*..รอโหลดซักกะเดี๋ยวเตง..*           วิกฤติการเมืองเรื่องฅนตอแหล..๒๕๕๕
. . . ร่วมด้วยช่วยกันเผยแพร่สื่อสารถึง"คนเสื้อแดง"ทั่วไทยและทั่วโลก . . . ขอขอบพระคุณเจ้าของclipภาพถ่ายและบทความทุกๆท่านที่กรุณาเอื้อเฟื้อแบ่งปัน . . .น้ำใจซื้อขายไม่ได้ แต่น้ำใจให้กันได้...อิอิ


PlayListนี้ เริ่มต้นด้วย "เล่าเรื่อง ตาดูดาวเท้าติดดิน" เรียงลำดับตั้งแต่ ตอนแรก ถึง ตอนปัจจุบัน ..ท้ายเพลย์ลิสท์เป็นคลิป "เมื่อศาลรัฐธรรมนูญกระทำขัดรัฐธรรมนูญ : จะทำอย่างไร?" วันพุธที่ 1 พฤษภาคม 2556 เวลา 13.00 - 16.00 น. ห้องกมลทิพย์ ชั้น 2 โรงแรมสุโกศล (สยามซิตี้เดิม) คลิปนี้..วิทยากร รศ.ดร.วรเจตน์ ภาคีรัตน์ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แสดงความคิดเห็นเริ่มนาที 0:14:24
คลิกที่นี่ ดูบนyoutube...
หรือคลิกที่นี่.. @ AsiaUpdate "เล่าเรื่อง ตาดูดาวเท้าติดดิน"

คลิกที่นี่ ดูบนyoutube...

คลิกที่นี่ ดูบนyoutube...

คลิกที่ภาพ...เพื่อดูขนาดที่ใหญ่ขึ้น

วันเสาร์ที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2556

33... ไม่ควรทิ้งมรดกของความขัดแย้งให้เป็นภาระของลูกหลานรุ่นต่อไป

@ ภาพหนึ่งภาพ แทนคำพูดล้านคำ..
@ เพิ่งเคยเห็นนายกฯคนแรกนี่แหละ ที่สนับสนุนให้เด็กเก่งคณิตศาสตร์
@ แด่..มนุษย์เงินเดือน "อันความรู้ รู้กระจ่างแต่อย่างเดียว แต่ให้เชี่ยวชาญเถิดจะเกิดผล"
@ สิ่งที่ควรรู้ ก่อนเรียน Master of Business Administration (MBA)
@ ฮู้ยยยย...สติแตกกันไปหมดแย้วทั้งคนเล่นและกองเชียร์แนวร่วม
@ ความเป็นมาของ คดีสะเทือนโลก "ที่ดินรัชดา" ที่ทุกๆคนควรรู้!!!
@ ผมไม่ได้แหล!!! แต่เรื่องดีๆอย่างนี้..clickดูเองเหอะ
@ สาระน่ารู้... เขาซื้อทองคำ ขายทองคำ กันอย่างไร?????
@ เฮ้อ!! ณ นาทีนี้..บอกได้คำเดียว เสียดาย..เสียดายครับ...นโยบายดีๆที่คน กทม. ไม่เอ๊า..ไม่เอา...
@ ใครคิดถึง มานี..มานะ..ปิติ..ชูใจ..วีระ.. โหลดไปอ่านรำลึกความหลังกันได้!!
@ จะทำอย่างไร? ถูกเลิกจ้าง..ลาออก..ว่างงาน..ชราภาพ55ปี,เกิน60ปี

คลิกที่ภาพ...เพื่อดูขนาดที่ใหญ่ขึ้น @ New!! แจกปฏิทินนายกฯปู พ.ศ.2556 คลิกที่นี่...

