*..รอโหลดซักกะเดี๋ยวเตง..*           วิกฤติการเมืองเรื่องฅนตอแหล..๒๕๕๕
. . . ร่วมด้วยช่วยกันเผยแพร่สื่อสารถึง"คนเสื้อแดง"ทั่วไทยและทั่วโลก . . . ขอขอบพระคุณเจ้าของclipภาพถ่ายและบทความทุกๆท่านที่กรุณาเอื้อเฟื้อแบ่งปัน . . .น้ำใจซื้อขายไม่ได้ แต่น้ำใจให้กันได้...อิอิ


PlayListนี้ เริ่มต้นด้วย "เล่าเรื่อง ตาดูดาวเท้าติดดิน" เรียงลำดับตั้งแต่ ตอนแรก ถึง ตอนปัจจุบัน ..ท้ายเพลย์ลิสท์เป็นคลิป "เมื่อศาลรัฐธรรมนูญกระทำขัดรัฐธรรมนูญ : จะทำอย่างไร?" วันพุธที่ 1 พฤษภาคม 2556 เวลา 13.00 - 16.00 น. ห้องกมลทิพย์ ชั้น 2 โรงแรมสุโกศล (สยามซิตี้เดิม) คลิปนี้..วิทยากร รศ.ดร.วรเจตน์ ภาคีรัตน์ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แสดงความคิดเห็นเริ่มนาที 0:14:24
คลิกที่นี่ ดูบนyoutube...
หรือคลิกที่นี่.. @ AsiaUpdate "เล่าเรื่อง ตาดูดาวเท้าติดดิน"

คลิกที่นี่ ดูบนyoutube...

คลิกที่นี่ ดูบนyoutube...

คลิกที่ภาพ...เพื่อดูขนาดที่ใหญ่ขึ้น

วันศุกร์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2556

27... เรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับผม เพราะระบอบทักษิณ "ทักษิโณมิกส์ Thaksinomics"

@ ภาพหนึ่งภาพ แทนคำพูดล้านคำ..
@ เพิ่งเคยเห็นนายกฯคนแรกนี่แหละ ที่สนับสนุนให้เด็กเก่งคณิตศาสตร์
@ แด่..มนุษย์เงินเดือน "อันความรู้ รู้กระจ่างแต่อย่างเดียว แต่ให้เชี่ยวชาญเถิดจะเกิดผล"
@ สิ่งที่ควรรู้ ก่อนเรียน Master of Business Administration (MBA)
@ ฮู้ยยยย...สติแตกกันไปหมดแย้วทั้งคนเล่นและกองเชียร์แนวร่วม
@ ความเป็นมาของ คดีสะเทือนโลก "ที่ดินรัชดา" ที่ทุกๆคนควรรู้!!!
@ ผมไม่ได้แหล!!! แต่เรื่องดีๆอย่างนี้..clickดูเองเหอะ
@ สาระน่ารู้... เขาซื้อทองคำ ขายทองคำ กันอย่างไร?????
@ เฮ้อ!! ณ นาทีนี้..บอกได้คำเดียว เสียดาย..เสียดายครับ...นโยบายดีๆที่คน กทม. ไม่เอ๊า..ไม่เอา...

คลิกที่ภาพ...เพื่อดูขนาดที่ใหญ่ขึ้น @ New!! แจกปฏิทินนายกฯปู พ.ศ.2556 คลิกที่นี่...

คลิกที่ภาพ...เพื่อดูขนาดที่ใหญ่ขึ้น

@ นสพ.มติชน



เรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับผม เพราะระบอบทักษิณ
"ทักษิโณมิกส์ Thaksinomics"

By: สมาชิกหมายเลข 843208 เว็บ pantip

ต้องขอออกตัวก่อนครับว่า ไม่มีเจตนาจะอวด จะอวย จะทะเลาะ อะไรกับใครทั้งสิ้น เพียงแต่อยากเล่าเรื่องจริงที่เกิดขึ้นแค่นั้นครับ อนึ่ง ผมเคยอ่านกระทู้เพื่อนท่านบอกว่า "ความฉลาดนี่แปลก อวดทีไรโง่ทุกที" ผมว่าทุกอย่างละครับ ถ้าอวดแล้วจะโง่ทันที ผมจะพยายามไม่ให้เกิดสิ่งเหล่านี้ แต่มองว่าเป็นการอวดก็ขอให้เข้าใจว่า ผมไม่มีเจตนาเช่นนั้น

อยากจะบอกว่า "คนเราเกิดมาไม่ได้ดีไปหมดทุกอย่าง" เหมือนนายกฯทักษิณ ใครๆก็บอกว่าท่านเลว แต่ส่วนดีของท่านก็มีดังที่ผมจะเล่าต่อไปนี้...

ผมเป็นลูกชาวนาครับ แม่เล่าให้ฟังว่าหลังจากขาดทุนจากการทำไร่อ้อยก็มาทำนาอย่างเดียว เด็กๆ ผมก็เดินเทียวโรงเรียนกับเพื่อนๆ ระยะทางไปกลับประมาณ 20 กิโลเมตร เป็นทางเกวียนข้างทางเป็นป่า ขากลับผมและเพื่อนๆ ก็มักจะแวะเก็บหมากเล็บแมว หมากขี้หนู หรือไม่ก็หมากผีผ่วนกินประจำ สนุกดีครับ เพราะยากจนพ่อกับแม่จึงส่งพี่ชายมาเรียนหนังสือกับปู่จนได้รับราชการครู (เงินเดือนพันกว่าบาท น้อยมาก)

ต่อมาเมื่อขึ้น ป.4 ผมไปเรียนอยู่กับพี่ชาย ที่ที่ผมอยู่เป็นพื้นที่สีชมพู คือ พื้นที่คอมมิวนิสต์ ที่นี่เป็นคอมมิวนิสต์เกือกทุกครัวเรือน อยู่ที่นี่ลำบากครับทุกเรื่อง ไม่มีไฟฟ้า ทีวี ประปา ถนนหนทางก็ไม่ดี อาหารการกินส่วนหนึ่งซื้อส่วนหนึ่งหากินเองตามธรรมชาติ แล้วแต่ชาวบ้านจะเอามาขาย พี่ผมเป็นครูบรรจุใหม่ๆ หลังตกเบิกไม่นานก็ต้องทำเรื่องกู้ เหตุผลผลคือต้องแต่งงาน ซื้อมอไซค์ขี่ไปสอนหนังสือเพราะโรงเรียนอยู่ไกล เงินเดือนก็น้อยอยู่แล้วยังต้องหักโน่นนี่ สิ้นเดือนก็เหลือไม่กี่บาท แต่ภาระที่ต้องดูแลคนในครอบครัวมันเยอะ นี่ยังไม่รวมรายจ่ายอื่นที่ไม่คาดคิด ก็ทำให้เป็นหนี้สินผูกพันกันมาเรื่อยๆ

ที่นี่ยิงกันบ่อยระหว่าง เจ้าหน้าที่ฝ่ายบ้านเมืองกับทหารป่า ยิงกันเหมือนในหนังเลยหละ ลอบเผาสะพาน เหมือนกับภาคใต้ของเราตอนนี้ แต่ที่ไม่เหมือนคือ บ้านผมเขาไม่ฆ่าครู ไม่ฆ่าเด็ก หรือข้าราชการอื่นยกเว้น อส. ทหาร ตำรวจ และชาวบ้านที่เป็นสายของแต่ละฝ่ายเท่านั้น และไม่มีการวางระเบิด

ผมไปโรงเรียน เพื่อนๆมักจะเรียกผมว่า ไอ้คอมมิวนิสต์ ยังไม่รู้ว่าเพื่อนเข้าใจว่าอย่างไร ไม่ดี ป่าเถื่อน ล้มล้าง ต่อต้านอำนาจรัฐ ประมาณนี้หรือเปล่า ทุกครั้งที่ผมและเพื่อนๆไปไม่ทันเข้าแถวเคารพธงชาติ ครูฝ่ายปกครองก็จะจับเรียงแถวตี วันที่ 1 ตี 1 ที วันที่ 2 ตี 2 ที ตีไปเรื่อยๆ ผมทนเจ็บไม่ไหวผมก็เลยเข้าพบอาจารย์ฝ่ายปกครองคนที่ตีผม ชื่อ(อ.สำ...) ผมพูดกับอาจารย์ว่า พวกผมขึ้นรถตรงเวลา รถมาถึงเวลาไหนก็เวลานั้นแหละ มันไม่ใช่ความผิดพวกผม ครูแย้งว่าทำไมไม่บอกรถให้ออกจากบ้านเช้าขึ้น ผมบอกว่ารถวิ่งผ่านหลายหมู่บ้าน วันไหนคนน้อยก็ถึงไว วันไหนคนรายทางมากก็ถึงโรงเรียนสาย.. เช้าวันต่อมาก็ไม่มีเหตุการณ์นี้อีก (เรื่องนี้เพื่อนๆที่ร่วมเดินทางไม่มีใครรู้)

แต่ต่อมาไม่นานก็โดนตีอีก คราวนี้ผมโดน 3 ครั้ง ไม้ขาดกระเด็น เหตุเพราะผมใส่เสื้อกันหนาวไปโรงเรียนโดยไม่ใส่เสื้อนักเรียน

ผมนึกในใจว่า เหตุผลแค่นี้ครูก็เล่นหนักเสียจนจิตใจผมเตลิด ครูไม่ถามว่าเหตุผลคืออะไร ผมมีชุดนักเรียนเพียงชุดเดียว เสื้อซักทุกเย็น รองเท้า ถุงเท้า กางเกงอย่างละ 1 กลับถึงบ้านตอน 6 โมงเย็นหมดสิทธิ์ที่จะซักอย่างอื่น แต่วันนั้นลืมซัก ก็เลยใส่เสื้อกันหนาว ซึ่งปกติก็ใส่เสื้อกันหนาวไปเรียนอยู่แล้ว อาจารย์คนนี้คือ อ.อด... ผมรับไม่ได้กับการทำโทษพวกผมเพราะเหตุผลแค่นี้ ผมนึกในใจว่านี่มันโรงเรียนหรือคุกนักโทษกันแน่ บอกตามตรงว่า เจ็บใจมาก มันเหมือนเอาอำนาจมากดกัน ตอนนี้อายุ 45 ปีครับ ผมจำเรื่องนี้ได้ดี (หลังเสาธง ใต้ต้นสน ใต้แสงแดดอ่อนตอนเช้าในหน้าหนาว ไม้ขาดกระเด็นจนต้องเปลี่ยน)

