*..รอโหลดซักกะเดี๋ยวเตง..*           วิกฤติการเมืองเรื่องฅนตอแหล..๒๕๕๕
. . . ร่วมด้วยช่วยกันเผยแพร่สื่อสารถึง"คนเสื้อแดง"ทั่วไทยและทั่วโลก . . . ขอขอบพระคุณเจ้าของclipภาพถ่ายและบทความทุกๆท่านที่กรุณาเอื้อเฟื้อแบ่งปัน . . .น้ำใจซื้อขายไม่ได้ แต่น้ำใจให้กันได้...อิอิ


PlayListนี้ เริ่มต้นด้วย "เล่าเรื่อง ตาดูดาวเท้าติดดิน" เรียงลำดับตั้งแต่ ตอนแรก ถึง ตอนปัจจุบัน ..ท้ายเพลย์ลิสท์เป็นคลิป "เมื่อศาลรัฐธรรมนูญกระทำขัดรัฐธรรมนูญ : จะทำอย่างไร?" วันพุธที่ 1 พฤษภาคม 2556 เวลา 13.00 - 16.00 น. ห้องกมลทิพย์ ชั้น 2 โรงแรมสุโกศล (สยามซิตี้เดิม) คลิปนี้..วิทยากร รศ.ดร.วรเจตน์ ภาคีรัตน์ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แสดงความคิดเห็นเริ่มนาที 0:14:24
คลิกที่นี่ ดูบนyoutube...
หรือคลิกที่นี่.. @ AsiaUpdate "เล่าเรื่อง ตาดูดาวเท้าติดดิน"

คลิกที่นี่ ดูบนyoutube...

คลิกที่นี่ ดูบนyoutube...

คลิกที่ภาพ...เพื่อดูขนาดที่ใหญ่ขึ้น

วันเสาร์ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2556

11... อะไรคือ มรดกอสูร!!! ใครคือ ทายาทอสูร!!! ดร.โกร่งมีคำตอบ

@ ภาพหนึ่งภาพ แทนคำพูดล้านคำ..
@ เพิ่งเคยเห็นนายกฯคนแรกนี่แหละ ที่สนับสนุนให้เด็กเก่งคณิตศาสตร์
@ แด่..มนุษย์เงินเดือน "อันความรู้ รู้กระจ่างแต่อย่างเดียว แต่ให้เชี่ยวชาญเถิดจะเกิดผล"
@ สิ่งที่ควรรู้ ก่อนเรียน Master of Business Administration (MBA)
@ ฮู้ยยยย...สติแตกกันไปหมดแย้วทั้งคนเล่นและกองเชียร์แนวร่วม
@ ความเป็นมาของ คดีสะเทือนโลก "ที่ดินรัชดา" ที่ทุกๆคนควรรู้!!!
@ ผมไม่ได้แหล!!! แต่เรื่องดีๆอย่างนี้..clickดูเองเหอะ
@ มือหยาบกร้านคู่นั้น มีแต่เส้นเอ็นปูดโปน...ทำให้ผมนึกถึงมือของผู้หญิงคนหนึ่ง...
@ สาระน่ารู้... เขาซื้อทองคำ ขายทองคำ กันอย่างไร?????
@ "ลื้อมีร่มมั้ย??..." แค่คำนี้แหละ ที่ทำให้นิสัยผมเปลี่ยนทันที
@ เฮ้อ!! ณ นาทีนี้..บอกได้คำเดียว เสียดาย..เสียดายครับ...นโยบายดีๆที่คน กทม. ไม่เอ๊า..ไม่เอา...

คลิกที่ภาพ...เพื่อดูขนาดที่ใหญ่ขึ้น @ New!! แจกปฏิทินนายกฯปู พ.ศ.2556 คลิกที่นี่...

นางนิชา ธุวธรรม ต้องตบกบาล นายพล อนุพงศ์!!!

@ By: วาทตะวัน สุพรรณเภษัช (อ่านบทความคลิกที่ภาพ)
"เพราะมึงนั่นแหละ...
'ไอ้โป๊งเหน่ง' ผัวกูถึงต้องตาย...ไอ้เรือหาย!!!"



