*..รอโหลดซักกะเดี๋ยวเตง..*           วิกฤติการเมืองเรื่องฅนตอแหล..๒๕๕๕
. . . ร่วมด้วยช่วยกันเผยแพร่สื่อสารถึง"คนเสื้อแดง"ทั่วไทยและทั่วโลก . . . ขอขอบพระคุณเจ้าของclipภาพถ่ายและบทความทุกๆท่านที่กรุณาเอื้อเฟื้อแบ่งปัน . . .น้ำใจซื้อขายไม่ได้ แต่น้ำใจให้กันได้...อิอิ


PlayListนี้ เริ่มต้นด้วย "เล่าเรื่อง ตาดูดาวเท้าติดดิน" เรียงลำดับตั้งแต่ ตอนแรก ถึง ตอนปัจจุบัน ..ท้ายเพลย์ลิสท์เป็นคลิป "เมื่อศาลรัฐธรรมนูญกระทำขัดรัฐธรรมนูญ : จะทำอย่างไร?" วันพุธที่ 1 พฤษภาคม 2556 เวลา 13.00 - 16.00 น. ห้องกมลทิพย์ ชั้น 2 โรงแรมสุโกศล (สยามซิตี้เดิม) คลิปนี้..วิทยากร รศ.ดร.วรเจตน์ ภาคีรัตน์ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แสดงความคิดเห็นเริ่มนาที 0:14:24
คลิกที่นี่ ดูบนyoutube...
หรือคลิกที่นี่.. @ AsiaUpdate "เล่าเรื่อง ตาดูดาวเท้าติดดิน"

คลิกที่นี่ ดูบนyoutube...

คลิกที่นี่ ดูบนyoutube...

คลิกที่ภาพ...เพื่อดูขนาดที่ใหญ่ขึ้น

วันพุธที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2556

13... เป็นเพราะว่าตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเหล่านี้ไม่มีสำนึกในการรักษาความยุติธรรม..และยังทำลายความยุติธรรมด้วยมือของตนเองอีกด้วย...

@ ภาพหนึ่งภาพ แทนคำพูดล้านคำ..
@ เพิ่งเคยเห็นนายกฯคนแรกนี่แหละ ที่สนับสนุนให้เด็กเก่งคณิตศาสตร์
@ แด่..มนุษย์เงินเดือน "อันความรู้ รู้กระจ่างแต่อย่างเดียว แต่ให้เชี่ยวชาญเถิดจะเกิดผล"
@ สิ่งที่ควรรู้ ก่อนเรียน Master of Business Administration (MBA)
@ ฮู้ยยยย...สติแตกกันไปหมดแย้วทั้งคนเล่นและกองเชียร์แนวร่วม
@ ความเป็นมาของ คดีสะเทือนโลก "ที่ดินรัชดา" ที่ทุกๆคนควรรู้!!!
@ ผมไม่ได้แหล!!! แต่เรื่องดีๆอย่างนี้..clickดูเองเหอะ
@ มือหยาบกร้านคู่นั้น มีแต่เส้นเอ็นปูดโปน...ทำให้ผมนึกถึงมือของผู้หญิงคนหนึ่ง...
@ สาระน่ารู้... เขาซื้อทองคำ ขายทองคำ กันอย่างไร?????
@ "ลื้อมีร่มมั้ย??..." แค่คำนี้แหละ ที่ทำให้นิสัยผมเปลี่ยนทันที
@ เฮ้อ!! ณ นาทีนี้..บอกได้คำเดียว เสียดาย..เสียดายครับ...นโยบายดีๆที่คน กทม. ไม่เอ๊า..ไม่เอา...

คลิกที่ภาพ...เพื่อดูขนาดที่ใหญ่ขึ้น @ New!! แจกปฏิทินนายกฯปู พ.ศ.2556 คลิกที่นี่...




ดร.อุกฤษ มงคลนาวิน อดีตประธานสภาผู้แทน บรมครูทางด้านกฎหมาย ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับกรณีปัญหาที่เกิดขึ้นในการกระทำของบรรดาตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ...
ต่อ...