ผมเรียนจบ ม.6 ก็เข้ากรุงเทพฯ ไปสมัครทำงานรับจ้างส่งของ (เครื่องใช้สำนักงาน) แถวเยาวราช เงินเดือน 1,700 บาท ก็เหลือเก็บครับเดือนละ 500 บาท สิ้นปีก็มีแต๊ะเอียก็พอได้ใช้ครับ ถึงแม้จะเหนื่อยก็ทนไหว เพราะเคยทำงานหนักตั้งแต่เด็ก

มาพบรักกับคนบ้านเดียวกันครับ ก็เลยขอเธอแต่งงาน แต่ตอนนั้นมีเงินก็ไม่พอค่าสินสอด ทำงานทุกบาททุกสตางค์ให้เธอเก็บหมด บ้านที่เช่าอยู่มีพี่ๆหลายคนอยู่ด้วยกัน ตกกลางคืนก็จะเอาไฮโลมาเขย่า เล่นกันแบบสนุก...ขำๆ เข้าทางผมครับ ไปซื้อลูกไฮโลแถวสามย่านมาครับแบบ 5 5 1 คือ เวลาเราเขย่านิดเดียวกันก็จะขึ้น 5 5 1 ผมอาสาเป็นเจ้ามือก็สลับกับไฮโลของพี่เขาโดยไม่ให้เขารู้ ผลปรากฏว่า ได้ผลครับ และคิดว่าคงเดาออกนะครับว่า ผมเอาเงินไปทำอะไร คนเราเวลาจนมุมมันก็จะคิดทำในเรื่องแปลกๆ

ผมไปสู่ขอผู้หญิงคนนี้ด้วยตนเองครับ แม่ยายถามว่าทำไมให้พ่อแม่มาขอ ผมบอกว่า พ่อแม่ไม่ได้แต่งด้วย เมียผมผมก็ต้องขอเอง.. (อิ อิ อิ) แต่สุดท้ายก็ให้ผู้เฒ่าผู้แก่เหมือนเดิมนั่นแหละ

หลังแต่งงาน ผมกับเธอก็พากันไปหาบ้านเช่า ผมไปดูแถวฝั่งธนฯ โอ้โหครับ ห้องละ 700 บาทต่อเดือน ห้องกั้นด้วยเศษไม้กระดาน ใต้ถุนเต็มไปด้วยน้ำเสีย ยุงก็เยอะ ก็เลยไปที่อื่น (แต่คนอื่นๆเขาก็อยู่กันนะ นับถือๆ จริงๆ) ก็ไปได้ห้องเช่าแถวถนนตก อยู่ชั้น 3 ครับ มีห้องน้ำอยู่ชั้นล่างห้องเดียว น้ำอาบ น้ำดื่ม น้ำใช้ ผมก็เอาจากห้องน้ำห้องนี้แหละ ก็ซื้อของเข้าห้อง ของชิ้นแรก คือ ทีวีครับ แล้วก็ เขียง มีดอีโต้ ครก สาก แค่นี้ครับ

ต่อมาผมย้ายมาทำงานที่บริษัทประกันภัยแห่งหนึ่ง เป็นพนักงานส่งเอกสาร ชื่อบริษัท ..อุตสาหะประกันภัย (ชื่อประมาณนี้ครับ) อยู่ฝ่ายวิจัยและพัฒนาระบบ ทำงานวันแรก ผจก.ฝ่ายก็ให้ผมไปรับเงินที่ตึก เนชั่น บางนา เงินสดสามแสนกว่าบาท (สงสัยจะเป็นการทดสอบ) ก็โอเคครับ ได้พิเศษ 500 ตั้งแต่นั้นมาผมจึงเป็นที่ไว้วางใจ เพื่อนๆในฝ่ายเก่งๆทั้งนั้นครับ ผมจึงมีโอกาสได้รับความรู้ต่างๆมากมายจากตรงนี้ ผมว่าได้ความรู้จากที่นี่มากกว่าตอนที่ผมเรียนเสียอีก.. ผมเป็นคนเรียนไม่เก่งครับ แต่ผมประเภทครูพักรักจำ ช่วยงานเขาทุกอย่างจนมีโอกาสเป็นพนักงานยอดเยี่ยมของบริษัทฯ ทำให้เงินเดือนขึ้นเยอะพอสมควร

ส่วนคู่ชีวิตผมนั้นก็ทำงานที่ บ.จิวเวอร์รี อาคารหวั่งหลี เงินเดือนก็น้อยครับแต่พออยู่ได้ ช่วงนี้ก็ต้องส่งน้องที่บ้านนอกเรียน 2 คน เมียผมก็ต้มไข่ไปขายที่ทำงาน ก็ลำบากครับ ก็พออยู่ได้ครับ...ช่วงนี้ผมกับเธอพักอยู่ที่ประชานิเวศน์ หลังโรงเรียน (ตอนปี 35 ช่วงรัฐประหารแถวนี้ทหารเต็มไปหมด) เธอจะไปทำงานด้วยการขึ้นรถไฟ ก็ขึ้นที่สถานีบางเขน เมื่อเธอท้องโต ขึ้นลงรถไฟลำบากผมกับเธอจึงตัดสินใจลาออกจากงาน ไปอยู่บ้านนอกในปี 39 ประกอบกับช่วงนั้นเป็นช่วงที่เศรษฐกิจเริ่มทรุด..คนเริ่มตกงาน

ผมกลับมาตระเวนขายเครื่องถ่ายเอกสารมือสอง ส่วนภรรยากลับไปอยู่กับครอบครัวรอคลอด นานๆจะเจอกันเพราะอยู่กันคนละจังหวัด แต่แล้ววันที่เธอคลอด ผมก็ใจสลาย เพราะว่าลูกผมที่คลอดออกมาแล้วหมอแจ้งว่ามีปัญหาระบบขับถ่ายต้องผ่าตัด เพื่อนๆครับ ขณะที่ตอนนั้นเงินก็มีไม่มาก งานก็ไม่เป็นหลักแหล่ง ลูกเกิดมาเพียงวันเดียวหมอก็ต้องเอาเข็มน้ำเกลือเสียบไว้ที่หัว ผมสงสารลูกกับเมียสุดๆ แต่โชคดีที่ว่าการรักษาเด็กไม่มีค่าใช้จ่าย และอยู่รักษาตัวไม่นานก็ออกจากโรงพยาบาลได้ ระหว่างรักษาตัวผมไปบนบานไว้ที่ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ด้วยมาลัย 7 สี 7 ศอก และภาวนาอยู่ในใจขอให้ลูกรอดปลอดภัย สุดท้ายก็รอดครับ ตอนนี้เรียนอยู่ชั้น ม.6 ผมตั้งชื่อลูกว่า......(ซึ่งมีความหมายเกี่ยวกับการได้มาโดยบังเอิญ) เป็นชื่อที่เป็นมงคลกับผมมาก เพราะ..ในเวลาต่อมาลูกค้าเข้าร้านผมเพราะชื่อร้านความหมายดี (เชื่อไหมลูกค้าที่มาทำเอกสารผลงานที่ร้าน จะผ่านแทบทุกคน มีบ้างที่ต้องปรับปรุง) เรื่องราวเหล่านี้ลูกค้าจะบอกปากต่อปาก

พ่อบอกผมเสมอว่าให้พาลูกเมียไปอยู่ที่อื่นให้ได้ ไม่ให้อยู่ที่นี่(บ้านพ่อ)เพราะกลัวชาวบ้านเขาจะนินทาว่าเลี้ยงครอบครัวไม่ได้ พ่อเตือนผมตลอด

ผมจึงไปขอเช่าห้องเพื่อเปิดร้านกับเจ้คนหนึ่ง โดยลงทุนทำห้องน้ำเองและกั้นห้องเอง แล้วรับลูกเมียมาอยู่ด้วย พร้อมกับเงินติดตัว 4,000 บาท โดยพ่อให้เงินมาจ่ายค่าห้องเช่าล่วงหน้า 10,000 บาท ก็เหลืออีก 12,000 บาท

ผมเปิดร้านโรงพิมพ์และศูนย์ถ่ายเอกสารเล็กๆ(มากๆ)แต่โฆษณาเกินจริง แบบว่าครบวงจร มีเครื่องถ่ายเก่าๆตัวหนึ่ง เครื่องคอมฯ เครื่องเคลือบบัตร อย่างละตัวครับ เมีย 1 ลูก 1 อายุ 6 เดือน บ้านเช่า 2,000 /เดือน(จ่ายรายปี) ข้าวไม่ต้องซื้อ ในช่วง 3 เดือนแรก มีรายได้วันละ 20-30 บาท นึ่งข้าวใส่ติบ ซื้อไก่ 1 ไม้ 10 บาท กินทั้ง 3 มื้อกับเมีย บางครั้งก็จิ้มน้ำปลา กัดบักพริกดิบตามด้วยหัวหอมนี่หละก็อยู่ได้อย่างชิวชิว ที่ข้างบ้านเช่านั้นมีต้นมะละกอต้นหนึ่งครับ ลูกมันจะดกมาก ผมก็เลยได้มะละกอต้นนี้แหละช่วยพยุงชีวิตอีกทางหนึ่ง ต่อมาเดือนที่ 4 5 6... มีรายได้วันละ 50 บาท (ดีใจแทบตาย) วันไหนที่ได้ 100 ดีใจยังกะถูกหวย

เป็นที่น่าสังเกตว่า สายๆของทุกวัน เจ้คนนี้ก็จะมาเก็บมะละกอต้นเดียวกันกับผมนี้แหละทุกวันครับ จนเมียผมเห็นผิดสังเกตก็เลยเป็นอันเข้าใจว่า เพราะเรายังค้างค่าเช่าอยู่นี่เอง ผมกับเมียตัดสินใจขายทองสินสอด 2 บาท แล้วไปจ่ายค่าเช่าที่บ้านของแกที่อยู่ห่างไปอีกไกล พอจ่ายแล้ว เจ้แกก็บอกว่า ปีหน้าจะขึ้นค่าเช่าเป็นเดือนละ 2,500 บาท ผมพูดไม่ออกเลยครับ นึกในใจลำพังแค่จะกินไปวันๆยังยาก เจอไม้นี้เหี่ยวเลยครับ และตั้งแต่วันนั้นเจ้แกก็ไม่มาเดินผ่านหน้าบ้านอีกเลย

