@ เพิ่งเคยเห็นนายกฯคนแรกนี่แหละ ที่สนับสนุนให้เด็กเก่งคณิตศาสตร์
@ แด่..มนุษย์เงินเดือน "อันความรู้ รู้กระจ่างแต่อย่างเดียว แต่ให้เชี่ยวชาญเถิดจะเกิดผล"
@ สิ่งที่ควรรู้ ก่อนเรียน Master of Business Administration (MBA)
@ ฮู้ยยยย...สติแตกกันไปหมดแย้วทั้งคนเล่นและกองเชียร์แนวร่วม
@ ความเป็นมาของ คดีสะเทือนโลก "ที่ดินรัชดา" ที่ทุกๆคนควรรู้!!!
@ ผมไม่ได้แหล!!! แต่เรื่องดีๆอย่างนี้..clickดูเองเหอะ
@ สาระน่ารู้... เขาซื้อทองคำ ขายทองคำ กันอย่างไร?????
@ เฮ้อ!! ณ นาทีนี้..บอกได้คำเดียว เสียดาย..เสียดายครับ...นโยบายดีๆที่คน กทม. ไม่เอ๊า..ไม่เอา...
@ ใครคิดถึง มานี..มานะ..ปิติ..ชูใจ..วีระ.. โหลดไปอ่านรำลึกความหลังกันได้!!
@ จะทำอย่างไร? ถูกเลิกจ้าง..ลาออก..ว่างงาน..ชราภาพ55ปี,เกิน60ปี
@ ความเสียใจที่ไม่มีวันลืมของแดงชรา
คลิกที่ภาพ...เพื่อดูขนาดที่ใหญ่ขึ้น @ New!! แจกปฏิทินนายกฯปู พ.ศ.2556 คลิกที่นี่...
คลิกที่ภาพ...เพื่อดูขนาดที่ใหญ่ขึ้น
รัฐสภา และ นายกรัฐมนตรี ต้องทำตามกฎหมายรัฐธรรมนูญที่บัญญัติไว้...
การผ่าน พ.ร.บ.สร้างอนาคตไทย 2020 คือชัยชนะของการเมืองสร้างสรรค์ที่พรรคเพื่อไทยพยายามมาตลอด
เครดิต: Harit ปอน 永樂
ผมมองว่า การต่อสู้ในสภาครั้งนี้ไม่ใช่เพิ่งเริ่มเมื่อวันที่ 19ก.ย.ที่ผ่านมา แต่เกิดขึ้นมาหลายเดือนแล้ว เป็นสงครามที่เริ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงเลือกตั้งผู้ว่าฯกรุงเทพฯ เป็นต้นมา
เป็นการต่อสู้ระหว่างการเมืองด้านบวกที่พยายามสร้างภาพลักษณ์ที่ดี ทำงานหนักใกล้ชิดประชาชน กับการเมืองด้านลบ ที่พยายามยัดวาทกรรมติดป้ายชื่อเลวๆให้อีกฝ่าย ปล่อยข่าวด้านลบ ทำลายภาพลักษณ์ สร้างความเกลียดชัง ทำให้หวาดกลัว
เป็นการต่อสู้ระหว่างแนวทางบวกของเพื่อไทย และแนวทางลบของประชาธิปัตย์
ในศึกแรก พงศพัศ ไม่ว่าจะพยายามใกล้ชิดประชาชน เข้าพื้นที่ มีคนรักขนาดไหน กลับพ่ายแพ้วาทกรรมเผาบ้านเผาเมือง ชื่อเฟอร์บี้ วาทกรรมกินรวบ และความหวาดกลัวคนสีแดง ทำให้หม่อมที่เป็นแค่ "ไม้กันหมา" ชนะโดยไม่เหนื่อยมาก
แต่ความพ่ายแพ้นั้นทำให้ทีมเพื่อไทยเคี้ยวขึ้นมาก ทีมเพื่อไทยรู้แล้วว่าการเมืองด้านบวกไม่ใช่แค่การสร้างภาพลักษณ์ที่ดี แต่ต้องเป็นการตั้งรับแก้ข่าวอีกฝ่ายอย่างรวดเร็วด้วย
