@ เพิ่งเคยเห็นนายกฯคนแรกนี่แหละ ที่สนับสนุนให้เด็กเก่งคณิตศาสตร์
@ แด่..มนุษย์เงินเดือน "อันความรู้ รู้กระจ่างแต่อย่างเดียว แต่ให้เชี่ยวชาญเถิดจะเกิดผล"
@ สิ่งที่ควรรู้ ก่อนเรียน Master of Business Administration (MBA)
@ ฮู้ยยยย...สติแตกกันไปหมดแย้วทั้งคนเล่นและกองเชียร์แนวร่วม
@ ความเป็นมาของ คดีสะเทือนโลก "ที่ดินรัชดา" ที่ทุกๆคนควรรู้!!!
@ ผมไม่ได้แหล!!! แต่เรื่องดีๆอย่างนี้..clickดูเองเหอะ
@ สาระน่ารู้... เขาซื้อทองคำ ขายทองคำ กันอย่างไร?????
@ เฮ้อ!! ณ นาทีนี้..บอกได้คำเดียว เสียดาย..เสียดายครับ...นโยบายดีๆที่คน กทม. ไม่เอ๊า..ไม่เอา...
คลิกที่ภาพ...เพื่อดูขนาดที่ใหญ่ขึ้น @ New!! แจกปฏิทินนายกฯปู พ.ศ.2556 คลิกที่นี่...
อุทาหรณ์สอนใจ.. เมื่อ คุณเธอๆทั้ง5 ไปม็อบ...
By: คนการเมือง
บอกก่อน.. "เมื่อ คุณเธอๆทั้ง5 ไปม็อบ..." ผมได้รับเมื่อ 2-3 ปีที่แล้วจากจดหมายพับใส่ซองสีฟ้าอย่างดีไม่ทราบว่าใครเอามาเสียบไว้ที่ประตูเหล็กดัดหน้าบ้านผม เป็นเรื่องจริงที่เขียนขึ้นมาด้วยความเจ็บปวดหัวใจของผู้เป็นพ่อของลูกสาวผู้เป็นแก้วตาดวงใจคนหนึ่งในจำนวน 5 คน และคุณพ่อคนนี้ตั้งใจเขียนเพื่อเป็นอุทาหรณ์สอนใจของผู้คนทั้งหลายในประเทศตอแหลแลนด์ที่ชื่นชอบกับการรับฟังข่าวสารเพียงด้านเดียวแล้วก็เชื่อไปตามนั้นทันที
และไม่ต้องมาถามถึงต้นฉบับ เพราะผมได้เผาทิ้งไปด้วยความรู้สึกสลดหดหู่หัวใจของผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นพ่อคนและก็เป็นพ่อของลูกสาวด้วยเหมือนกัน
คุณพ่อของลูกสาวคนนี้เริ่มต้นพารากราฟแรกด้วยวลี...
คุณเธอๆทั้ง5 อายุไล่เรี่ยกันในวัยเบญจเพศและไม่ใช่พี่น้องคลานตามกันมา คุณเธอๆทั้ง5 จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยชื่อดัง ประกอบสัมมาอาชีวะเป็นสาวออฟฟิศแผนกบัญชีแต่ต่างบริษัทซึ่งตั้ง สนง.อยู่ถัดๆกันบนถนนสีลมถนนเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดของกรุงเทพมหานคร
คุณเธอๆทั้ง5 ก็เหมือนปุถุชนคนทั่วไปที่สนอกสนใจในปัญหาการบ้านการเมืองของประเทศตอแหลแลนด์เช่นกัน คุณเธอๆทั้ง5 ติดตามข่าวสารการบ้านการเมืองทางอินเตอร์เน็ตโดยแอบๆในระหว่างเวลาทำงานและที่บ้านหลังเวลาเลิกงาน
แต่คุณเธอๆทั้ง5 เลือกที่จะติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวด้านเดียวของซีกการเมืองที่เธอชื่นชอบ และไม่สนใจที่จะติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวของการเมืองอีกซีกหนึ่งที่เธอไม่ชื่นชอบ เพื่อที่จะเอามาเปรียบเทียบกันว่าอ้นไหนเป็นข้อมูลจริงอันไหนเป็นข้อมูลเท็จเหมือนปุถุชนคนทั่วไปที่มีจิตใจเป็นกลางจะค้นคว้าหาข้อมูลที่ถูกต้องก่อนที่จะเชื่อในข้อมูลที่ได้รับมาทางอินเตอร์เน็ตหรือจากปากคำปากต่อปากที่เล่าสืบทอดกันมา