ต่อมาแกมาสั่งทำใบเสร็จ ผมก็เกรงใจเจ้าของบ้านเช่าครับ ทำให้ในราคา 25 บาท แต่เจ้แกจ่ายผมจริงเล่มละ 23 บาท ก็พูดไม่ออกก็ต้องทำใจ (ตอนนั้นอุปกรณ์ปรุกระดาษผมไม่มีครับ ผมก็ใช้วิธี เอามีดอีโต้ทำกับข้าวนี่แหละมาทำให้เป็นรอยหยักๆ แล้วก็มาตอก มีอยู่ครั้งหนึ่งมีอาจารย์คนหนึ่งมาจ้างให้พิมพ์งาน อ.3 ผมรับทันที พิมพ์อยู่ 2 วัน 2 คืน ไม่หลับไม่นอนครับก็ทำให้ร้านฯเริ่มมีงาน พวกงานเย็บปกเข้าเล่ม ถ้าเล่มบางก็ใช้คัตเตอร์กรีด แต่ถ้าหนาก็ไปจ้างเขาตัดอีกต่อหนึ่ง ทำให้ขาดรายได้ไป ผมเลยไปติดต่อกับออมสินเพื่อขอกู้เงินมาซื้อเครื่องตัด แต่ไม่ได้ครับ ไปกรุงไทยก็ไม่ได้ครับ ก็เลยต้องใช้คัตเตอร์กรีดเรื่อยมา (งานออกมาไม่สวยเลย)

พอปี 40 เศรษฐกิจไทยก็ทรุด ช่วงนั้นนายชวนเป็นนายกฯ ซึ่งการแก้ปัญหาขณะนั้น นายชวนจะออกในแนวประหยัด มัธยัสถ์ และมีการส่งเสริมทฤษฎีพอเพียง ช่วงนั้นคนต่างจังหวัดกลับบ้านกันเยอะมาก เพราะตกงาน ค้าขายขาดทุน แทบทุกคนกลับบ้านไปอาศัยพ่อแม่ที่บ้านนอกที่ส่วนมากเป็นเกษตรกร ทำไร่ ทำสวน ทำนา กลับมาช่วยพ่อแม่ทำงานที่บ้าน ก็ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ไม่ลำบากมาก เพราะมีบ้านอยู่ มีข้าวกิน อาหารการกินหาได้ตามท้องไร่ท้องนา จะไม่มีก็แค่เงินเท่านั้น

ช่วงนั้นทั้งสื่อมวลชน รัฐบาล นักวิชาการ วิชาเกิน ต่างมองเห็นเป็นแนวทางเดียวกันว่า บ้านและครอบครัวที่ต่างจังหวัดของแต่ละคน และการเกษตร นั่นแหละคือฐานที่มั่นของชีวิต ภาคเกษตรคือเบาะรองรับการล้มที่ดีที่สุด และขอบคุณเกษตรกรคนต่างจังหวัดที่ช่วยดูแลและรับภาระช่วงที่เกิดวิกฤต ผมเปิดร้านปี 39 ปี 40 เศรษฐกิจทรุด ประกอบกับร้านก็เล็ก เงินทุนหมุนเวียน 4,000 บาท หลักทรัพย์อะไรก็ไม่มี ไปกู้เงินออมสินเขาก็ไม่ให้กู้ ไปกู้กรุงไทยเขาก็ไม่ให้กู้ ก็อยู่ไปตามประสารอวันตาย นึ่งข้าวเหนียวใส่กระติบ ซื้อไก่ไม้ 10 บาท กินกัน 2 คนผัวเมีย เลิกเหล้า เลิกบุหรี่ เลิกเที่ยว ลดรายจ่ายทุกอย่างครับ ก็พออยู่ได้

ต่อมาไม่นานมีการเลือกตั้ง พรรคไทยรักไทย เอาป้ายมาติดหน้าร้าน พร้อมกับข้อความ คิดใหม่ ทำใหม่ ผมนึกในใจว่า ยังงัยก็จะเลือกท่านทักษิณ ด้วยเหตุผลที่ว่า อยากลองของใหม่ ชอบเครื่องแบบ หน้าตาท่านดี รวย และกล้าติดสินใจ บุคลิกดี กล้าพูด คุยกับฝรั่งเสียงดัง ฟังชัด ฉะฉาน ซึ่งก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมาก (ก็รู้กันอยู่ว่าในอดีตที่ผ่านมาเมื่อเลือกตั้งเสร็จก็งั้นๆ คล้ายๆกับว่าเขาขออำนาจเราไป เมื่อได้แล้วก็จบกัน ติดตามไม่ได้ ตรวจสอบไม่ได้ เรียกร้องไม่ได้ ทวงสัญญานโยบายไม่ได้)

แต่... จากวันนั้นวันที่ ไทยรักไทย มาแขวนป้ายหน้าร้าน ชีวิตผมก็เปลี่ยนไป...

- ผมมีงานมากขึ้นเพราะ ส.ส. เข้ามาถ่ายเอกสาร หลักฐานต่างๆ เยอะมาก ตั้ง 8-9 เบอร์ แต่ละเบอร์ทำเอกสารไม่ใช้น้อยๆ ทำให้ได้งานได้เงินมากขึ้น ราคาดีขึ้น เมื่อผลปรากฏว่า ท่านทักษิณ ชนะเลือกตั้ง แถลงนโยบายเสร็จสรรพ ด้วยวลีที่ว่า "จะเป็นรัฐบาลที่ทำงานเหนื่อยและหนักเพื่อประชาชน" การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ต่างสนใจในนโยบาย (ในขณะที่ประเทศไทยเป็นหนี้ IMF แต่ท่านทักษิณบอกว่าจะให้เงินชาวบ้านไปบริหาร หมู่บ้านละ 1 ล้าน ตอนนั้น พรรค ปชป. เอาแต่นั่งหัวเราะ) ข้าราชการตื่นตัว มีความกระฉับกระเฉง โครงการต่างๆ พรั่งพรูออกมา (ซึ่งไม่บอกทุกท่านก็น่าจะรู้ว่าเกิดการเปลี่ยนแปลงขนาดไหน)

- ต่อมามีนโยบาย ธนาคารคนจน ของธนาคารออมสิน ให้กู้รายละ 15,000-30,000 บาท ให้กับคนทั่วไปและพ่อค้าแม่ค้า โดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์ ไม่ต้องมีคนค้ำประกัน ผมก็เอาด้วยครับ ก็เอามาซื้อของเข้าร้านเพิ่ม ใช้หนี้เขาสัก 2-3 เดือน ก็ผ่อนเกือบหมด ต่อมาก็มีโครงการสินเชื่อห้องแถว ผมก็เอาด้วยครับ เอามาซื้อเครื่องตัด ซื้อเครื่องถ่ายเพิ่ม ซื้ออุปกรณ์ต่างๆ ต่อมาผมก็ไปขอสินเชื่อประเภทซื้อที่อยู่อาศัย ธ.ออมสิน เห็นว่าผมส่งเงินเขาดี ไม่ขาดตกบกพร่องเขาก็ให้กู้ซื้อบ้านราคา 400,000 บาท ก็ผ่อนมาเรื่อยครับ ตอนนี้เหลือแสนกว่าบาท ซึ่งเงินผ่อนกับเงินค่าเช่ามันก็พอๆกัน

- ต่อมาก็มีโครงการต่างๆ ออกมาจากรัฐอีกมากมายฯ ซึ่งทุกโครงการล้วนแต่กระตุ้นการจับจ่ายใช้สอย กระจายเงิน กระจายโอกาส เช่น ป.บัณฑิต เงินเพิ่ม อ.3 ผอ.กันดาร (ผอ.3.4) เพิ่มเงิน ป.ของตำรวจ หวยบนดิน เขียนจดหมายขอทุน 1 อำเภอ 1 โรงเรียน โอท็อป แก้ปัญหาความยากจน 30 บาทรักษาทุกโรค พักหนี้ บ้านเอื้ออาทร จำนำข้าวและพืชผลอื่น โอท็อป เงินกู้เรียน ปราบเงินนอกระบบ เพิ่มเบี้ยยังชีพคนชรา แปลงสินทรัพย์เป็นทุน ฯลฯ ทุกโครงการ...ร้านค้าเล็กๆอย่างผมก็จะได้งานเพิ่มขึ้น แน่นอนว่ารายได้ก็ตามมา ซึ่งเป็นคนละอย่างกันกับ ท่านชวน หลีกภัย แห่ง ปชป. ที่มุ่งเน้นการประหยัด เก็บหอมรอบริบ พอเพียง (และหลายคนก็ได้รับโอกาสเหมือนผมนี่แหละ)

จวบจนกระทั่งปัจจุบันนี้ จากที่ผมเป็นร้านเล็กๆในอดีต ปัจจุบันก็ถือว่ามีความพร้อมในการให้บริการลูกค้ามากขึ้น ติดตั้งโทรศัพท์ไว้ รับ-ส่งแฟกซ์ มีเครื่องถ่าย 5 ตัว เครื่องพิมพ์ 2 ตัว เครื่องปริ้น 7 ตัว เครื่องคอมพิวเตอร์ 2 ชุด เครื่องตัด อุปกรณ์อื่นๆ อีกมากมาย

สั่งกระดาษเข้าครั้งละประมาณ 100-200 รีม(เอ4) ก็เป็นเรื่องปกติ ซื้อที่ดินในตัวอำเภอ 3 แปลง มีรถคันละล้านขับ จากร้านที่เช่าก็ซื้อเขาซะจะได้ไม่ต้องกลัวเขาไล่ที่ ส่งลูกเรียนพิเศษได้ ไปเที่ยวทะเลในวันหยุดได้ วันไหนว่างๆ ก็พาลูกเมียไปกินพิซซ่าได้ กินสุกี้ได้ ดูหนัง ตามห้างฯได้ มีโน๊ตบุ๊คให้ลูกใช้ มีโทรศัพท์มือถือดีๆเครื่องละหมื่นกว่าๆใช้ มีทีวีจอ 40 นิ้วไว้ดู มีคาราโอเกะไว้ร้อง มีชุดโฮมเธียร์เตอร์ ชำระค่าเน็ตเดือนละ 700 ได้ และก็เป็นหนี้ได้สัก 2-300,000 บาท คือ สรุปว่าชีวิตมันเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีขึ้น แม้มันจะไม่มากก็ตาม อาจเป็นหนี้เป็นสินบ้าง แต่ก็อยู่ในภาวะที่จะชำระได้ หักลบกลบหนี้แล้วก็พอมีกำไร (มันก็ดีกว่าตอนที่ทั้งวัน ไก่ 1 ไม้ 10 บาท กินทั้งผัวเมีย จนชาวบ้านเขาต่างดูถูกว่า สงสัยจะเลี้ยงลูกเลี้ยงครอบครัวไม่ไหว)