ทำให้ศึกต่อๆมา ผลออกมาต่างกันอย่างสิ้นเชิง
ช่วงหลัง ข่าวที่"ให้ข้อมูลไม่หมด" ของ ปชป. ถูกจับได้อย่างรวดเร็ว (ทั้งอเมริกาบอกว่าข้าวมีสารพิษ และอื่นๆ) ความพยายามจะทำลายชัชชาติว่าหนีดีเบทเหมือนตอนที่ทำกับเฟอร์บี้ก็ถูกป้องกันได้ (โดยการยันด้วยเอกสารราชการ รวดเร็วก่อนที่การดีเบทจะจบลงเสียอีก) และเกือบทำให้กรณ์เงิบจนต้องกล่าวโบ้ยให้เป็นความผิดของพันธมิตรตัวเองอย่างนิด้า
ภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นที่ประชาชนมีต่อชัชชาติแข็งนั่นแกร่งมาก จนพรรคประชาธิปัตย์ไม่อาจอภิปรายโครงการสองล้านล้านในวันแรกได้เลย ถึงกับต้องออกตัวว่า "ที่อภิปรายนี้ไม่ใช่ว่าจะขัดขวางความก้าวหน้าของประเทศนะ" กับ "เห็นด้วยกับโครงการ แต่ทำไมต้องกู้"
ทุกประเด็นที่ ปชป. พยายามจะสร้างวาทกรรม และความหวาดกลัวขึ้นในสภา ทั้ง "ออก พ.ร.บ. เลี่ยงการตรวจสอบ" "ขาดทุน" ฯลฯ ถูกตอกกลับด้วยข้อมูล และเหตุผลอันคมคาย เข้าใจง่าย แทบจะในทันที
ในทางกลับกัน พรรคประชาธิปัตย์เสพติดแนวทางการเมืองด้านลบที่ได้ผลจากการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. พยายามจะสร้างภาพลบให้ยิ่งลักษณ์ด้วยการยัดวาทกรรม "อีโง่" มาตลอด แต่กลับไม่ได้ผลมากอย่างที่คิด แถมยังถูกสวนกลับด้วยการตอกย้ำภาพลบของหัวหน้าฝ่ายค้าน จนเป็นพรรคประชาธิปัตย์เองที่สูญเสียความน่าเชื่อถือไป ถึงขนาดต้องสงสัยว่าหาก ปชป. ยังไม่เปลี่ยนแนวทางจะยังรอดอยู่ได้ในสมัยหน้าอีกหรือไม่
และสิ่งที่สร้าง "ปรากฏการณ์ชัชชาติ" ขึ้นมาในครั้งนี้ ไม่ใช่ผลจากบุคลิกของ รศ.ชัชชาติเพียงคนเดียวแน่นอน
ทั้งหมดเป็นผลจากวิสัยทัศน์ของยิ่งลักษณ์ที่ถูกด่ามาตลอด
เหตุผลคือ คนที่เริ่มเรื่อง "การเมืองด้านบวก" คือยิ่งลักษณ์ และบังคับให้คนในพรรคทำตามในฐานะผู้มีอำนาจสูงสุดของฝ่ายบริหาร ทีมการเมือง เพื่อไทย ที่มาจาก ไทยรักไทย หรือเสื้อแดง ไม่คิดอะไรแบบนี้แน่นอน
แม้แต่ณัฐวุฒิยังล้อขำๆ บนเวทีปราศรัยว่า "ผมก็อยากด่าเขานะครับ แต่คุณปูเขาขอร้อง" แม้แต่สุดารัตน์ ยังบ่นด้วยความหัวเสียหลังแพ้เลือกตั้ง กทม.