คลิกที่ภาพ...เพื่อดูขนาดที่ใหญ่ขึ้น



คำแถลง ของนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
เรื่อง ข้อเสนอทางออกประเทศไทย
ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล 2 ส.ค.2556


พี่น้องประชาชนชาวไทยที่เคารพทุกท่าน

วันนี้ ดิฉันขอรบกวนเวลาของพี่น้องประชาชน เพื่อจะได้มีโอกาสอธิบายถึงความคิดและแนวทางที่รัฐบาลจะดำเนินการ อันเป็นไปตามแนวนโยบายที่ได้แถลงไว้กับพี่น้องประชาชน ตั้งแต่ที่ดิฉันได้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลนี้ได้เข้ามาทำงานเมื่อ 2 ปีที่แล้ว

ดิฉันตระหนักเสมอว่า ที่พี่น้องประชาชนได้ให้ความไว้วางใจกับดิฉันและพรรคเพื่อไทยนั้นคือการที่พี่น้องประชาชนคนไทยส่วนใหญ่ ต้องการเห็นความสงบ สันติ และความปรองดองเกิดขึ้นในสังคมไทย เพื่อที่ประเทศไทยจะเดินหน้าต่อไปได้

ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ดิฉันและรัฐบาลได้ดำเนินการเพื่อให้เกิดการปรองดองขึ้นในชาติด้วยความพยายามอย่างจริงใจที่จะเดินหน้า อดทน ไม่ตอบโต้ เพื่อสร้างบรรยากาศแห่งความปรองดอง สร้างสรรค์และความไว้วางใจ รวมทั้ง การเปิดพื้นที่ให้กับทุกกลุ่มที่มีความคิดเห็นที่แตกต่างทางการเมือง และรัฐบาลพร้อมที่จะประนีประนอมกับทุกฝ่าย และพยายามผลักดันให้มีการใช้เวทีรัฐสภามากกว่า ท้องถนนในการแก้ปัญหาความขัดแย้ง

แต่ในขณะเดียวกันดิฉันก็เข้าใจเช่นกัน ว่าความขัดแย้งที่มีมาอย่างต่อเนื่อง เราจะคาดหวังให้เกิดความปรองดองที่แท้จริงนั้น ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ในชั่วข้ามคืน ซึ่งทุกคนก็เห็นแล้วว่าในบางช่วงเวลา มีความขัดแย้งปะทุขึ้นจนเป็นเหตุแห่งความรุนแรง ซึ่งไม่เป็นประโยชน์ใดๆต่อสาธารณชน สังคมและเศรษฐกิจโดยรวมเลย

ที่น่าเสียใจที่สุดคือ การที่มีบุคคลบางกลุ่มต้องการการเคลื่อนไหวบนท้องถนน ซึ่งถึงแม้ว่าจะเป็นสิทธิและเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นตามรัฐธรรมนูญ แต่การแสดงออกกลับมีท่าทีที่ไม่ยอมรับกติกาของประชาธิปไตย มีการยั่วยุ กระตุ้นเพื่อนำไปสู่การล้มล้างรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง เรียกร้องให้มีการปฏิวัติรัฐประหาร และใช้ความรุนแรง

ภายใต้สภาวะดังกล่าว รัฐบาลจึงจำเป็นต้องปกป้องและรักษาระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ทั้งต้องป้องกันเหตุร้ายและความวุ่นวายที่อาจเกิดขึ้น รวมทั้ง คุ้มครองความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ราชการ และเอกชนทั่วไป ตลอดจนผู้ชุมนุม ที่สำคัญคือเป็นการดูแลให้ผู้ที่ใช้สิทธิและเสรีภาพอยู่ในกรอบกติกาประชาธิปไตย ดังนั้น เมื่อวันพุธที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรีจึงมีมติประกาศใช้มาตรการตามพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551

พี่น้องประชาชนชาวไทยที่เคารพ

ดิฉันขอยืนยันว่า ถึงแม้รัฐบาลชุดนี้ จะมีเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร แต่ดิฉันเชื่อเสมอว่าในระบอบประชาธิปไตย ต้องเคารพเสียงส่วนใหญ่และต้องให้เกียรติและรับฟังเสียงส่วนน้อยควบคู่กันไป เพราะประชาธิปไตยเป็นของทุกคน ไม่ใช้เป็นของเฉพาะผู้ประสบชัยชนะทางการเมืองจากการเลือกตั้ง โดยการคงกติกาการรักษาความเสมอภาคและเท่าเทียมกันแก่ทุกคน ดังนั้น จึงเห็นได้ว่าที่ผ่านมา รัฐบาลได้ดำเนินการรับฟังความคิดเห็นที่แตกต่าง และข้อเสนอแนะในการแก้ไขปัญหา ตลอดจนยังดำเนินการที่จะรับฟังปัญหาโดยตรงจากประชาชนทั่วประเทศ อย่างเช่นจากโครงการประชาเสวนาในการหาทางออกของประเทศ ทั้งในประเด็นแนวทางการปรองดอง การแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือการเสนอพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม การลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเสมอภาค และการรักษาไว้ซึ่งหลักนิติรัฐ นิติธรรม ที่สอดคล้องกับระบอบประชาธิปไตยที่เป็นสากลทั่วโลกยอมรับ