ที่เล่ามานี้ ผมไม่ได้ว่าจะอวด จะอวย จะทะเลาะอย่างที่ว่าไว้ เพียงแต่จะสะท้อนให้เห็นว่า

1. วันหนึ่งเมื่อคนกรุงเทพฯ หรือภาคธุรกิจ-อุตสาหกรรม เดือดร้อนเพราะเศรษฐกิจ พวกคุณก็เอาคนที่ตกงาน เอาภาระของสังคมไปฝากไว้กับ ภาคการเกษตร ที่มีแต่คนแก่ คนเฒ่าเป็นผู้บริหาร พวกเขาขาดทั้งเงินทุน ขาดทั้งองค์ความรู้ การคมนาคม อำนาจต่อรอง ฯลฯ แต่เขาก็ทำหน้าที่เลี้ยงดูคนทั้งประเทศได้ จนประเทศฟื้นคืนสู่ปกติ

แล้ววันหนึ่ง วันที่พวกเขาทำการเกษตรแล้วพอจะมีกำไรบ้าง พอที่จะปลดเปลื้องหนี้สินได้บ้าง ภาคธุรกิจ-อุตสาหกรรม ก็ต่อต้านตั้งแง่กับเขาว่าได้มากไป จะทำให้ประเทศชาติทรุด ทั้งๆที่วันที่ประเทศชาติทรุด พวกเขาเป็นคนดูแล อย่างนี้ยุติธรรมสำหรับเขาแล้วหรือ (ส่วนนักการเมืองบางฝ่ายก็ไล่ล่า ไล่ล้มกัน หาใช่การตรวจสอบเพื่อให้ภาคเกษตรกรได้ประโยชน์สูงสุดอย่างที่กล่าวอ้าง)

2. แล้วที่ผมบอกว่า ผมมีสิ่งของต่างๆนานา หลายๆอย่าง ก็ใช่ว่าผมจะอวด เพียงแต่อยากจะสะท้อนให้เห็นว่า ของที่ผมซื้อหามาได้นั้น ส่วนมาก ชาวไร่ชาวนา เขาไม่ได้ผลิต มีแต่คนรวย พ่อค้า นายทุน เจ้าของโรงงาน นายธนาคาร และคนชั้นกลาง-ชั้นสูง เท่านั้นที่ร่วมกันผลิต นั้นแสดงว่า แม้ผมจะทำมาหาได้ แต่สุดท้ายแล้วเงินก็กลับไปสู่พวกคุณที่เป็นพ่อค้านายทุน คนชั้นกลาง-ชั้นสูงอย่างพวกคุณ ใช่หรือไม่ (แล้วพวกคุณจะบอกว่า ท่านทักษิณฯ เอาเงินมาแจกคนจนได้อย่างไร)

ก็ใช่ว่าผมจะลุ่มหลงในโลกของทุนนิยมไปเสียทั้งหมด เพราะในที่ทางที่ผมมี ผมก็ทำตามที่พ่อท่านบอก (แต่ไม่ทำอย่างพ่อท่านทำ) คือ ปลูกทุกอย่างที่กิน ปลูกข้าว (3 ไร่) พริก มะนาว ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด แมงลัก มะละกอ กระท้อน มีบ่อปลาเล็กๆ 2 บ่อครับ แต่จับปลากินได้ทั้งปี มีกระถิน ตำลึง มะรุม ผักพื้นบ้านก็เก็บกินได้ทั้งปีครับ ปลอดจากสารเคมีทุกชนิดครับ ใช้ขี้วัว ขี้ควาย เป็นปุ๋ย (มะม่วงที่สวนผมลูกใหญ่ที่สุดในอำเภอครับ) ไก่ป่า..ก็เยอะสุดครับ เป็นเถียงนาเล็กๆครับ แต่อยู่ง่ายๆ สบายๆ

"ต้องยอมรับว่า ผมมีชีวิตแบบปกติสุขอย่างทุกวันนี้ได้เพราะนโยบายของท่านทักษิณ ชินวัตร จริงๆ แล้วแบบนี้ ไม่ให้ผมรัก ไม่ให้ผมเลือกท่าน ก็ช่วยตอบผมหน่อยเถอะว่า จะให้เลือกหมาที่ไหน???"

สุดท้ายผมอยากบอกว่า "เมื่อก่อนท้องลูกท้องเมียกำลังหิว บากหน้าไปหาใครก็ไม่มีใครเหลียวแล มาบัดนี้กินอิ่มนอนอุ่น แล้วจะให้ลืมคนที่หยิบยื่นให้ได้อย่างไร คำว่า"ขอบคุณ"อาจจะน้อยเกินไปสำหรับเขา"

ขอบคุณ ขอบคุณ ขอบคุณจริงๆ..............

ปล. ข้อมูลจริงครับไม่ได้ดราม่า และยินดีต้อนรับทุกท่าน..ครับ


By: คนไทยใจกว้าง : หลายๆคน ที่เกลียดกลัว ทักษิณ จนหัวคะมำ สมองวิปลาส ก็ให้ งง และสงสัยว่า ทักษิณ ไปทำร้ายเขาและครอบครัวยังไง หรือไปตัดทางทำมาหากินเขาหรือเปล่า ทำไมถึงได้ เกลียดชัง ขนาดนั้น ... ทำให้เกิดคำถามว่า คนที่ลำบากเพราะ ทักษิณ นั้น ประกอบอาชีพอะไรกันบ้าง เพราะต้องเสียผลประโยชน์จากนโยบายของเขา ... ทักษิณ ไปทำร้ายครอบครัวเขารึเปล่า ... หรือ เกลียดเพราะอยากจะ "แตกต่าง" กับคนส่วนใหญ่

By: ขนมต้ม : มีอยู่ไม่กี่กลุ่มครับ

1. พวกค้ายาเสพติด โครงข่ายใหญ่

2. พวกมาเฟียที่เคยรีดไถชาวบ้าน จำได้มั้ย ตอนแม่ค้าที่นครสวรรค์ถูกฟันมือขาดจากแก๊งทวงหนี้ ทักษิณเป็นนายกฯ สั่งการให้จัดการกับกลุ่มพวกหนี้นอกระบบ

3. พวกชนชั้นกลาง-สูงที่เห็นแก่ตัวบางกลุ่ม (ประชาธิปัตย์นิยม) พวกนี้จะไม่สนใจอะไรมาก แค่เห็นคนอื่นด่า ก็เอาตามกระแสตามแฟชั่นไป

4. พวกสื่อมวลชน ที่ไม่ได้กินกับทักษิณ มีคนบอกว่า มติชนไม่กินเหรอ ถ้างั้น จะบอกให้ว่า มติชนนี่เคยมีเรื่องกับทักษิณมาก่อน ที่หุ้นกลุ่มมติชน จะถูกกลุ่มของอากู๋ แกรมมี่ซื้อ ปรากฏว่า มติชนก็ไปเรียกร้องว่าอย่าแทรกแซงสื่อ ตั้งโต๊ะรับซื้อคืน คนที่สบายก็คืออากู๋ เพราะหุ้นขายได้กำไร

ตอนไล่ทักษิณ มติชนเอาด้วย แต่มากลับตัวได้หลังรัฐประหาร เพราะมติชนยืนหยัดบนหลักการไม่เอาเผด็จการรัฐประหาร และเข้ามาอยู่กับกลุ่มประชาชนจนถึงทุกวันนี้ แถมยังลาออกจากการเป็นสมาชิกสมาคมนักข่าวหนังสือพิมพ์ฯ เพราะในนั้นเขาเล่นพรรคเล่นพวก กลัวสนธิ เป็นแถบๆ

ส่วนสื่อเจ้าอื่นๆ ไม่อยากพูดถึง เพราะพูดไปเดี๋ยวจะหาว่าไปแฉกันอีก

By: มะฮอกกานีใบใหญ่ : ดิฉันชอบคำพูดประโยคหนึ่งของคุณทักษิณมากๆ "เงินลอยอยู่ในอากาศ"

คำพูดนี้แหละ ที่ช่วงหนึ่ง มีคนบางกลุ่ม (และอดีตเพื่อนเหลืองของอิฉันด้วย) หัวเราะเยาะมาแล้ว

และเอามาเล่นคำ ถากถางกันอยู่พักใหญ่ๆ แต่ไม่คิดซักนิดว่า คำนี้น่ะ แท้จริงแล้ว มีความหมายซ่อนอยู่ว่าอย่างไร เหอะๆๆ

By: สมาชิกหมายเลข 873950 : ว่าด้วยเรื่องการเข้าถึงเงินทุน และผลสำเร็จ

เค้าว่าคนรวย ยิ่งทำยิ่งรวยขึ้น คนจนยิ่งทำยิ่งจนลง ... หรือคำกล่าวที่ว่าเงินล้านแรกมันยากเย็นแสนเข็ญ ล้านต่อไปแป๊ปเดียวก็ได้แล้ว

เพราะอะไร ไม่ใช้ว่าคนรวยเก่งกว่าคนจนซะหมด แต่ว่า...