แล้ววันหนึ่งคุณเธอๆทั้ง5 ก็ตื่นเต้นและยินดีปรีดาเป็นยิ่งนักเมื่อได้รับทราบข่าวของม็อบซีกการเมืองที่เธอชื่นชอบได้บุกยึดสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งไว้ได้ คุณเธอๆทั้ง5 ตกลงปลงใจนัดแนะกันว่าวันศุกร์หลังเลิกงานตอนเย็นจะพากันไปเยี่ยมม็อบ ณ สถานที่แห่งนั้น
คุณพ่อผู้เจ็บปวดหัวใจคนนี้เขียนเล่าในบรรทัดต่อไปว่า.. ระยะแรกสังเกตว่าลูกสาวเวลาที่จะไปร่วมม็อบ อากัปกิริยาจะสดชื่นร่าเริงปากก็ด่าซีกการเมืองที่เธอไม่ชื่นชอบอยู่ปาวๆ แต่พอมาระยะหลังๆรู้สึกว่าอากัปกิริยาจะไม่สดชื่นร่าเริงเหมือนเช่นเคย คุณพ่อผู้นี้จึงสอบถามและคาดคั้นจนกระทั่งความจริงก็พรั่งพรูออกมาจากปากของลูกสาวผู้เป็นแก้วตาดวงใจคนนี้
เธอเล่าว่า..เย็นวันศุกร์นั้นคุณเธอๆทั้ง5 ก็เดินทางไปถึงสถานที่ที่ม็อบซีกการเมืองที่เธอชื่นชอบยึดได้ หลังจากหาที่จอดรถแล้วก็เข้าร่วมกิจกรรมม็อบโดยนั่งอยู่หน้าเวทีซึ่งมีผู้มาร่วมม็อบกว่าร้อยคนนั่งฟังคำปราศรัยก่นด่าซีกการเมืองฝั่งตรงข้ามอยู่ก่อนแล้ว
คุณเธอๆทั้ง5 ตั้งใจฟังคำปราศรัย ตบมือให้บ้างและบางครั้งถึงกับลุกขึ้นยืนส่งเสียงตะโกนไปบนเวทีด้วยความสะใจในคำปราศรัยบางท่อนบางตอนของบรรดาแกนนำที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันขึ้นเวที จนถึงดึกดื่นเที่ยงคืนเกือบตีหนึ่งของวันใหม่ คุณเธอๆทั้ง5 ก็ลุกขึ้นยืนและมองหาช่องทางที่ผู้ร่วมม็อบใช้เดินเข้า-ออกเพื่อจะเดินทางกลับบ้านและตั้งใจว่าวันพรุ่งนี้ก็จะมาร่วมม็อบอีก
แต่คืนนั้นคุณเธอๆทั้ง5 ไม่ได้กลับบ้าน เพราะทันทีที่ก้าวเดินไปที่ประตูก็มีผู้ร่วมม็อบ 3-4 คนเดินเข้ามาพูดจาโน้มน้าวยกเหตุผลยกแม่น้ำทั้งห้าขึ้นมาขอร้องให้อยู่ร่วมม็อบต่อไปอีก คุณเธอๆทั้ง5 จึงเปลี่ยนใจอยู่ร่วมม็อบเพราะวันพรุ่งก็วันเสาร์เป็นวันหยุด ค่อยกลับบ้านวันพรุ่งนี้เย็นก็ได้
จากนั้นคุณเธอๆทั้ง5 ก็ถูกพาไปพักที่ห้องๆหนึ่งในสถานที่ที่ม็อบนั้นยึดได้ มีเสื้อผ้าให้ผลัดเปลี่ยนมีพัดลมพัดเย็นสบายมีหมอนผ้าห่มฟูกที่นอนปูไว้ให้พร้อมสรรพ หลังจากปิดประตูลงกลอนเรียบร้อย คืนนั้นคุณเธอๆทั้ง5 ก็นอนหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย
ตื่นขึ้นมาในเช้าวันใหม่ อาบน้ำผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าทานอาหารเช้าแล้วคุณเธอๆทั้ง5 ก็ร่วมกิจกรรมม็อบนั่งอยู่หน้าเวทีฟังคำปราศรัยก่นด่าซีกการเมืองฝั่งตรงข้ามของบรรดาแกนนำที่ผลัดเปลี่ยนกันขึ้นเวทีเหมือนเมื่อวันวาน
ถึงตอนเย็นวันเสาร์ประมาณ 4-5 โมงเธอเตรียมตัวชวนเพื่อนๆกลับบ้าน มีผู้ร่วมม็อบมาชวนให้ไปทานข้าวในห้องที่นอนพักเมื่อคืน เมื่อคุณเธอๆทั้ง5 ทานข้าวเสร็จก็รู้สึกตัวว่ามีอาการง่วงซึม มึนงง เดินเซ ปวดศีรษะ และจากนั้นก็จำอะไรไม่ได้อีกเลย
เธอเล่าว่า..มารู้สึกตัวเมื่อเช้าวันอาทิตย์ รู้สึกปวดที่ท้องน้อย ถามเพื่อนๆก็ได้รับคำตอบเหมือนๆกันว่าหลังจากทานข้าวเสร็จก็รู้สึกตัวว่ามีอาการง่วงซึม มึนงง เดินเซ ปวดศีรษะ จากนั้นก็จำอะไรไม่ได้อีกเลย และรู้สึกปวดที่ท้องน้อยด้วยเช่นกัน
เมื่อผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จก็ชวนกันเดินออกจากห้องเพื่อจะกลับบ้าน แต่ยังไม่ทันก้าวพ้นประตูห้องหนุ่มฉกรรจ์ 2-3 คนที่ร่วมทานข้าวเมื่อวันวานก็เดินเข้ามาขวางตะคอกว่า "กลับไม่ได้ ต้องอยู่ต่อ" คุณเธอๆทั้ง5 ย้อนถาม หนุ่มฉกรรจ์ทั้งสามไม่ตอบแต่ฉุดกระชากลากแขนคุณเธอๆทั้ง5 กลับเข้าห้องแล้วงัดเอากล้องถ่ายรูปออกมาเปิดคลิปให้ดู
ในคลิปนั้นเห็นหน้าตาทุกๆคนชัดเจน และคุณเธอๆทั้ง5 เดินเซๆเหมือนคนเมามีหนุ่มฉกรรจ์โอบกอดประคอง มือข้างหนึ่งของเธอกอดรัดและมืออีกข้างหนึ่งกำลังล้วงกางเกงลูบคลำอวัยวะเพศของหนุ่มฉกรรจ์ กิริยาท่าทางคุณเธอๆทั้ง5 เหมือนคนที่อยากร่วมเพศเต็มประดา
หนุ่มฉกรรจ์ขู่ ถ้าคุณเธอๆทั้ง5 กลับบ้านและไม่มาร่วมม็อบอีก ก็จะเอาคลิปนี้เปิดประจาน
ด้วยความอายและกลัวว่าจะถูกเปิดคลิปประจาน ตกลงคุณเธอๆทั้ง5 ต้องอยู่ร่วมกับม็อบ และตลอดทั้งคืนคุณเธอๆทั้ง5 โดนหนุ่มฉกรรจ์ 2-3 คนผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันร่วมเพศ จนถึงเช้าวันจันทร์จึงถูกปล่อยให้กลับบ้านเพื่อไปทำงาน
และหลังเลิกงานตอนเย็นทุกๆวัน คุณเธอๆทั้ง 5 ก็ต้องไปร่วมกับม็อบตามคำขู่จนกระทั่งม็อบเลิกลา...
* * * * *
เรื่องราวทั้งหมดเป็นเรื่องจริงที่เขียนขึ้นมาด้วยความเจ็บปวดหัวใจของผู้เป็นพ่อของลูกสาวผู้เป็นแก้วตาดวงใจคนหนึ่งในจำนวน 5 คน และคุณพ่อคนนี้ตั้งใจเขียนเพื่อเป็นอุทาหรณ์สอนใจของผู้คนทั้งหลายในประเทศตอแหลแลนด์ที่ชื่นชอบกับการรับฟังข่าวสารเพียงด้านเดียวแล้วก็เชื่อไปตามนั้นทันที
หวังใจว่า "เมื่อ คุณเธอๆทั้ง5 ไปม็อบ..." จะเป็นอุทาหรณ์สอนใจใครต่อใครได้เป็นอย่างดี ผมจึงได้คัดลอกแต่เพียงบางท่อนบางตอนที่พอจะเปิดเผยได้ เอามาเผยแพร่ต่อครับ
?????