ภายใต้ความพยายามทั้งหมดนี้ ดิฉันเข้าใจดีว่าหลายกลุ่มหลายฝ่ายยังมีปัญหาที่ค้างคาใจอยู่ และความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในอดีต ไม่ว่าจะมีความเชื่อที่แตกต่างไม่ลงรอยกัน แต่ดิฉันเห็นว่าเป็นหน้าที่ของพวกเราทุกคนในขณะนี้ ในฐานะเพื่อนร่วมชาติที่ต่างต้องการเห็นลูกหลานของเราทุกคนมีความสุข อยู่ในสังคมที่มีความสงบและมีความมั่นคงทางการเมืองและความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ ซึ่งเราจะต้องร่วมมือร่วมใจกันเพื่อแก้ปัญหาต่างๆเหล่านี้ให้บรรลุความสำเร็จ

หลายคนบอกกับดิฉันว่า สิ่งที่ดิฉันคิดนั้นคงไม่มีวันเป็นไปได้ แต่ดิฉันกลับมีความเห็นในทางตรงกันข้าม โดยมองว่าทุกครั้งที่มีปัญหา เราต้องมองให้เป็นโอกาส เพราะเมื่อครั้งที่เกิดมหาอุทกภัยเมื่อปี 2554 ดิฉันได้เห็นความร่วมมือร่วมใจของคนไทยทุกคนในการที่จะช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ร่วมกันแก้ปัญหา จนในที่สุดเราสามารถที่จะฟันฝ่าอุปสรรค และหยุดยั้งภัยพิบัตินั้นไว้ได้

พี่น้องประชาชนชาวไทยที่เคารพ

ดิฉันอยากให้คนไทยกลับไปคิดถึงความรู้สึกดีๆในช่วงเวลาดังกล่าว ถึงแม้จะเป็นคนละสถานการณ์ แต่คนไทยทุกคนได้แสดงให้เห็นว่า ไม่ว่าจะเสื้อสีใด ชนชั้นใด หากเรารวมตัวกัน สมัครสามานสามัคคีกัน เราจะสามารถแก้ปัญหาฟันฝ่าอุปสรรคไปได้

สำหรับภายใต้ภาวะปัจจุบันที่มีความสับสนทางการเมืองเกิดขึ้นอีกครั้งในขณะนี้ และหลายคนกังวลว่าความขัดแย้งจะบานปลาย เกิดความไม่สบายใจ ดังนั้น ดิฉันจึงขอเสนอแนวทางเพื่อหาทางออกให้กับประเทศอย่างยั่งยืน โดยการวางทิศทางข้างหน้าอย่างสร้างสรรค์ มีส่วนร่วม ทิ้งความขัดแย้งไว้ในใจเพื่อประเทศของเรา โดยเปิดเวทีการระดมความคิดเห็น ที่จะขอเชิญชวนตัวแทนจากกลุ่มบุคคลทั้งฝ่ายรัฐบาล พรรคการเมือง แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย สมาชิกวุฒิสภา องค์กรอิสระ เอกชน และนักวิชาการ มาร่วมโต๊ะพูดคุย ออกแบบประชาธิปไตยของประเทศไทย เพื่อหาทางออกให้กับอนาคตของเรา เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพสังคมไทย และเป็นที่ยอมรับของนานาอารยประเทศ