คนที่มีทุนจะมีโอกาสมากกว่า มีโอกาสขยายร้าน ขยายธุรกิจ หรือลงทุนในธุรกิจที่มองเห็นโอกาสที่จะทำกำไรได้ตามใจชอบ

ในขณะที่คนจน ถึงจะมองเห็นธุรกิจที่จะหาเงินได้ แต่แค่ข้าวจะกินยังไม่พอเลย ไหนจะค่าเช่าบ้าน ถ้าจะให้อดข้าวและนอนข้างถนนสักเดือน สองเดือนเพื่อหาเงินทุนในการทำธุรกิจที่มองเห็นลู่ทางในการหากำไรได้ ก็คงทำไม่ได้

>>>> ดังนั้นการเข้าถึงแหล่งเงินทุน จึงเป็นสิ่งที่สำคัญ เป็นโอกาสที่จะทำให้สามารถดำเนินธุรกิจได้

>>>> แต่คนจนมีโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้น้อยมาก

>>>> ผู้บริหารที่มีวิสัยทัศน์ ย่อมต้องหาทางให้คนด้อยโอกาสได้เข้าถึงแหล่งเงินทุน เพื่อให้เค้ามีโอกาสได้ลืมตาอ้าปาก

>>>> แต่เหรียญมีสองด้าน คนก็เช่นกัน มีทั้งคนพร้อมจะเอามาใช้เป็นโอกาสของชีวิต และคนที่วุฒิภาวะยังไม่พร้อมที่จะรับโอกาสนี้

>>>> บางคนนำเงินกู้ที่ได้ไปใช้เป็นทุนในการทำมาหากิน ต่อยอดจนร่ำรวยขึ้นมา

>>>> บางคนเอาไปซื้อมอไซด์ เอาไปกินเหล้า ฯลฯ ที่ไม่มีประโยชน์ ทำให้ยิ่งเป็นหนี้เป็นสิน

>>>> สำหรับผม ตัวชี้วัดนโยบายนี้คือ ถ้ามีคนกลุ่มแรก นำเงินทุนที่ได้มาใช้ในการลงทุน และเป็นเหมือนเจ้าของกระทู้ ซัก 1 ใน 4 ผมถือว่าโครงการนี้ประสบผลสำเร็จแล้ว

ปล. ผมไม่ได้หมายความว่าคนที่กู้เงินจากกองทุนหมู่บ้านเป็นคนจนทุกคนนะครับ และไม่รู้ด้วยว่าที่จริงแล้ว ผลเป็นอย่างไง

By: นายหมวดโท : ขณะนั้นผมรับราชการ ภรรยาค้าขาย ผมและภรรยาไม่ได้รับประโยชน์โดยตรงจากรัฐบาลท่านทักษิณ แต่การค้าของภรรยาตอนนั้นรุ่งเรืองมากบางวันได้ถึงวันละแสนกว่าบาทก็มีอยู่บ่อย ๆ ส่วนผมต้องเหนื่อยมากๆ ทำงานเสาร์ อาทิตย์ ในสัปดาห์หนึ่งกลับบ้านตีหนึ่งตีสองถึงสามสี่วันโดยไม่ได้รับเบี้ยเลี้ยงหรือเงินนอกเวลา มีการจ้างลูกจ้างเรียกว่า สย. เข้ามาปฏิบัติงานระดมการแก้ปัญหาความยากจน สำรวจปัญหาเพื่อต้องการทราบแก่นแท้ของปัญหาความยากจนและต่อมาท่านนายกทักษิณได้นำปัญหาที่พบมาทดลองการแก้ปัญหาที่เรียกว่า "อาจสามารถโมเดล" ซึ่งเป็นที่รู้ๆกัน

เป็นที่รู้กันโดยทั่วไปว่าช่วงนั้นบ้านเมืองมีท่าทีว่ารุ่งเรืองอย่างก้าวกระโดด ประชาชนทุกระดับมีความสุข มีความหวัง แต่คนกลุ่มเล็กๆ ทนไม่ได้ เช่น นายทุนเงินกู้ พ่อค้ายาเสพติด เจ้ามือหวยเถื่อน เพราะคนกลุ่มนี้สูญเสียผลประโยชน์ที่เคยได้รับอย่างมหาศาล ข้าราชการต้องทำงานหนักขึ้น รัฐบาลเป็นที่รักของประชาชน ทำให้เกิดคนอีกกลุ่มหนึ่งทนไม่ได้อิจฉาริษยา จึงหาทางทุกวิธีที่จะล้มให้ได้และในที่สุดก็ใช้ทหารทำรัฐประหาร บ้านเมืองจึงถอยหลังลงเหวอย่างที่รู้กัน

ชีวิตผมเคยเห็นการรัฐประหารมาก็หลายครั้งแต่ก็ไม่คิดอะไรมาก แต่รัฐประหารปี 49 ทำให้ผมกลั้นน้ำตาไม่อยู่ และยังเกลียดผู้ทำรัฐประหารและเครือข่ายของมันจนทุกวันนี้

By: โฟโต้แมน007 : คนกลุ่มนึงที่ผมรู้จักเรียกได้ว่าเศรษฐีใหม่ยุคทักษิณ เนื่องจากมีโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้

ทำให้ได้ตั้งเนื้อตั้งตัวจากนโยบายหลายๆอย่างในยุคทักษิณ สร้างกิจการจากเล็กเป็นใหญ่

คนเหล่านี้เรียกว่าเสื้อแดงได้ไม่เต็มปากเพราะบางคนไม่เคยมีกิจกรรมทางการเมืองอะไรเลยก็มี

แต่ทุกครั้งเมื่อมีการเลือกตั้ง คนเหล่านี้รวมทั้งลูกหลาน/ ลูกน้องต่างกาให้พรรคทักษิณทุกครั้งไม่ว่าจะเปลี่ยนไปเป็นชื่อพรรคอะไร

เรื่องประชานิยมผมไม่เห็นว่าจะประชานิยมเกินไปจนชาติล่มจมยังไง พรรคประชาธิปัตย์ก็ทำเลียนแบบแต่ของปลอมย่อมทำไม่ได้เท่าของจริงๆ

ยุคทักษิณ ให้เข้าถึงแหล่งเงิน และเป็นหนี้ที่ต้องใช้คืน อย่างออมสินกู้ครั้งแรก 10,000 บาท (แบบมีคนค้ำหลายคน) ถ้าประวัติดีชำระคืนแล้วกู้เพิ่มได้อีก

เรียกว่า ทักษิณให้ทุน

ยุคอภิสิทธิ์ แจกเงินกันโดยตรง แจกเช็ค 2,000 บาทให้กับผู้ที่มีรายชื่ออยู่ในระบบประกันสังคมซึ่งเป็นคนทำงานทั้งนั้นโดยไม่ต้องใช้คืน

เรียกว่า อภิสิทธิ์ให้ทาน


By: ลูกมะพร้าว : ของผมก็มีตัวอย่างนะครับ คนที่เช่าบ้านผมเขาเป็นโรคหัวใจรักษาด้วยการผ่าตัด 30 บาท หายเป็นปกติ @ สดุดี..นโยบายบัตรทองประกันสุขภาพ 30 บาทรักษาทุกโรค

ผมว่านะครับ พวกนั้นเขาไม่ฟังหรอก ขนาดประชาชนส่วนหนึ่งไปเรียกร้องให้เลือกตั้งใหม่เขายังฆ่าได้ กะชาวนาเขาจะฟังรึ? ไม่ฟังก็ไม่ว่านะเขาใส่ความชั่วร้ายเข้าไปในข้าวเพื่อทำลายชาวนาอีก เช่น สารเคมี เชื้อโรคจากการเน่า แถข้อมูลเท็จปั่นกระแสให้ประเทศไทยขายข้าวไม่ได้เพียงเพื่อต้องการทำลายล้างและล้มรัฐบาลพรรคฝ่ายตรงข้ามเท่านั้น หาได้ฉุกคิดว่าการเล่นการเมืองโดยไม่คำนึงถึงผลผลิตของประเทศชาติมันจะสร้างความหายนะต่อชาวนาและการค้าข้าวของประเทศ เขาทำเป็นขบวนการทั้งสื่อชั่วๆและสมุนตามกติกา50 ช่วยกันดึงแข้งดึงขาไม่ให้ประเทศก้าวเดินไปข้างหน้า...

ผมว่าประเทศตอแหลแลนด์นี้ไม่มีทางเจริญได้ตราบใดยังมีพรรคการเมืองอย่างพรรคเก่าแก่แบบนี้


สรุปคือ.. ข้าวเหนียวที่สหรัฐฯกักเพราะพบสารปนเปื้อน ไม่ใช่ข้าวจากโครงการรับจำนำของรัฐบาล แต่เป็นของเอกชนบริษัทยูนิเวอร์แซลไรซ์ ซึ่งไม่ได้เป็นคู่ค้าของรัฐบาล


ทำกันให้เบ็ดเสร็จเด็ดขาดไปข้างใดข้างหนึ่งซะ
ให้รู้แล้วรู้รอด...


By: สมาชิกหมายเลข 702484 : ง่ายๆ... ทุกสิ่งทุกอย่างที่กล่าวหา กล่าวโทษทักษิณ จนทำให้ทักษิณเหมือนเป็นผู้วิเศษไปเระ เพราะอะไรๆ ก็ฝีมือทักษิณไปหมด จริงๆแล้วถ้าทักษิณโคตะระเลวได้จัยขนาดนั้น ป่านนี้คนก็ลืมไปหมดแล้ว จะมีก็คงคนที่เกลียดจนเข้ากระดูกดำแค่นั้นแหละที่จะสาปแช่งถึง แต่ที่ทักษิณยังอยู่ในใจคนหลายๆคนอยู่ ก็เพราะผลงานที่เคยได้ทำแหละ

และถ้าเหลือบมองไปที่อีกฝากฝั่งหนึ่ง เอาผลงานมาเทียบกัน ก็ดันสู้ทักษิณไม่ได้อีก เท้อ โลกเดวนี้เปลี่ยนไปแล้ว นายกฯ และ นักการเมือง ที่เป็นนักการเมืองโดยอาชีพ มันล้าสมัยมันไม่ทันโลกแล้ว ผู้นำที่ไม่มีวิสัยทัศน์ ไม่มีองค์ความรู้แบบกว้างขวาง แบบมหภาค ยากที่จะพาประเทศแข่งขันกับนานาชาติได้ ค่าของคนอยู่ที่ผลของงาน คำๆนี้ยังใช้ได้เสมอๆ ผลงานหลายๆอย่างที่เคยได้ทำ นั่นแหละเป็นสิ่งที่ทำให้ทักษิณยังอยู่ในใจ คนจำนวนหนึ่ง ซึ่งก็ไม่น้อยเลยทีเดียว

ประเทศไทยตราบใดที่ ผู้ที่มีอำนาจ มีเพาเวอร์ ที่แอบแฝงอยู่ ไม่แสดงตัวออกมา และยังคงเล่นเกมแห่งอำนาจอยู่ มันก็จะเป็นแบบนี้ไปอีกระยะหนึ่งแน่ๆ รัฐบาลเสียงข้างมาก แทนที่จะมีอำนาจในการบริหารประเทศได้อย่างเต็มที่ กลับต้องมาติดขัดโน่นนี่นั่น สารพัดองค์กรอิสระ มีแต่คนฟ้องโน่นนี่นั่นเต็มไปหมด เดวเรื่องโน้น เดวเรื่องนี้ องค์สารพัดองค์..ชื่อแปลกๆ ชื่อคุ้นๆ กลุ่มคนเดิมที่รักชาติหนักหนัก ที่ยกตัวเองว่า เปี่ยมคุณธรรม จริยธรรมมากมาย ต่างขยันแข็งขันกระวีกระวาด ออกมาแถลงโน่น ฟ้องนี้กันตัวเป็นเกลียว องค์กรอิสระ ก็รับลูกตลอด