ดร.โกร่ง ลอกคราบ...
อะไรคือ มรดกอสูร!!! ใครคือ ทายาทอสูร!!!

@ ทายาทอสูร มรดกอสูร โดย ดร.วีรพงษ์ รามางกูร มติชน 18เม.ย.2556

สว.ลากตั้ง ทำตัวเป็นทายาท คมช.อย่างแจ้งชัดในหลายๆเรื่อง คมช.ได้สลายตัวไปแล้ว หัวหน้า คมช.ที่ทำการรัฐประหาร 19 กันยา 2549 ก็มาลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไปแล้ว ทำหน้าทำตาเป็นนักประชาธิปไตย พร้อมๆกับออกมาสารภาพว่ารัฐธรรมนูญปี 2550 มีบทบัญญัติหลายเรื่องไม่เป็นประชาธิปไตยและเสนอแก้รัฐธรรมนูญเสียเอง

ก่อนการรัฐประหาร 19 กันยา 49 เหล่าขบวนการล้มล้างหรือผู้ต่อต้านรัฐบาลทั้งหลายในยุคนั้น ปลุกปั่นปล่อยข่าวเท็จ เป็นระลอกหลายเรื่องติดต่อกันเป็นเวลานาน เริ่มจากเรื่องปฏิญญาฟินแลนด์ ซึ่งศาลก็ตัดสินจำคุกแต่รอลงอาญาคนปล่อยข่าวไปแล้ว ปล่อยข่าวขบวนการล้มเจ้า ซึ่งไก่อู โฆษก คมช.ก็สารภาพไปแล้ว รวมทั้งข่าวฉ้อราษฎร์บังหลวงมากมาย จนบัดนี้ก็ยังไม่เป็นการพิสูจน์อย่างแจ้งชัด ข่าวเรื่องมีผลประโยชน์ในการเจาะน้ำมันและก๊าซในอ่าวไทยกับเขมรป่านนี้ก็ยังไม่จริง รวมทั้งสารพัดข่าวเท็จที่ออกมาเพื่อให้เกิดความแตกแยกในหมู่ประชาชน

มีพุทธวจนะบทหนึ่งว่า "นตฺถิ อการิยํ ปาปํ มุสาวาทิสฺส ชนฺตุโน" ความว่า "คนพูดเท็จ จะไม่พึงทำบาป ย่อมไม่มี" หรือแปลเป็นภาษาชาวบ้านว่า "คนโกหกไม่ทำชั่วไม่มี" มุสาวาทาที่ขบวนการทำให้ประชาชนแตกแยกก็กลายเป็นมรดก คมช.มาจนบัดนี้

มรดก คมช.ที่สำคัญที่ยังคงอยู่คือ รัฐธรรมนูญ 2550 ที่มีบทบัญญัติ บอนไซ การพัฒนาประชาธิปไตย และปกป้องมรดก คมช. อยู่หลายเรื่อง

การขอแก้ไขรัฐธรรมนูญใน 3 เรื่อง อันได้แก่ ขอให้การยื่นคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญต้องร้องผ่านอัยการสูงสุด การยุบพรรคการเมืองและลงโทษกรรมการบริหารที่ไม่ได้ทำผิดทำไม่ได้ ยกเลิก สว.ลากตั้ง เมื่อวุฒิสภาครบวาระแล้ว และการที่รัฐบาลจะไปเจรจาเรื่องต่างๆกับต่างประเทศต้องขออนุมัติรัฐสภาเสียก่อนทุกเรื่อง ซึ่งประเด็นต่างๆเหล่านี้เป็นเรื่องธรรมดาๆ ก็น่าจะแก้ไขทั้งนั้น ไม่เห็นมีอะไรจะเสียหายต่อระบอบประชาธิปไตย