โดยในสัปดาห์หน้า รัฐบาลจะเชิญตัวแทนกลุ่มบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้อง และมีความเห็นที่หลากหลายในมุมมองให้มาหารือร่วมกัน และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพื่อที่จะนำไปสู่การปฏิรูปการเมือง ร่วมกันคิดว่าเราจะวางอนาคตบ้านเมืองอย่างไร เพื่อไม่ให้เป็นภาระของลูกหลาน อันจะเป็นพื้นฐานของความร่วมมือในการพัฒนาชาติ สร้างความไว้วางใจ และความเปลี่ยนแปลงที่ออกจากวงจรแห่งความขัดแย้ง

ดิฉันต้องการเห็นบรรยากาศของความร่วมมือ ไม่ใช่การจ้องจับผิด แต่การเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วม ไม่ละเว้นกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง และเมื่อหารือกันแล้ว ดิฉัน ใคร่เสนอให้มีการวางกลไกที่ชัดเจน ซึ่งอาจเป็นในรูปแบบของคณะทำงานหรือเรียกชื่ออื่นตามความเหมาะสมเพื่อเป็นกลไกที่ทำหน้าที่ในการปฏิรูปทางการเมือง โดยกลไกดังกล่าวจะเป็นเวทีสำคัญในการวางรากฐานอนาคตในโครงสร้างทางการเมือง กำหนดแนวทางปฏิรูปกฎหมาย และวางพื้นฐานระบบการเมืองในระบอบประชาธิปไตยที่มั่นคง ยั่งยืน

ดิฉันหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกฝ่ายจะเข้าใจถึงความปรารถนาดีของดิฉันในครั้งนี้ และวันนี้ดิฉันไม่ได้บอกว่าจะให้ทุกท่านลืมอดีต แต่เราต้องนำอดีตนั้นมาเป็นบทเรียน เพื่อทำให้ประเทศของเราเดินหน้า ก้าวพ้นความขัดแย้ง เราต้องเปิดโอกาสให้เปลี่ยนจากความขัดแย้งมาเป็นบรรยากาศของความคิดสร้างสรรค์และไว้ใจกัน เพื่อเป็นการมุ้งสร้างระบอบประชาธิปไตยแบบ มีส่วนร่วม เพื่อสร้างสังคมที่ดีกว่าให้กับอนาคตลูกหลานของเรา และไม่ควรทิ้งมรดกของความขัดแย้งให้เป็น ภาระของรุ่นต่อไป

สวัสดีค่ะ

* * * * *

คุณเฉลิมตอบและชี้แจง สว. เรื่องม็อบเสธ.อ้าย


"พานทองแท้" ฟันธง..!!
By: พานทองแท้ https://www.facebook.com/oakpanthongtae

ต้นเหตุของความวุ่นวาย ในบ้านเมืองเรา ในช่วง 10ปีที่ผ่านมา ล้วนแต่มาจากกระบวนการ2มาตรฐาน ที่เรียกกันว่า "ดับเบิ้ลแสตนดาร์ด" ทั้งนั้นครับ..!!

ผมลองเปิดดิก(ชันนารี่)ดู เขาเขียนไว้แปลเป็นไทยว่า "สองมาตรฐาน หมายถึง กฎ หรือหลักการใดๆ ที่ถูกนำมาใช้แบบ ไม่แฟร์ คือ มาตรฐานของกฎเกณฑ์ที่ใช้กับคน2คน หรือคน2กลุ่ม แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง"

ตัวอย่างง่ายๆก็เช่น คนสองกลุ่มออกมาชุมนุมเรียกร้อง กลุ่มหนึ่งชุมนุมบนถนนหน้าห้าง ถูกสลายการชุมนุมตายเฉียดร้อย อีกกลุ่มปิดสนามบิน ร้องรำทำเพลงเย้ยกฎหมาย ด้วยสโลแกน "ปิดสนามบินชุมนุมแสนสบาย อาหารดี-ดนตรีเพราะ" ต่างชาติยกเลิกเที่ยวบินมาไทย เศรษฐกิจเสียหายหลายแสนล้าน ทำความผิดมาก่อนกันเป็นปีจนถึงตอนนี้ ยังไม่มีใครต้องชดใช้ความผิดสักคน ส่วนกลุ่มแรกที่ว่านอกจากตายเฉียดร้อยแล้ว คนที่เหลือยังโดนคดีนับพัน ติดคุกติดตะรางกันเป็นแถวๆ แบบนี้แหละที่ทำให้ปรองดองกันไม่ได้เสียที