ต่างกับสมัย ปชป. เป็นรัฐบาล คนพวกนี้ไม่รู้หายเฮดไปไหนหมด ทุกอย่างผมว่า มันเป็นกระบวนการ และมันมีคนชักใยอยู่เบื้องหลัง สืบต่อเนื่องมาแต่ ปี 49 ตั้งแต่วางแผนล้มรัฐบาลทักษิณ 1 การรัฐประหาร การร่าง รธน.50 การแต่งตั้งองค์กรอิสระ การวางบทบาทชี้เป็นชี้ตาย ไว้ที่ระบบศาลเฉพาะ

ประเทศเลย ยึกยัก ชักเย่อกันระหว่างสองอำนาจ อำนาจหนึ่งมาโดยระบอบ ผ่านการเลือกตั้ง อำนาจหนึ่งเป็นอำนาจที่แฝงเร้นอยู่ ทั้งที่เป็นตัวบุคคล และทั้งที่เป็นระบบผ่าน รธน.50 เท้อ ประเทศไทยคงไปไหนไม่ไกล เผลอๆอาจต้องถอยหลังอีก หรือว่ามันต้องให้เสียหาย บาดเจ็บล้มตายกันอีกครั้งใหญ่ ทำกันให้เบ็ดเสร็จเด็ดขาดไปข้างใดข้างหนึ่งซะให้รู้แล้วรู้รอด งั้นมันไปข้างหน้าไม่ได้

ที่ผ่านมาก็น่าเกลียดจนเกินไปแล้ว ทั้งรัฐประหาร ทั้งปลดนายกฯ ยุบพรรค ตัดสิทธิ์ 555 ในโลกนี้คงมีไม่กี่ประเทศหรอก หรือ อาจมีแค่ประเทศไทยประเทศเดียว ที่นายกฯปลดง่ายยิ่งกว่า ภารโรง ร.ร. ซะอีก สมัคร สมชาย ไปง่ายๆ เลือกตั้งแทบตาย

วันนี้ความจริงสิ่งที่ฝ่ายต้องการล้มทักษิณต้องทำก็คง การเปลี่ยนแปลง การเสริมสร้างศักยภาพ ให้แก่พรรคการเมืองที่ฝ่ายตนเองสนับสนุนอยู่ ให้เป็นพรรคที่ประชาชนสามารถไว้ใจ เป็นพรรคที่เป็นทางเลือกที่ดี หรือไม่ ใครก็ตามที่เล่นเกมนี้อยู่ ที่ซุ่มๆไม่เปิดเผยตัว ก็เผยตัวตนออกมา และแสดงเจตนา ว่าต้องการให้ประเทศเป็นแบบไหน ไม่เอาพรรคทักษิณเพราะอะไร และถ้าไม่เอาพรรคทักษิณ แล้วจะเอาแบบไหน และก็ให้ความมั่นใจกับประชาชนซะ ว่าต้องการให้ประเทศเป็นแบบนี้ ถ้าประชาชนเชื่อใจ ก็จะทำให้ประเทศพัฒนา ทำให้ประชาชนอยู่ดีกินดี ทำได้ประชาชนก็ยกย่อง ทักษิณก็ไร้ความหมายไปเอง ทำไม่ได้ประชาชนก็สาปส่ง เป็นการแสดงความรับผิดชอบ ไม่ใช่ซุ่มเงียบคอยป่วนไปเรื่อยๆ ไม่ได้มีความรับผิดชอบต่อสังคม ต่อประชาชนใดๆทั้งสิ้น

เฮ้อ!!..บอกตรงๆ รำคาญครับ

วันพุธที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2556

26... ตรวจสอบโรงสีและโกดังข้าว 1,651 แห่งทั่วประเทศ ดีเดย์ 27มิ.ย.56

@ ภาพหนึ่งภาพ แทนคำพูดล้านคำ..
@ เพิ่งเคยเห็นนายกฯคนแรกนี่แหละ ที่สนับสนุนให้เด็กเก่งคณิตศาสตร์
@ แด่..มนุษย์เงินเดือน "อันความรู้ รู้กระจ่างแต่อย่างเดียว แต่ให้เชี่ยวชาญเถิดจะเกิดผล"
@ สิ่งที่ควรรู้ ก่อนเรียน Master of Business Administration (MBA)
@ ฮู้ยยยย...สติแตกกันไปหมดแย้วทั้งคนเล่นและกองเชียร์แนวร่วม
@ ความเป็นมาของ คดีสะเทือนโลก "ที่ดินรัชดา" ที่ทุกๆคนควรรู้!!!
@ ผมไม่ได้แหล!!! แต่เรื่องดีๆอย่างนี้..clickดูเองเหอะ
@ สาระน่ารู้... เขาซื้อทองคำ ขายทองคำ กันอย่างไร?????
@ เฮ้อ!! ณ นาทีนี้..บอกได้คำเดียว เสียดาย..เสียดายครับ...นโยบายดีๆที่คน กทม. ไม่เอ๊า..ไม่เอา...

คลิกที่ภาพ...เพื่อดูขนาดที่ใหญ่ขึ้น @ New!! แจกปฏิทินนายกฯปู พ.ศ.2556 คลิกที่นี่...

คลิกที่ภาพ...เพื่อดูขนาดที่ใหญ่ขึ้น



ตรวจสอบโรงสีและโกดังข้าว 1,651 แห่ง
ทั่วประเทศ ดีเดย์ 27มิ.ย.56

By: VoiceTV

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประชุมร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์การเกษตร กระทรวงมหาดไทย และเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในโครงการรับจำนำข้าว กำหนดให้วันที่ 27 มิถุนายนนี้ ส่งชุดปฏิบัติการตรวจสอบตรวจสอบข้าวในโกดังและโรงสีข้าวพร้อมกัน 1,651 แห่งทั่วประเทศ เพื่อหาผู้กระทำการทุจริตโครงการรับจำนำข้าว

หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบโครงการรับจำนำข้าว เช่น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์การเกษตร, กระทรวงพาณิชย์, กระทรวงการคลัง, กระทรวงมหาดไทย และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค1-9 และ ศูนย์ปฏิบัติการจังหวัดชายแดนภาคใต้ และผู้บังคับการสถานีตำรวจภูธร 46 จังหวัด ประชุมเตรียมความพร้อมและชี้แจงขั้นตอนการตรวจสอบการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว เพื่อให้ได้แนวทางการทำงาน ในทิศทางเดียวกัน

โดยกำหนดวันส่งชุดปฏิบัติการเข้าตรวจสอบโรงสี, จุดรับจำนำ, โกดัง และคลังกลางพร้อมกันทั้ง 1,651 แห่งทั่วประเทศ ในวันที่ 27 มิถุนายนนี้ และมี 3 ภารกิจหลัก คือ

- ตรวจสอบจำนวนและปริมาณข้าวเปลือกและข้าวสารในจุดรับจำนำ โรงสีและโกดังทุกแห่งในพื้นที่รับผิดชอบ

- ป้องกันและปราบปรามการลักลอบนำเข้าข้าวจากต่างประเทศโดยผิดกฎหมาย

- ป้องกันปราบปรามการลักลอบขนย้ายข้าวข้ามเขต ที่จะก่อให้เกิดการสวมสิทธิ์ของแต่ละพื้นที่

โดยกำชับให้เข้มงวดกับพื้นที่เป้าหมายในจุดรับจำนำข้าว, โกดัง, โรงสี และคลังกลาง, พื้นที่แนวชายแดน โดยเฉพาะจังหวัดสระแก้ว จันทบุรี และตาก รวมทั้งเส้นทางคมนาคมสายหลักและสายรอง

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การตรวจสอบในครั้งนี้ เป็นการปูพรมตรวจสอบ และจะรายงานผลแบบเรียลไทม์ มายังศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หากพบความผิดปกติ จะแจ้งความดำเนินคดีทันที และจะให้กรมสรรพากร ตรวจสอบประวัติการเสียภาษีของบริษัทหรือโรงสี ที่มีการทุจริตด้วย


ด้าน พลตำรวจเอกอดุลย์ แสงสิงห์แก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า พร้อมสนับสนุน เรื่องกำลังตำรวจ ชุดละ 10 นาย ทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่กระทรวงที่เกี่ยวข้อง หากพบพิรุธ เช่น จำนวนข้าวไม่ตรงกับตัวเลขในบัญชี แบบโรงสีที่จังหวัดพิจิตร ก็จะดำเนินคดีในข้อหายักยอกและฉ้อโกง โดยจะพิจารณาเป็นกรณีไป

การตรวจสอบโรงสีและโกดังพร้อมกันทั่วประเทศนี้ เปลี่ยนจากกำหนดการเดิมในวันที่ 29 มิถุนายน และเป็นผลจากการประชุมของคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อมูลข้าวคงเหลือ ขององค์การคลังสินค้าและ องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร โดยรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ยืนยันว่าในปี 2556 พบการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าวลดลง จากปี 2555 ที่มีการดำเนินคดีกว่า 115 คดี

@ โหลดที่นี่... คู่มือตรวจสอบข้าว โครงการรับจำนำ

@ โหลดที่นี่... ขั้นตอน/แบบฟอร์ม การตรวจจุดรับจำนำ/โกดังกลาง


ชาวนาจ่ายภาษีเลี้ยงพวกองค์กรอิสระ แต่ถูกยับยั้งโครงการน้ำเพื่อประเทศไทย

By: pamanpaman : ต้องยอมรับว่าไม่มีใครเถียงที่ชาวนาได้รับเงินจากการจำนำข้าวเปลือก 2 ปี เป็นเงิน 628,000 ล้านบาท แล้วชาวนานำเงินเหล่านั้นไปใช้จ่าย

แล้วสามารถทำภาษีให้กับประเทศมากกว่า 200,000 ล้านบาท ซึ่งเงินภาษีเหล่านี้ถูกใช้จ่ายเป็นเงินเดือนของข้าราชการ รวมทั้งพวกองค์กรอิสระที่พวกปล้นประชาธิปไตยแต่งตั้งขึ้น เจตนาก็ชัดเจนว่าเป็นปฏิปักษ์กับรัฐบาลที่ประชาชนเลือกมา

โครงการบริหารจัดการน้ำเป็นโครงการที่จะช่วยให้ระบบดูแลน้ำไม่ให้ท่วม ไม่ให้แล้งแบบยั่งยืน ถูกบุคคล 45 คนยื่นศาลปกครองให้ระงับ แม้ศาลปกครองไม่ได้สั่งให้ระงับ แต่ก็

มีคำสั่งให้ทำประชาพิจารณ์เสียก่อน ซึ่งก็ถือว่าชะลอการทำงานของรัฐบาล การสั่งชะลอทำให้ประเทศและประชาชนเสียโอกาสอย่างน้อย 6 เดือนถึงหนึ่งปีครึ่ง

ปชป. อาจพอใจ แต่ประเทศเสียหายเท่าใดก็ไม่สนใจ นั่นแปลว่าศาลปกครองไม่ได้เห็นความสำคัญในความต้องการของประชาชน.. สงสารประเทศไทย.. สงสารชาวนาไทยที่จ่ายภาษี...