ทายาท คมช. 40 สว.ก็ออกมาร้องโพนทะนาอาละวาดทันทีว่า เป็นการล้มล้างระบอบการปกครองประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข เหมือนๆกับการขอตั้ง สสร.เพื่อร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ แทนฉบับมรดก คมช.ฉบับนี้ ที่ทายาท คมช.ทำเกือบสำเร็จ

มรดก คมช.ทิ้งไว้มีอีกมาก หลักการการจัดตั้งองค์กรอิสระต่างๆเพื่อช่วยรัฐสภาตรวจสอบรัฐบาลเป็นหลักการที่ดีใช้ได้ แต่การสรรหาบุคลากรเข้าไปดำรงตำแหน่งต่างๆ ต้องดูคุณสมบัติความคิดเห็นเป็นกลาง บริสุทธิ์ยุติธรรมที่จะทำให้ "ประชาชนไว้วางใจ" สถาบันอิสระเหล่านี้จึงจะเป็นสถาบันอันทรงเกียรติ ไม่เป็นทายาท คมช.

แต่ถ้าสรรหาเอาบุคคลที่มีความเป็นมา มีความคิดความเห็นเป็นทายาท คมช. เช่น "ตุลาการภิวัฒน์" ที่พูดจาแสดงความเห็นไม่เคารพต่อวิชาชีพ ไม่เคารพตนเอง เข้าไปเป็นผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ องค์กรอิสระนั้นก็เสียหาย "ไม่เป็นที่ไว้วางใจของประชาชน"

มรดก คมช.เหล่านี้ 40 สว.ทายาท คมช.ออกมาปกป้อง ใช้เหตุผลข้างๆคูๆ ไร้เหตุผลหลักการ หลักวิชาการ ผิดเพี้ยนจนไม่รู้จะกล่าวอธิบายความจริงอย่างไร

ประชาชนคนไทยควรจะเรียนรู้จากประสบการณ์เสียทีว่า การทำปฏิวัติรัฐประหารนั้นเป็นสิ่งเลวร้ายที่ทั่วโลกเขาประณาม การแทรกแซงการเมืองโดยกองทัพ โดยทหารควรจะหมดสิ้นไปจากเมืองไทยเสียที ประชาธิปไตยแม้จะไม่ใช่ระบอบการปกครองที่ดีที่สุด แต่ก็เป็นระบอบการปกครองที่เลวน้อยที่สุด ยังเป็นความจริง ระบอบการปกครองโดยทหารหรือครอบงำโดยทหารเป็นระบอบที่เลวที่สุด

เมื่อมีการทำการรัฐประหาร โดยเฉพาะการรัฐประหาร 19 กันยา 2549 กระทำในยุคที่โลกเขามีการพัฒนาการเมืองกันไปทั่วแล้ว ช่วงที่กำลังดูถูกดูหมิ่นพม่าและยกย่องประเทศไทยว่ามีการพัฒนาการเมืองไปได้เร็วที่สุดหลังการประกาศใช้รัฐธรรมนูญปี 2540 พอ คมช.มาทำการรัฐประหาร 19 กันยา 2549 ประเทศไทยก็ถอยไปอยู่แนวหลังของพม่า รัฐบาลประชาธิปัตย์ที่จัดตั้งในกรมทหาร ออง ซาน ซูจี ยังรังเกียจไม่อยากพูดด้วย และไม่ขอรับการสนับสนุนจากรัฐบาลที่จัดตั้งโดย คมช.หรือกองทัพที่ทำรัฐประหาร

เมื่อเร็วๆนี้ ก็มีทายาท คมช.ออกมาเรียกร้องให้ยึด ปตท.คืน เพราะใต้แผ่นดินประเทศไทยมีน้ำมันสำรองอยู่มหาศาล ซึ่งเป็นการกล่าวเท็จอย่างตรงไปตรงมา บังเอิญกระแสที่เคยตามการกล่าวเท็จในช่วงก่อนรัฐประหารได้ซาลงจึงไม่มีใครเชื่อ ก็เลยแล้วกันไป