คุณจรัลครับ ได้ยินคุณจรัลตัดพ้อแล้วผมไม่ค่อยสบายใจเลยครับ
By: ทวดเอง

คุณจรัลนำศาลรัฐธรรมนูญไปเปรียบเป็นกรรมการ และเปรียบคนเสื้อแดงที่ไปเรียกร้องให้หยุดกันทำหน้าที่เป็นนักมวยนั้น ผมว่าคุณจรัลเปรียบเปรยผิดแล้วครับ

คุณจรัลอาจเปรียบตัวเองเป็นกรรมการได้ แต่คนเสื้อแดงไม่ใช่นักมวยครับ แต่เป็นคนดูที่เสียเงินเข้าชมต่างหากครับ และค่าตั๋วที่เข้าชมนั้น ก็เป็นเงินทั้งค่าตัวของนักมวยและกรรมการด้วย พูดอย่างนี้แล้วคุณจรัลพอจะมองเห็นภาพที่ชัดเจนขึ้นหรือยังครับ

คุณจรัลครับ เมื่อคนดูเสียค่าชมแล้ว ก็อยากเห็นการแข่งขันที่บริสุทธิ์ยุติธรรม อยากเห็นการแข่งขันที่ขาวสะอาด อยากเห็นการชนะหรือพ่ายแพ้ ต้องอยู่ที่ฝีมือการต่อสู้ ภายใต้เงื่อนไขของกติกา เพราะความลำเอียงเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม มักจะก่อให้เกิดความวุ่นวายตามมาเสมอครับคุณจรัล

กรรมการมวยก็เช่นกันครับคุณจรัล เมื่อเร็วๆนี้ นักมวยของเราไปแข่งขันที่ญี่ปุ่น แล้วถูกปล้นชัยชนะโดยพวกกรรมการตัวดีนี่แหละครับ อย่าว่าแต่ผู้ชมชาวไทยเลยครับ แม้แต่ผู้ชมญี่ปุ่น สื่อฯญี่ปุ่นยังตีกระพือถึงความอัปยศในครั้งนี้กันอย่างอึกทึกคึกโครม มันกลายเป็นรอยด่างที่ไม่ใช่แค่กรรมการเท่านั้น แม้แต่ตัวนักมวยเองที่ถูกเหล่ากรรมการโอบอุ้มมานั้น ก็ตกอยู่ภายใต้คำติฉินนินทาถึงความสามารถที่แท้จริง กลายเป็นทำลายเกียรติภูมิของนักมวย รวมทั้งของประเทศด้วย

คุณจรัลครับ กรรมการมวยก็มีกฎของกรรมการน่ะครับ เมื่อทำผิดกฎ ย่อมต้องมีการลงโทษ บางท่านถูกพักงาน บางท่านถูกไล่ออก และบางท่านยังถูกปรับด้วยซ้ำไป ดังนั้นเราจึงไม่ค่อยได้เห็นคนดูไล่ต่อยกรรมการมวย นอกจากโห่ฮาป่าเท่านั้นเอง แล้วพวกท่านล่ะครับ เคยถูกทำโทษเพราะตัดสินผิดพลาดกันบ้างหรือเปล่าครับ

คุณจรัลครับ คุณจรัลเคยดูมวยปล้ำหรือเปล่าครับ ถ้าเคยดูก็คงเคยเห็นกรรมการเข้าข้างนักมวยอย่างน่าเกลียด จนกลายเป็นนักมวยปล้ำของอีกฝ่าย ต้องต่อสู้ทั้งกับนักมวยและกรรมการพร้อมกันไปด้วย มันเป็นความทุเรศที่แสนจะทุรัง แต่อย่างว่าแหละครับ มวยปล้ำมันเป็นแค่การแสดง ดังนั้นต่อให้กรรมการช่วยแค่ไหน บางทีตามบท ฝ่ายดีก็จะชนะฝ่ายคนชั่วเสมอไป ซึ่งจะสร้างความพึงพอใจให้กับคนดูได้มากกว่า ตามหลักของธรรมะย่อมชนะอธรรมไงครับคุณจรัล

แต่ถ้าความหมายของคุณจรัล หมายถึง เหล่า ส.ส.และ สว.ที่กำลังเข้าชื่อกันเพื่อถอดถอนพวกท่าน ยิ่งห่างไกลจากการเปรียบเทียบของคุณจรัลอย่างสิ้นเชิง เพราะรัฐสภาไม่จำเป็นต้องมีกรรมการครับ เขาตัดสินกันด้วยเสียงส่วนใหญ่ครับ เป็นไปตามบัญญัติของรัฐธรรมนูญนะครับ เรื่องนี้คงไม่ต้องตีความกันอีก