หรืออีกตัวอย่างก็คือคดีต่างๆทางการเมืองครับ พรรคการเมืองที่มี ส.ส.อยู่ในสภาช่วงก่อนปี50 มีเพียงพรรคเก่าแก่เส้นใหญ่เพียงพรรคเดียวที่รอด คดีไหนที่ผิดแบบจะจะก็ช่วยดึงจนหมดอายุความ เข้าข้างกันเห็นๆใครจะว่ายังไงก็ช่าง ส่วนพรรคฯอื่นปล่อยให้ตายเรียบ ถูกยุบพรรคหมดไม่มีพรรคใดที่เหลือรอดแม้แต่พรรคฯเดียว

แน่นอนว่าฝ่ายที่ได้เปรียบ ตัวเองมีตัวช่วยอยู่ฝ่ายเดียวอยู่แล้ว ย่อมไม่ต้องการให้มีการอภัยโทษครับ ขนาดตัวเองมี "มือที่มองไม่เห็น" คอยช่วยเหลือชงลูกใส่พานให้อยู่ตลอดเวลา แพ้เลือกตั้ง แต่อยากเป็นนายกฯก็ได้เป็น ไม่อยากเกณฑ์ทหารก็ไม่ต้องเกณฑ์ จะทำอะไรผิดก็ไม่เคยต้องรับโทษ เข้าข้างกันแบบไม่อายฟ้าดินแบบนี้ เลือกตั้งทีไรยังแพ้ซ้ำซากไม่เคยเอาชนะใจประชาชนได้เลยมาเป็น10ปี ขืนปลดล็อคปล่อยให้ฝ่ายอื่นทำอะไรได้เต็มที่ จะเก่าแก่แค่ไหนก็อาจสูญพันธุ์ได้โดยไม่ต้องถูกยุบพรรคฯ หากคิดแต่ประโยชน์ส่วนตนแบบนี้ การปรองดองย่อมไม่เกิดครับ

เมื่อคืนนายกฯปูออกทีวีครับ พูดถึงเรื่องการเปิดโต๊ะเจรจา โดยมีตัวแทนของทุกๆฝ่ายเพื่อหาทางออก ผมว่าเป็นแนวความคิดที่ดีมากๆครับ คุยกันบนโต๊ะด้วยเหตุด้วยผล ดีกว่าการออกไปชุมนุมประท้วงกันแน่นอน ส่วนนักการเมืองก็เลิกออกไปเดินสายปลุกระดมชาวบ้านได้แล้วครับ กลับมาใช้กระบวนการรัฐสภาในการหาทางออกให้กับประเทศ น่าจะเป็นวิธีการแก้ปัญหาที่ดีที่สุด

"เลิกพฤติกรรม2มาตรฐาน อภัยโทษให้กับผู้ที่โดนลงโทษอย่างไม่เป็นธรรม เลิกเอารัดเอาเปรียบคู่แข่งทางการเมือง ให้เกียรติพี่น้องประชาชนด้วยการปล่อยให้เขาคิด และตัดสินใจเลือกด้วยตัวเขาเอง เลิกคิดว่าพี่น้องประชาชนโง่กว่าตน จึงจะต้องคอยชักจูงชี้นำตลอดว่าใครดีใครเลว ถ้าทำแบบนี้ได้ ประเทศชาติก็เดินต่อไปข้างหน้าได้ครับ"

* * * * *

การประชุมแกนนำและผู้ประสานงาน นปช. ณ วิทยาลัยเทคนิคดอนเมือง กรุงเทพฯ เสาร์ที่ 3 สิงหาคม 2556

* * * * *

ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ "เชื่อมภาค เชื่อมชีวิต บูรณาการทุกทิศสู่ความเจริญ" โดย ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมต.ว่าการกระทรวงคมนาคม ในงาน "Moving Forward 2 ล้านล้าน ขับเคลื่อนไทยทัดเทียมโลก" ณ ห้องบอลรูม ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ 30 กรกฎาคม 2556