มีแต่ยิ่งลักษณ์ที่ยืนยันแนวทาง "การเมืองด้านบวก" มาตลอด แม้จะโดนด่าขนาดไหนก็ตาม
ถ้าคุณคิดว่า โครงการสร้างอนาคตไทย 2020 เป็นของชัชชาติคุณคิดผิดมาก โครงการนี้เป็นของยิ่งลักษณ์ คนเริ่มมันคือยิ่งลักษณ์ คนที่สั่งให้ตั้งเงินสองล้านล้านคือยิ่งลักษณ์ คนสั่งให้ทำแผนสามยุทธศาสตร์คือยิ่งลักษณ์ คนตัดโครงการต่างๆออกไป เลือกให้เหลือเท่าที่เห็นในเอกสารแนบท้ายก็คือยิ่งลักษณ์ เป็นโครงการใหญ่ขนาดที่ยิ่งลักษณ์ยอมทิ้งอย่างอื่นทุกอย่างได้เพื่อให้มันเกิดขึ้น ทั้งย้ายกิตติรัตน์จากพาณิชย์มาเตรียมรับภาระเรื่องเงินและปล่อยให้พาณิชย์ที่ดูแลเรื่องจำนำข้าวอยู่ในมือของบุญทรงจนรัฐบาลเกือบล่ม เอาชัชชาติเข้ามาในตำแหน่งสำคัญมากของ ครม. ทั้งๆที่ไม่มีแรงหนุนทางการเมืองเลย ยอมตัดงบประชานิยมหลายอย่างเพื่อทำงบสมดุลเตรียมรับมือสองล้านล้าน ฯลฯ
สำคัญที่สุดยิ่งลักษณ์ตั้งตัวเองไว้ในตำแหน่งที่ไม่ได้รับเกียรติอะไรเลยกับโครงการนี้ ตอนมันผ่านสภาคนพากันแห่แหนชัชชาติ พอรถไฟวางรางคนจะสรรเสริญชัชชาติ ถ้ามันสำเร็จคนจะสร้างอนุสาวรีย์ชัชชาติ แต่ไม่มีใครพูดถึงยิ่งลักษณ์เลยสักนิดเดียว
เพราะใครก็รู้ว่าถ้าตัวโครงการมันผูกอยู่กับยิ่งลักษณ์ ภาพลักษณ์ โง่ โกงทั้งตระกูล จะทำให้มันล่มแน่นอน
ที่ฝ่ายค้านด่ายิ่งลักษณ์ว่าโง่ ผมว่าอาจจะจริง ยิ่งลักษณ์ต้องโง่และดื้อดึงมาก โง่พอจะปล่อยให้คนฉลาดทำงานในตำแหน่งที่ตัวเองควรอยู่ และปล่อยให้คนฉลาดรับคำชมที่ตัวเองควรจะได้ไป ดื้อดึงพอจะยืนยันแนวทางที่มองโลกในแง่ดีแบบโง่ๆแม้จะทำให้แพ้ไปแล้วครั้งหนึ่ง และมากพอที่จะตั้งแผนการกู้ลงทุนระยะยาวคาดหวังกับอนาคตที่มองไม่เห็นอีกเกือบสิบปีข้างหน้า
อีกเจ็ดปีข้างหน้า วันที่โครงการทั้งหมดแล้วเสร็จ นายกฯที่อยู่เปิดงานก็จะไม่ใช่ยิ่งลักษณ์แล้ว
ไม่ว่าใครจะคิดถึงเรื่องนี้หรือไม่ แต่ผมบอกเลยว่าคนที่ทำให้การเมืองของไทยเปลี่ยนแปลงไป และกำลังจะเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ทั้งหมดของประเทศไทย ไม่ใช่คนเก่งแบบทักษิณ ไม่ใช่คนฉลาดแบบชัชชาติ หรือคนดีแบบฝ่ายค้าน แต่คือคนโง่อย่างยิ่งลักษณ์
@ แต่อดีตจวบปัจจุบัน... ลูกอีช่างค้าน ค้านแม่ง..ทุกเรื่อง
By: Chaiworamon : ปล. ผิดตอนท้ายนิดเดียวนะน้อง...ความจริง ก็ คือ ...
"นายกฯยิ่งลักษณ์อยู่ในตำแหน่ง ไปจนกว่าพวกคนบาปตายห่า..ไปหมด"
มาดูการวางรางรถไฟ ถ้าแบบนี้คงไม่ถึง 7 ปี...