ดังนั้น งบประมาณสำหรับใช้เป็นเงินเดือนองค์กรอิสระทั้งหลาย ควรจะมีการทำประชาพิจารณ์ก่อนด้วยเช่นกัน

By: คนไทยใจกว้าง : การตรวจสอบการทำงานของ เพื่อไทย กับ ประชาธิปัตย์ แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

เพื่อไทย.. มี ประชากรสลิ่ม สื่อเลือกข้าง นายทุนปรปักษ์กับรัฐบาล รวมหัวกับบรรดา องค์กรอิสระอย่าง กกต., ศาล รธน., ปปช. และ สว. สรรหา จ้องตาเป็นมัน ... ความผิดยังไม่เกิด ความเสียหายยังไม่ชัดเจน โกงไม่โกงก็ยังพิสูจน์ไม่ได้ แต่บรรดาเบี้ยทั้งหลายก็ดาหน้าออกมาป่าวประกาศปานว่า ชาติจะล่มจมกันแล้ว ร้องให้รัฐบาลรับผิดชอบอย่างไม่ฟังเหตุผลใดๆ ... ทั้งหาเรื่อง ทั้งถ่วง ทั้งขวาง อย่างนี้ ประเทศชาติจะเดินหน้าไปได้อย่างไร???

ประชาธิปัตย์.. มีแค่ พรรคเพื่อไทย และประชาชนทั่วไป (ส่วนใหญ่เป็นพวกเสื้อแดง) ที่คอยตรวจสอบ คอยท้วงติง ซึ่งต่างก็ไม่มีอำนาจอะไรในการยับยั้ง หรือให้คุณให้โทษอีกฝ่ายอยู่แล้ว ได้แต่เพียงออกมาประท้วงเพื่อแสดงออกถึงความไม่ชอบมาพากล ผลงานการโกงชาติที่มีหลักฐานโทนโท่ แต่องค์กรอิสระต่างๆ ก็เงียบเป็นเป่าครก คดีที่เห็นๆว่ามีมูลความผิดก็ยื้อปล่อยให้หมดอายุความ ... ช่างแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว ระหว่าง คนมีเส้น กับ ไม่มีเส้น

เฮ้อ!!..

25... "โอ๊ค"ระบุ อดีต..เพลี้ยกระโดดหอยเชอรี่เป็นศัตรูของชาวนา!! ปัจจุบัน..จะต้องเพิ่ม ปชป.เข้าไปเป็นศัตรูด้วยหรือเปล่า??

@ ภาพหนึ่งภาพ แทนคำพูดล้านคำ..
@ เพิ่งเคยเห็นนายกฯคนแรกนี่แหละ ที่สนับสนุนให้เด็กเก่งคณิตศาสตร์
@ แด่..มนุษย์เงินเดือน "อันความรู้ รู้กระจ่างแต่อย่างเดียว แต่ให้เชี่ยวชาญเถิดจะเกิดผล"
@ สิ่งที่ควรรู้ ก่อนเรียน Master of Business Administration (MBA)
@ ฮู้ยยยย...สติแตกกันไปหมดแย้วทั้งคนเล่นและกองเชียร์แนวร่วม
@ ความเป็นมาของ คดีสะเทือนโลก "ที่ดินรัชดา" ที่ทุกๆคนควรรู้!!!
@ ผมไม่ได้แหล!!! แต่เรื่องดีๆอย่างนี้..clickดูเองเหอะ
@ สาระน่ารู้... เขาซื้อทองคำ ขายทองคำ กันอย่างไร?????
@ เฮ้อ!! ณ นาทีนี้..บอกได้คำเดียว เสียดาย..เสียดายครับ...นโยบายดีๆที่คน กทม. ไม่เอ๊า..ไม่เอา...

คลิกที่ภาพ...เพื่อดูขนาดที่ใหญ่ขึ้น @ New!! แจกปฏิทินนายกฯปู พ.ศ.2556 คลิกที่นี่...

คลิกที่ภาพ...เพื่อดูขนาดที่ใหญ่ขึ้น


"โอ๊ค"ระบุ อดีต..เพลี้ยกระโดดหอยเชอรี่เป็นศัตรูของชาวนา!! ปัจจุบัน..จะต้องเพิ่ม ปชป.เข้าไปเป็นศัตรูด้วยหรือเปล่า??
By: พานทองแท้ ชินวัตร

เดิมศัตรูของชาวนาที่สำคัญๆมีเพียง เพลี้ยกระโดด และหอยเชอรี่ ที่คอยมากัดกินต้นข้าว ทำให้ผลผลิตของชาวนาลดลง ปัจจุบันผมไม่ทราบว่าจะต้องเพิ่ม "พรรคประชาธิปัตย์" เข้าไปเป็นศัตรูตัวสำคัญ ที่ทำให้รายได้ของชาวนาลดลง ด้วยหรือเปล่า??

หลายเดือนที่ผ่านมา "พรรคประชาธิปัตย์" ตะบี้ตะบันค้าน โครงการรับจำนำข้าว ว่าขาดทุนหลายแสนล้านบาท เดินสายพูดซ้ำๆแบบนี้ ทุกที่ทุกจังหวัด หาเสียงเลือกตั้งซ่อมเขตดอนเมือง ก็ยังคงวนเวียนพูดแต่เรื่องนี้ ทุกเมื่อเชื่อวัน

ประชาชนทั่วไป ไม่ทราบข้อเท็จจริง ไม่ทราบว่าที่โจมตีว่ารัฐบาล"ขาดทุน"นั้น ที่แท้จริงเป็นเรื่องของการใช้งบประมาณ เพื่อช่วยเหลือชาวนาที่ขายข้าวไม่มีกำไร พอฟังเรื่องโกหก ใส่สีตีไข่บ่อยๆเข้า ก็ชักจะเริ่มเชื่อว่ารัฐบาลบริหารผิดพลาด เริ่มเกิดกระแสว่ารัฐบาลไม่มีวินัยการเงินการคลัง ในขณะที่รัฐบาลเองก็มัวแต่ไปเถียงกับเขาว่า ขาดทุนไม่กี่หมื่นล้านเอง ไม่ถึง 2 แสน 6 หมื่นล้านเสียหน่อย จนลืมชี้แจงกับพี่น้องประชาชนไปว่า "ไม่ใช่รัฐบาลขาดทุน แต่เป็นเงินช่วยเหลือชาวนา ช่วยเหลือมาก ชาวนาก็ได้มาก ช่วยเหลือน้อย ชาวนาก็ได้น้อย"

รัฐบาลต้องชี้แจงประชาชนทั่วไปให้เข้าใจ แล้วก็ต้องชี้แจงชาวนาให้เข้าใจด้วยครับ เราทำนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อชาวนา ควรอธิบายไปเลยให้ชัดเจนครับว่า ถ้าฝ่ายค้านไม่ออกมาตีรัฐบาลอย่างโง้นอย่างงี้ ป่านนี้รัฐบาลก็ยังคงรับจำนำที่15,000 บาทอยู่ครับ ไม่เห็นมีปัญหาอะไร แต่พอมาโจมตีกันจนรัฐบาลด่างพร้อยแบบนี้ ก็จำเป็นต้องปรับลดราคาลงมากันบ้าง

การช่วยเหลือชาวนานั้น "คนไทยทั้งประเทศเห็นด้วย" ครับ มีเพียง 2 จุดเท่านั้นที่ทุกคนเป็นห่วงก็คือ

1. จุดสำคัญของเรื่องการจำนำข้าวนั้น อยู่ที่ว่า "จำนวนเงินเท่าไหร่ ที่ประชาชนส่วนใหญ่เห็นว่าเหมาะสม ที่รัฐควรจะจ่ายเพื่อช่วยเหลือชาวนา" ถ้ายอดเงินรวมสูงเกินไปจำเป็นต้องปรับลด ก็ต้องอธิบายให้ชาวนาและพี่น้องประชาชนเข้าใจ ถ้าน้อยเกินไปไม่พอเยียวยาให้กับพี่น้องชาวนา ก็ต้องเพิ่มงบประมาณ

2. จุดที่รัฐบาลต้องระวัง โดยเฉพาะ "อาปู" ต้องแสดงภาวะผู้นำที่เด็ดขาดก็คือ อย่าปล่อยให้ คนจำพวก เพลี้ยกระโดด, หอยเชอรี่ มากัดกินงบประมาณที่รัฐจัดสรรมาเพื่อช่วยเหลือชาวนาเป็นอันขาด จัดตั้งทีมตรวจสอบเอาแบบรัดกุมเลยครับ การหาผลประโยชน์จากคนยากคนจน เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ โครงการใหญ่ใช้งบประมาณมากขนาดนี้ หากมีการรั่วไหลต้องจับให้ได้ และต้องจัดการลงโทษขั้นเด็ดขาดเลยครับ

ถ้ารัฐบาลทำใน 2 ข้อนี้ได้ รับรองผ่านฉลุยครับ เรื่องจำนำข้าวประเด็นหลักๆ ก็มีเพียงเท่านี้ ควรอธิบายกันให้ชัดเจน เสร็จแล้วจะได้เอาเวลาไปทำอย่างอื่น นโยบายรัฐบาลนี้ดีอยู่แล้ว อย่าปล่อยให้ฝ่ายค้านมาตีกินฟรีๆ เสียคะแนนนิยมไปเปล่าๆแบบนี้

พี่ๆชาวนาน่าจะเห็นใจ และอยู่ฝั่งเดียวกันกับรัฐบาลครับ ไม่เคยมีรัฐบาลไหนที่มีนโยบายดีๆ ให้กับพี่น้องชาวนามากขนาดนี้ พรรคฯไหนที่ทำประโยชน์ให้ พี่น้องชาวนาก็ควรสนับสนุน ส่วนใครที่ขัดขวางนโยบายที่เป็นประโยชน์ ก็ควรถูกชาวนาด่า จะได้เลิกตีกิน เลิกพูดเอาดีใส่ตัว เอาชั่วใส่คนอื่นเสียที ถ้าผมเป็นชาวนาผมจะไปประท้วงที่พรรคประชาธิปัตย์นู่นเลยครับ มีอย่างที่ไหนปลูกข้าวให้กินมาทั้งชีวิต พอจะลืมตาอ้าปากได้ กลับมาค้านกันแบบนี้ ไม่เห็นใจกันเล้ยย...ปั๊ดโธ่!!