แต่ถ้าจะเปรียบเป็นมวย สภากับตุลาการรัฐธรรมนูญเป็นนักมวยมากกว่า ส่วนประชาชนเป็นกรรมการครับ และคำตัดสินของคนดูก็ยึดจากคะแนนเสียงส่วนใหญ่ ก็คงเหมือนกับคำตัดสินทั่วๆไปตามวิถีทางประชาธิปไตย ซึ่งแม้แต่ในศาลรัฐธรรมนูญเองก็ใช้วิธีนี้ตัดสินไม่ใช่หรือครับ

นี่ขนาดเป็นแค่เกมกีฬานะครับคุณจรัล แต่สำหรับเรื่องของพวกท่านนั้นมันไม่ใช่ มันมีอะไรมากกว่าการแพ้ชนะบนเวที ดังนั้นแค่การเปรียบเทียบ ผมจึงว่าคุณจรัลตีความผิดไปแล้วล่ะครับ พอตีโจทย์ผิด ก็เลยได้คำตอบที่ผิดตามไปด้วย จึงทำให้คุณจรัลต้องมาตัดพ้ออยู่อย่างนี้ไงครับ

คุณจรัลครับ คุณจรัลที่ถูกตั้งขึ้นมา เพื่อเป็นหนึ่งในสามเสาหลักตามระบอบประชาธิปไตย เพื่อถ่วงดุลอำนาจ และคานอำนาจฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหาร แต่การกระทำต่างๆที่แล้วๆมา คุณจรัลลองไตร่ตรองดูสิว่า ทำหน้าที่ถ่วงดุลจริงหรือไม่ ทำหน้าที่คานอำนาจจริงหรือเปล่า มันคงไม่ยากจะแยกแยะนะครับ ระหว่าง "ถ่วงดุล" กับ "ถ่วงการทำงาน" มันต่างกันอย่างไร

มีหลายๆกรณีที่วินิจฉัยแล้วทำให้สังคมกังขา ส่วนตัวของผมก็ไม่ค่อยเข้าใจตัวบทกฎหมายสักเท่าไรนัก แต่เท่าที่ฟังดูจากหลายฝ่ายที่ให้ความคิดเห็น ก็ทำให้เกิดความสงสัย

อย่างกรณีการวินิจฉัยการถอดถอนนายกฯที่ทำกับข้าวออกทีวี พวกท่านก็ไม่ได้วินิจฉัยกันตามกฎหมายแรงงาน แต่ไปยึดโยงกับพจนานุกรรม เรื่องรับเงินค่าจ้างก็เป็นลูกจ้าง

แต่เมื่อสงสัยการเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยก็ได้รับค่าจ้างเช่นกัน

แต่กลับได้รับคำอธิบายว่าไม่ผิด เพราะเป็นการให้ความรู้

พอสงสัยว่าการทำกับข้าวก็เป็นการให้ความรู้เช่นกัน

กลับมีคำอธิบายเรื่องมหาวิทยาลัยเป็นการให้ความรู้ไม่หวังผลกำไร

แต่พอตรวจสอบงบดุลของแต่ละมหาลัย กลับพบว่าแต่ละมหาลัยกำไรจนพุงปลิ้นในแต่ละปี

นี่คือความไม่กระจ่างของประชาชนส่วนใหญ่ที่ไม่รู้กฎหมาย มีแต่สามัญสำนึกเท่านั้น ก็ยังเกิดความรู้สึกถึงความผิดปกติ เกิดความไม่มาตรฐาน แล้วจะให้สังคมไว้วางใจได้อย่างไรครับคุณจรัล

ยิ่งมาฟังบางท่านออกมาพูดเรื่องนี้ว่าทำไปด้วยการสุกเอาเผากิน ถึงแม้ตอนหลังจะมาพูดในทำนองที่รุกรี้รุกรนเป็นเรื่องของคำวินิจฉัยต่างหาก ก็ยิ่งทำให้ผมไม่เข้าใจมากยิ่งขึ้น การนำข้อกฎหมายขึ้นมาก่อนข้อเท็จจริง ทางบ้านผมเขาเรียกว่าการ "ตั้งธง"นะครับ แต่ไม่รู้ว่าทางกฎหมายของคุณจรัลเขาเรียกว่าอะไรกันครับ

