั้งหลังแล้ว หลังจากที่เกิดเหตุดินสไลค์จากภูเขาถล่มลงมา ตั้งแต่เมื่อวันที่ 27 ก.ค. ทำให้เจ้าหน้าที่ ที่เฝ้าอยู่บริเวณโรงเรียนต้องหนีออกไปยังจุดที่ปลอดภัย ไม่มีผู้ใดได้รับอันตราย เนื่องจากทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตาก เขต 2 (สพป.ตาก 2) ได้สั่งไม่ให้นักเรียน หรือ บุคคลภายนอกเข้าไปใกล้กับอาคาร และก่อนที่อาคารจะถล่มลงมานั้น มีดินสไลค์อย่างต่อเนื่อง จนเจ้าหน้าที่ต้องยุติการขนของออกจากอาคาร
เจ้าหน้าที่ สพป.ตาก เขต 2 กล่าวว่า ได้นั่งเฝ้าดูเหตุการณ์ที่โรงเรียนมาตลอด ก่อนเกิดเหตุอาคารถล่มนั้น ฝนกำลังตกลงมาอย่างหนัก และดินสไลค์ต่อเนื่อง จากนั้นอาคารเกิดรอยร้าว รอบปริ ก้อนปูน พุ่งออกมา จากนั้นอาคารถล่มลงมาทันที
น้ำป่าทะลักไหลเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร พื้นที่วิเชตรนคร อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง
เครดิต: ข่าวสดออนไลน์
เมื่อวันที่ 7 ก.ค.56 เวลาประมาณ 05.00 น. ได้เกิดเหตุน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ บ้านสันมะเกลือ หมู่ 5 ต.วิเชตนคร อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง ส่งผลให้มีบ้านเรือนราษฎรได้รับความเสียหายประมาณ 20 หลังคาเรือน
จากการสอบถามชาวบ้านที่ประสบภัยทราบว่า เมื่อประมาณ 03.00 น. ที่ผ่านมา เกิดฝนตกหนักในพื้นที่ติดต่อกันหลายชั่วโมง จนกระทั่งช่วงเวลา 05.00 น. น้ำป่าก็ได้ไหลทะลักเข้าท่วมอย่างรวดเร็ว โดยยังไม่ทันได้ขนย้ายทรัพย์สิน จึงได้รับความเสียหายไปหลายอย่าง นอกจากนี้ยังมีกำแพงรั้วบ้านที่ถูกน้ำกัดเซาะด้วย ส่วนน้ำป่าที่ทะลักเข้ามาครั้งนี้ไหลมาจากลำห้วยแม่กะเลา และลำห้วยโชคห้า ที่อยู่อีกฝั่งถนนของหมู่บ้าน โดยลำห้วยดังกล่าวหากเกิดฝนตกหนักก็จะไหลทะลักข้ามถนนและเข้าท่วมบ้านเรือนชาวบ้านเป็นประจำ แต่ครั้งนี้เกิดตอนเช้ามืดทำให้ไม่ทันได้เตรียมตัว
หลังเกิดเหตุ ชาวบ้านได้เร่งทำความสะอาดบ้านเรือน และนำทรัพย์สินที่เปียกน้ำไปตากแดดและขนย้ายทรัพย์สินบางส่วนไว้บนที่สูง เพื่อที่จะหนีน้ำที่ท่วมขังภายในบ้านเรือนแม้ว่าสถานการณ์น้ำป่าจะกลับเข้า สู่ภาวะปกติแล้ว แต่เพื่อความปลอดภัยจึงต้องเตรียมพร้อมรับมือไว้ก่อน เนื่องจากในพื้นที่ยังมีฝนตกและมีเมฆปกคลุมอยู่ จากนั้นทางด้านหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งสำรวจและให้การช่วยเหลือต่อไป
..น้ำมาเร็วมาก เก็บข้าวของทรัพย์สินไม่ทัน ข้าวของเสียหายพอหาทดแทนได้ ถ้าชีวิตล้มหายตายจากไป ไม่ว่าไฟฟ้าช็อต งูกัด จมน้ำตาย ฯลฯ ใครจะรับผิดชอบบ้าง..
..ต้องไปร้องให้ศาลปกครองสั่งน้ำให้ชะลอเอาไว้ก่อนอย่าเพิ่งท่วมก็แล้วกันนะพี่น้องชาวบ้าน ศาลเขาสั่งได้ทุกเรื่องอยู่แล้ว สั่งคุ้มครองชั่วคราวก่อน น้ำ มันอาจจะยอมหยุดท่วม!!..
23 ก.ค.56 น้ำท่วมฉับพลันที่นครราชสีมา
ทั้งนี้ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมาได้เกิดฝนตกอย่างหนักทั่วพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมหลายจุด โดยเฉพาะบริเวณถนนร่วมเริงไชย เขตเทศบาลตำบลหนองไผ่ล้อม อ.เมือง จ.นครราชสีมา น้ำทะลักได้ท่วมภายในค่ายสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 สูงกว่า 2 เมตร โดยน้ำที่ไหลทะลักออกมาจากภายในค่ายสุรนารี ได้ไหลเข้ามาท่วมพื้นถนนสูงกว่า 50 เซนติเมตร และมีสภาพไหลเชี่ยวมาก ส่งผลให้การจราจรบนถนนร่วมเริงไชยเป็นไปด้วยความยากลำบาก รถเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านไป-มาได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ของเทศบาลตำบลหนองไผ่ล้อม ก็ได้ทำการเปิดฝาตะแกรงท่อระบายน้ำออก เพื่อให้สามารถระบายน้ำออกได้อย่างเต็มที่
นายวินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า ฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งคืน จนถึงในช่วงเช้าวันนี้ สถานีอุตุนิยมวิทยา จังหวัดนครราชสีมา วัดปริมาณน้ำฝนได้ 120 มิลลิเมตร ส่งผลให้เกิดน้ำฝนสะสมอย่างรวดเร็วภายในค่ายสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 และเนื่องจากบริเวณดังกล่าวอยู่สูงกว่าชุมชน จึงทำให้น้ำฝนที่สะสมทั้งหมดไหลมาสมทบและถูกกำแพงบริเวณถนนร่วมเริงไชย ขวางทางน้ำไว้ จนภายในค่ายสุรนารีเกิดน้ำทะลักท่วมสูงกว่า 2 เมตร จึงต้องทำการทุบกำแพงเพื่อเร่งระบายน้ำเหล่านั้นออกมา ไม่เช่นนั้นกำแพงอาจจะพังถล่มลงมาทั้งแถบได้