รู้หรือไม่..รมต.ชัชชาติ มาจากสายไหน..????
การขึ้นสู่ตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เป็นการตอกย้ำถึงการเป็น "สายตรงนายหญิง" แบบตัวจริงเสียงจริง เพราะก่อนหน้านี้ถูกมองมาตลอดว่าเป็นเด็กในของ "เฮียเพ้ง" พงษ์ศักดิ์ รักตพงษ์ไพศาล ด้วยความที่เคยเป็นหนึ่งในที่ปรึกษาของพงษ์ศักดิ์ในช่วงที่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และชัชชาติยังเคยดำรงตำแหน่งกรรมการ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด บริษัท ขนส่ง จำกัด(บขส.) ในช่วงเดียวกันนี้ จึงเป็นเรื่องปกติที่ถูกมองว่าเป็นคนในสายพงษ์ศักดิ์
ในช่วงที่ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ชัชชาติได้มาทำหน้าที่ที่ปรึกษาให้สุกำพลระยะหนึ่ง ก่อนขึ้นมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมในที่สุด
การเป็นสายตรงนายหญิงของชัชชาติ มีจุดเริ่มต้นจากการที่ พล.ต.อ.เสน่ห์ สิทธิพันธุ์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล บิดาของชัชชาติมีความสนิทสนมแนบแน่นกับ พล.ต.อ.เสมอ ดามาพงศ์ อดีตผู้ช่วยอธิบดีกรมตำรวจ ซึ่งเป็นบิดาของ พจมาน ณ ป้อมเพชร และด้วยความที่ชัชชาติเป็นคนเก่ง คว้าปริญญาตรีเกียรตินิยมอันดับ 1 สาขาวิศวกรรมโยธาจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ต่อมาได้รับทุนอานันทมหิดลจนจบการศึกษาระดับปริญญาเอกจากสหรัฐ ชัชชาติจึงถูกนายหญิงเรียกตัวมาช่วยงานอยู่บ่อยครั้ง
ล่าสุด ชัชชาติยังได้รับความไว้วางใจให้มาทำหน้าที่รองประธานและโฆษกคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย(กบอ.) ซึ่งมีภารกิจสำคัญในการคัดเลือกบริษัทออกแบบและก่อสร้างระบบบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน และระบบแก้ไขปัญหาอุทกภัยของประเทศไทยวงเงิน 3.5 แสนล้านบาท
เมื่อผลงานเข้าตาทั้งนายหญิงและนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จึงไม่แปลกที่วันนี้ ชัชชาติจะได้รับโบนัสในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ซึ่งเป็นกระทรวงเกรดเอ.ของบรรดานักการเมือง แม้จะไม่มีตำแหน่งใดๆในพรรคเพื่อไทยและไม่ได้อยู่ในฐานะนายทุนพรรคแต่อย่างใด
By: ไท : ปล. การเมือง..การที่รัฐมนตรีคนใดคนหนึ่งจะเข้ามานั่งในกระทรวงใหญ่และเกรดเอ. อย่าคิดว่าเป็นเรื่องง่ายๆ..และไม่ควรมองอะไรแบบตื้นๆ.. (เด็กถึงจะคิดได้เข้าท่าสักเพียงใด..แต่เขาก็ยังมีความเป็นเด็กอยู่วันยังค่ำ..)
By: kainuy555 : ตามหลักความเป็นจริง รมต.กระทรวงเกรดเอ. ต้องเป็นสายตรง ไว้ใจได้ ก็เป็นไปอย่างที่ท่านไท ว่าไว้... ส่วนเรื่องการเมือง ต้องเรียนรู้กันอีกนาน น้องเอ๊ย..เหอๆ จนกว่าจะตกผลึกและปลงได้ว่า การเมือง การปกครอง การอำนาจ การผลประโยชน์ มันเกี่ยวข้องเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันอย่างแน่นวลลลลลลล...เอย
'โอ๊ค'โพสต์FB วิธีค้านสไตล์'ปชป.' 3เวอร์ชั่น สุดคลาสสิค