ยิ่งมาฟังคุณวสันต์พูดถึงเรื่องคดียุบพรรค ที่บอกว่า ถ้าเป็นสถานการณ์บ้านเมืองที่ปกติ คงจะไม่มีการยุบพรรค ยิ่งทำให้ผมคลางแคลงมากยิ่งขึ้น เดี๋ยวนี้การวินิจฉัยคดี นอกจากหลักกฎหมายแล้วยังมีปัญหาบ้านเมืองมาเป็นปัจจัยในการร่วมพิจารณาด้วยหรือครับ แล้วอะไรล่ะครับที่ทำให้พวกท่านเชื่อว่า การตัดสินแบบนี้จะทำให้สถานการณ์ดีขึ้น พวกท่านใช้สิทธิอะไรกระทำแทนคนไทยทั้งประเทศ และเมื่อไม่เป็นไปตามที่พวกท่านคาดการณ์ สถานการณ์กลับเลวร้าย จนมีคนตายกันเป็นร้อย บาดเจ็บกันเกือบสองพัน อย่างนี้แล้ว พวกท่านคิดว่า ใครบ้างสมควรรับผิดชอบครับคุณจรัล

สำหรับเรื่องคลิปนั้น ถึงแม้พวกท่านจะฟ้องคนเผยแพร่ก็ตาม แต่ก็ไม่ได้อธิบายให้สังคมเข้าใจเลยว่า สิ่งที่พวกท่านคุยกันนั้น มันหมายความว่าอะไร แต่ที่แน่ๆที่สังคมได้รับรู้ก็คือ การยกฟ้องการยุบพรรคของพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง เพราะคดีหมดอายุความ เพราะการแสดงความคิดเห็นนั้น เป็นการแสดงในนามของประธาน กกต.ไม่ใช่ในฐานะของนายทะเบียนพรรคการเมือง ทั้งๆที่เป็นคนเดียวกัน อย่างนี้ไม่ทำให้สังคมงุนงงก็แปลกแล้วล่ะครับคุณจรัล

แล้วยังมาเรื่องคดีอุ้มฆ่านักธุรกิจซาอุฯอีก เมื่อพวกท่านวินิจฉัยกฎหมายสืบพยานต่างประเทศนั้น "ขัดรัฐธรรมนูญ" เพราะไม่คุ้มครองสิทธิ์จำเลย คราวนี้ไม่ยุ่งตายเลยหรือครับคุณจรัล ไหนจะผลต่อคดีเศรษฐกิจ ไหนจะผลกับคดียาเสพติด ไหนคดีอาชญากรรมข้ามชาติ แบบนี้ไม่วุ่นวันนี้ก็ต้องยุ่งในวันหน้าอย่างแน่นอน ผมเชื่อเช่นนั้นครับคุณจรัล

ต่อมาก็เรื่องการวินิจฉัยมาตรา 68 ที่พวกท่านใช้คำว่า "และ" กับ "หรือ" มีความหมายเดียวกัน ทำให้ประชาชนมีสิทธิที่จะยื่นเรื่องได้ทั้งอัยการสูงสุด และยื่นโดยตรงกับศาลรัฐธรรมนูญเอง นี่ก็เป็นประเด็นสร้างความสับสนงุนงงให้กับประชาชนอย่างพวกผมเป็นอย่างยิ่ง ถ้ายื่นโดยตรงได้ แล้วจะเขียนยื่นเรื่องผ่านอัยการสูงสุดให้มันรกรัฐธรรมนูญทำไมกันครับคุณจรัล

แต่ที่ทำให้ผมถึงกับสติแตกกับเป็นเรื่องการวินิจฉัยเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ต้องผ่านการทำประชามติเสียก่อน ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่า วินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตราไหน หรือ วินิจฉัยตามสถานการณ์บ้านเมืองอีก

และที่ทนไม่ได้ เพราะอำนาจประชาชนกำลังจะด้อยค่าไปเรื่อยๆ เมื่อรัฐบาลที่ผมเลือกมาให้แก้รัฐธรรมนูญฉบับเผด็จการที่พวกท่านเคยบอกไว้ว่า รับไปก่อนแล้วมาแก้ไขทีหลัง การแก้รัฐธรรมนูญมันง่ายนิดเดียว แต่พอถึงวันนี้กลับจะกลายเป็นการล้มการปกครองไปซะงั้น ทั้งๆที่ทำตามคำแนะนำของพวกท่านแล้วว่าให้แก้เป็นรายมาตรา จริงอยู่ ถึงแม้จะยังไม่วินิจฉัยก็ตาม แต่มันฝืนความรู้สึกถึงอำนาจที่กำลังถูกลิดรอนด้วยคนเพียงไม่กี่คนนะครับคุณจรัล