มรดกของขบวนการประชาธิปไตยนั้นทำลายได้ง่าย เพียงแค่ลากปืนออกมาทำปฏิวัติรัฐประหารก็ไม่มีใครกล้าหือ แม้จะมีคนที่เคยประกาศตนว่า "เชื่อมั่นในระบอบรัฐสภา" แต่เมื่อมีการทำรัฐประหารก็ไม่เคยเห็นหัว หลบหน้าหายตัวไปทุกที

องค์กรมรดกรัฐประหารทำลายได้ยากแม้จะกลับมาเป็นระบอบประชาธิปไตย เพราะขบวนการรัฐประหาร จะสร้างรัฐธรรมนูญ และองคาพยพบรรจุทายาทของตนไว้ทุกครั้ง การจะเปลี่ยนแปลงแก้ไขมรดกที่ทิ้งไว้จึงทำได้ยาก

คมช.จึงเปรียบเสมือนอสูร ที่ทิ้งมรดกคือรัฐธรรมนูญและตั้ง "ทายาทอสูร" ไว้ทำหน้าที่แทน ต่อต้านและบอนไซขบวนการประชาธิปไตย

อะไรคือ มรดกอสูร ใครคือ ทายาทอสูร เจ้าตัวรู้ดี






ว่าด้วยเรื่องการ "เข้าแถว" กับนายกฯ 2 ยุค
By: tudong

สมัยก่อนเมื่อไม่นานมานี้ในยุคนายกฯทำคลอดจากค่ายทหารขึ้นครองอำนาจ

มีเหตุการณ์หนึ่งที่ทำให้จดจำได้ไม่รู้ลืม นั่นคือการขาดแคลนน้ำมันปาล์มอย่างหนัก

ทั้งๆที่ว่ากันว่าบริษัทที่ครองตลาดน้ำปาล์มมากสุดในเมืองไทยเป็นของใครบางคนที่อยู่ในรัฐบาลนั่นเอง

แต่ไม่รู้ว่าบริหารจัดการกันอีท่าไหนจึงทำให้ประเทศชาติต้องขาดขาดแคลนน้ำมันอย่างหนัก จนประชาชนต้องแห่แหนกันไปเข้าแถวเพื่อซื้อน้ำมันปาล์ม น้ำมันพืชกัน เป็นภาพประวัติศาสตร์ที่ชวนให้เจ็บปวดใจอย่างยิ่ง

บางแห่งบางที่ถึงกับต้องเรื่องทะเลาะวิวาท แย่งชิงตบตีกันก็มี



แถมมีอีกนโยบายหนึ่งที่น่าชวนหัวปนเศร้าคือ "นโยบายไข่ชั่งกิโลฯ" นโยบายนี้ต้องใช้เงินภาษีประชาชนถึง 60 กว่าล้านไปจ้างชาวต่างชาติให้ช่วยคิดให้ ประชาชนทราบข่าวต่างสลดหดหู่กันถ้วนทั่ว

ยกเว้น "สลิ่มสาบ" เงียบกริบ คงจุกอกกับพรรคการเมืองที่พวกตนเองเชื่อถือจนพูดอะไรไม่ออก


พอมาถึงยุคสมัยนายกฯที่ได้รับเลือกจากประชาชนเสียงข้างมากบ้าง

ก็เกิดปรากฏการณ์ "เข้าแถว" ขึ้นมาอีก แต่คราวนี้ประชาชนคงจะมีกะตังค์กันมากขึ้นหรืออย่างไร ถึงได้มีการ "เข้าแถว" ซื้อทองกัน

ทอง นะครับ ทองคำ ขอย้ำว่า ทองคำ...

@ ดูราคาทองคำประจำวันนี้

ปล. ตราบใดที่ ประเทศไทย และประเทศจีน ยังต้องใช้ทองเป็นสินสอด ทองหมั้น มีกะตังค์ก็ซื้อไปเถอะ ไม่มีขาดทุน ในระยะยาว ซื้อไว้ให้ลูกแต่งงานก็ยังได้ สมัยผมเริ่มทำงานบาทละ 4-5,000 เอง ... ตอนจะแต่งงานแม่ม..บาทละ 18,000