ดังนั้นจึงอยากบอกว่า ที่คนเสื้อแดงออกไปเรียกร้องนั้น ไม่ใช่ไปเพื่อกดดันศาล แต่เป็นการใช้สิทธิปกป้องรัฐธรรมนูญตามมาตรา 68 ที่จะไม่ให้ใครมาทำลายหลักกฎหมายในรัฐธรรมนูญ เป็นความพยายามปกป้องไม่ให้บุคคลใช้สิทธิและเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่ได้บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ

แม้จะเป็นเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญฉบับเผด็จการก็ตามที คิดถึงตรงนี้ทีไร ผมพาลจะคิดถึงแผนบันได 4 ขั้นของคุณสนธิ หัวหน้ารัฐประหารที่ก่อเกิดรัฐธรรมนูญฉบับนี้ทุกที ทำไมการดำเนินตามเหตุการณ์ที่ผ่านมา จึงไปเข้ากับบันไดทั้ง 4 ของคุณสนธิก็ไม่รู้ได้ มันแปลกแต่จริงใช่ไหมครับ

คุณจรัลครับ ถ้าจะเปรียบเป็นเกมกีฬา ผมอยากเปรียบให้เป็นเกมฟุตบอล จะได้เห็นภาพชัดยิ่งขึ้น กรรมการฟุตบอลนั้น แม้จะตัดสินให้ลูกล้ำหน้าของฝ่ายหนึ่งไม่เข้า แต่อีกฝ่ายหนึ่งกลับเป่านกหวีดให้เข้าน่าตาเฉย แม้คำตัดสินจะถือว่าสิ้นสุด จะเปลี่ยนคำตัดสินไม่ได้ แต่ภายหลังกรรมการที่ตัดสินผิดพลาด จะด้วยเจตนาหรือไม่ก็ตาม ย่อมถูกทางสมาพันธ์ลงโทษ และยังมีความพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงวิธีการตัดสิน โดยอาศัยเทคโนโลยี่เข้าช่วย เพื่อให้เกมการแข่งขันเกิดความยุติธรรมให้มากที่สุด

แต่การตัดสินด้านกระบวนการยุติธรรมนี่สิครับ เมื่อตัดสินผิดพลาดก็ไม่ต้องรับผิดชอบใดๆทั้งสิ้น ดูจากกรณียกฟ้องการยุบพรรคเป็นตัวอย่างสิครับ เป็นความผิดพลาดอย่างชัดเจน แต่ก็หาคนรับผิดชอบไม่ได้ คนทำผิดก็ยังทำหน้าที่ต่อไป จนกว่าจะมีการผิดพลาดเกิดขึ้นอีก แบบนี้ไงครับที่ประชาชนอยากเห็นการเปลี่ยนแปลงไงครับ อยากเห็นคนที่ทำหน้าที่ตรวจสอบคนอื่นได้ ก็ต้องพร้อมจะให้คนอื่นตรวจสอบตัวเองได้เช่นกัน คุณจรัลยังคิดอีกหรือเปล่าครับว่า เป็นนักมวยไล่ชกกรรมการ

คุณจรัลครับ ที่เขียนมาทั้งหมดนี้ ผมยังละเสียที่จะพูดถึงที่มาของพวกท่านว่าชอบธรรมหรือไม่ ผมยังไม่พูดถึงความเกี่ยวพันระหว่าง สว.กับพวกท่าน ผมยังไม่พูดถึงเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างพวกท่านกับรัฐธรรมนูญปี 50 เพียงแต่อยากถามพวกท่านว่า สิ่งที่พวกท่านกำลังวินิจฉัยอยู่นั้น มันเกี่ยวกับการมีส่วนได้ส่วนเสียกับพวกท่านหรือเปล่าแค่นั้นแหละครับ

สุดท้ายอยากฝากคุณจรัลเรื่องหนึ่งครับ ความแตกแยกของสังคมไทยในตอนนี้ มีแต่ความยุติธรรมเท่านั้นครับที่จะขจัดความขัดแย้งเหล่านี้ได้ ดังนั้นถ้าต้องการให้ประเทศชาติสงบ คงต้องเริ่มจากพวกท่านแล้วล่ะครับ

อยู่ที่พวกท่านจะรักประเทศมากแค่ไหน

อยู่ที่พวกท่านเลือกจะอยู่เคียงข้างประชาชนหรือไม่

และจะทำอย่างไรเพื่อประเทศอันเป็นที่รักได้

ผมคงทำอะไรมากกว่านี้ไม่ได้ นอกจากภาวนาคุณธรรมจะทำให้พวกท่านกอบกู้สถานการณ์บ้านเมืองให้สงบดังเดิมครับคุณจรัล

@ ฟัง/ดู การปราศรัยได้ที่เว็บนี้...
@ ถึงท่านเสื้อแดงทุกๆกลุ่ม...
หากมีเรื่องขัดข้องหมองใจ..เก็บขึ้นหิ้งไว้ก่อนนะครับ เสร็จศึกนี้ค่อยเช็คบิลกันก็ยังไม่สาย...........


ตลก.ศาลรธน. ชี้แจงกรณีลูก 'บุญส่ง' ไปเรียนต่อต่างประเทศ

นักวิชาการด้านกฎหมาย ชี้กรณีตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งบุตรชายเป็นเลขานุการส่วนตัวแล้วอนุญาตให้ไปเรียนต่อต่างประเทศ โดยไม่แจ้งทางธุรการ ทำให้ยังได้รับเงินเดือนเกือบ 5 หมื่นบาททั้งที่เจ้าตัวไม่ได้เข้าทำงาน เป็นเรื่องไม่เหมาะสมและไม่สง่างามในฐานะผู้ที่ทำหน้าที่พิพากษาชี้ขาดผู้อื่น ขณะที่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญยืนยัน ไม่ผิดกฎหมาย

ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ยืนยันว่า กรณีนายบุญส่ง กุลบุปผา ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ อนุญาตให้เลขานุการส่วนตัวซึ่งเป็นบุตรชายไปเรียนต่อยังต่างประเทศ และยังได้รับเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่งกว่า 47,000 บาท เต็มจำนวนเป็นเวลา 1 ปี 6 เดือน ไม่ใช่ความผิด ซึ่งก่อนหน้านี้ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.ก็ได้มีมติยกคำร้องเรื่องนี้แล้ว และเท่าที่มีการพูดคุยหารือกันภายในระหว่างตุลาการศาลรัฐธรรมนูญก็ทราบว่า ประธานศาลรัฐธรรมนูญได้ ลงนามในหนังสือรับรองให้เลขานุการส่วนตัวนายบุญส่งไปเรียนต่อต่างประเทศ แต่ทั้งนี้ต้องรอการตรวจสอบเอกสารจากสำนักงานเลขาธิการศาลรัฐธรรมนูญอีกครั้ง

ขณะที่นักวิชาการด้านกฎหมาย มองว่า แม้กรณีนี้ ป.ป.ช.จะยกคำร้อง เพราะไม่ผิดกฎหมาย เนื่องจากนายบุญส่ง อ้างอำนาจตามระเบียบศาลรัฐธรรมนูญว่าด้วยลูกจ้างสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2542 หมวด 4 ข้อ 16 แต่ในฐานะข้าราชการในกระบวนการยุติธรรมถือว่า เป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมกับภาพลักษณ์ของผู้ที่ทำหน้าที่พิพากษาตัดสินชี้ขาดผู้ต้องอื่น ทำให้ขาดความน่าเชื่อถือและไม่สง่างาม

ขณะเดียวกัน ภาคประชาชนได้ ที่นำโดยนายโชคชัย ฤทธิ์บุญรอด เครือข่ายสภายุติธรรม ได้เข้ายื่นหนังสือต่อตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ผ่านนางอรรถพร เลาหสุรโยธิน ผู้อำนวยการกลุ่มงานบริหารงานทั่วไป เพื่อเลือกร้องให้นายบุญส่ง ลาออกจากตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเพราะเห็นว่า เป็นการกระทำที่ผิดวินัยข้าราชการฝ่ายตุลาการ

จาตุรนต์ ฉายแสง: เป็นเพราะว่าตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเหล่านี้ไม่มีสำนึกในการรักษาความยุติธรรม..และยังทำลายความยุติธรรมด้วยมือของตนเองอีกด้วย...