รบกับเพลี้ยกระโดด หอยเชอรี่ ผลผลิตลดลง ชาวนาก็เหนื่อยมากพอแล้วครับ มาเจอขบวนการ สกัดรายได้ชาวนา กันแบบนี้เข้าไปอีก ชาวนาไทยเราคงต้องลำบากกันไปอีกนาน

โจมตีรัฐบาลเพื่อหาคะแนนทางการเมือง แบบที่ชาวไร่ชาวนาไม่ต้องเดือดร้อนไปด้วย ทำเป็นป่ะครับ "พรรคประชาธิปัตย์"

?????

By: monkey_D : วัตถุประสงค์ไม่ได้ต้องการขายข้าวให้ได้กำไรมากที่สุดในโลกนะฮะ

ต้องรู้ก่อนว่า..วัตถุประสงค์ โครงการรับจำนำข้าว เขาต้องการอะไร???

1. เพื่อเพิ่มทางเลือกให้เกษตรกรได้มีช่องทางการตลาดเพิ่มขึ้น สร้างอำนาจต่อรองในการขายข้าวเปลือก

2. เพื่อยกระดับรายได้และลดช่องว่างรายได้ รวมทั้งเพิ่มการใช้จ่ายของเกษตรกร

3. เพื่อสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศด้วยการขยายตัวของการบริโภคภายใน รวมทั้งสร้างความแข็งแกร่งและความมีเสถียรภาพของเศรษฐกิจจากการบริโภคภายในประเทศและการพึ่งพาตนเอง


พี่น้องชาวนาเอ๋ย..ออกมากันได้แล้ว...
อย่าให้ ปชป.เอาพวกคุณมาเล่นเกมการเมือง



เอาเรื่องปากท้องของชาวนามาเล่นการเมืองเพียงแค่หวังล้มรัฐบาล

เล่นกันแบบหน้ามืดตามัว ไม่มีมารยาท ไม่รู้ผิดรู้ถูก จิตใจโหดร้าย เอาความทุกข์ร้อนของชาวนา มาเป็นเหยื่อสนองตัณหาของตัวเองและพวกพ้อง

ชาวนารู้อยู่แล้วว่า นายทุนใหญ่การเมือง คือผู้บงการให้การเมืองล้มการรับจำนำข้าว ให้กลับไปใช้การประกันราคาข้าวเหมือนเดิม เพราะนายทุนกลุ่มนี้ได้ประโยชน์สูงสุดมาแล้ว

ยังไงๆ พี่น้องชาวนา เขาไม่โกรธรัฐบาล เขารู้ว่ารัฐบาลถูกกดดัน ต้องสนองตัณหาพวกเศษนรก...

By: ดร.ดำเนิน ยาท้วม

ธปท.รับงานมายืนบาทแข็ง ไม่ลดดอกเบี้ย ข้าวขายไม่ได้ เงินอุดหนุนจึงใกล้เพดานวินัยการเงินการคลัง กขช.ก็คนของอำมาตย์ออกมติมาบีบ จึงต้องลดแรงเสียดทานอย่างที่เห็น กองเชียร์ฝ่ายเราอาจโกรธบ้างก็ต้องยอมกลืนเลือด ดีกว่าให้รัฐบาลล้ม โครงการรับจำนำข้าวจะล้มหมดเลย เขายังมีองค์อิสระ ที่หาเรื่องตีความแบบน้ำขุ่นๆ ล้มรัฐบาลได้ทุกเวลาที่เขาต้องการ อันนี้รัฐบาลพูดไม่ออก ได้แต่ทนกลืนเลือดครับ


วันเสาร์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2556

24... คุณหญิงหน่อยโอดเจ็บปวด ยกเลิกซื้อคอมฯ900ล้าน สื่อฯเสนอข่าวไม่ตรงกับข้อเท็จจริง

@ ภาพหนึ่งภาพ แทนคำพูดล้านคำ..
@ เพิ่งเคยเห็นนายกฯคนแรกนี่แหละ ที่สนับสนุนให้เด็กเก่งคณิตศาสตร์
@ แด่..มนุษย์เงินเดือน "อันความรู้ รู้กระจ่างแต่อย่างเดียว แต่ให้เชี่ยวชาญเถิดจะเกิดผล"
@ สิ่งที่ควรรู้ ก่อนเรียน Master of Business Administration (MBA)
@ ฮู้ยยยย...สติแตกกันไปหมดแย้วทั้งคนเล่นและกองเชียร์แนวร่วม
@ ความเป็นมาของ คดีสะเทือนโลก "ที่ดินรัชดา" ที่ทุกๆคนควรรู้!!!
@ ผมไม่ได้แหล!!! แต่เรื่องดีๆอย่างนี้..clickดูเองเหอะ
@ สาระน่ารู้... เขาซื้อทองคำ ขายทองคำ กันอย่างไร?????
@ เฮ้อ!! ณ นาทีนี้..บอกได้คำเดียว เสียดาย..เสียดายครับ...นโยบายดีๆที่คน กทม. ไม่เอ๊า..ไม่เอา...

คลิกที่ภาพ...เพื่อดูขนาดที่ใหญ่ขึ้น @ New!! แจกปฏิทินนายกฯปู พ.ศ.2556 คลิกที่นี่...

คลิกที่ภาพ...เพื่อดูขนาดที่ใหญ่ขึ้น


...จากกรณี "คอมพ์ฉาว" หรือคดีการยกเลิกประมูลเช่าคอมพิวเตอร์ ของกระทรวงสาธารณสุข มูลค่า 900 ล้านบาท เมื่อปี 2547 ซึ่ง ปปช. อยู่ระหว่างการวินิจฉัยพยานหลักฐานของแต่ละฝ่ายเพื่อชี้มูลความผิด และล่าสุดได้เลื่อนการพิจารณาออกไปเป็นวันที่ 25 มิ.ย.นี้ ส่วนจะเป็นอย่างไรก็ต้องติดตาม

แต่ด้วยข้อมูลในการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชนระบุ เป็น "คดีจัดซื้อคอมพ์ฯฉาว" แทนที่จะใช้คำว่า "คดียกเลิกจัดซื้อคอมพ์ฯฉาว" ได้ทำให้ "คุณหญิงหน่อย" รู้สึกเจ็บปวด ต้องร่อนจดหมาย เรียกร้องความเป็นธรรม เพราะได้ก่อความเสียหายจากความเข้าใจผิดของสาธารณชน

เป็นสิ่งที่ "คุณหญิงหน่อย" นานๆจะออกตัวสักครั้ง หลังทุ่มเทให้กับพระพุทธศาสนา ในโครงการบูรณปฏิสังขรณ์สถานที่ประสูติของพระพุทธเจ้า ณ ลุมพินีสถานประเทศเนปาล...



คุณหญิงหน่อยโอดเจ็บปวด ยกเลิกซื้อคอมฯ900ล้าน สื่อฯเสนอข่าวไม่ตรงกับข้อเท็จจริง
Credit: นสพ.ไทยรัฐ

"สุดารัตน์" ร่อนจดหมาย ขอความเป็นธรรม สื่อมวลชน แจง รู้สึกเจ็บปวด กรณีสื่อฯเสนอข่าวว่า ถูกฟ้องคดี จัดซื้อคอมฯ ฉาว 900 ล้าน แทนจะใช้ว่า "ยกเลิก" วอน เห็นใจ ยัน ทำการเมืองมา 20 ปี ไม่เคยทุจริต

วันที่ 21 มิ.ย.2556 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย ได้ส่งจดหมาย ร้องขอความเป็นธรรมต่อกรณี ที่สื่อมวลชนได้เสนอข่าว ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง ถึงเรื่อง การยกเลิกการจัดซื้อคอมพิวเตอร์ 900 ล้านบาทของกระทรวงสาธารณสุข

โดยมีข้อความว่า...

"ดิฉันต้องขอความกรุณา ช่วยแก้ไขข่าว ที่กำลังนำเสนอในขณะนี้ ที่ผิดจากข้อเท็จจริง อันนำมาซึ่งความเข้าใจผิด ในสาระสำคัญของสาธารณชน และได้ทำให้เกิดความเสียหาย แก่ตนเองเป็นอย่างยิ่ง เรื่องที่ดิฉันถูก ปปช. กล่าวหาอยู่ในขณะนี้ เป็นเรื่อง "การยกเลิกการจัดซื้อคอมพิวเตอร์ 900 ล้านบาท ของกระทรวงสาธารณสุข" มิใช่ "การจัดซื้อคอมพิวเตอร์ 900 ล้านของกระทรวงสาธารณสุข" ตามที่กำลังเสนอข่าวกันอยู่ แต่เป็นการยกเลิก

ดังนั้น ขอความกรุณาสื่อฯ ช่วยกรุณานำเสนอข้อกล่าวหาของ ปปช. ต่อดิฉันให้ถูกต้องว่า เป็น "การยกเลิกการจัดซื้อคอมพิวเตอร์ 900 ล้าน ของกระทรวงสาธารณสุข" โดยมีข้อเท็จจริงดังนี้ คือ

1. โครงการที่ดิฉันถูกกล่าวหานี้ เริ่มประกวดราคาในปี 2547 ต่อมา สธ.ได้ยกเลิกการจัดซื้อ คอมพิวเตอร์ ในโครงการนี้ เนื่องจากกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ได้มีหนังสือแจ้งมายัง สธ. ว่า บริษัทที่เข้าประมูลเสนอสินค้าที่มีคุณสมบัติต่ำกว่าเกณฑ์คุณสมบัติที่กำหนดไว้ ในเอกสารประกวดราคา (TOR)

2. สธ.ได้ยกเลิกการประกวด และยกเลิกโครงการ โดยไม่มีการจัดซื้อคอมพิวเตอร์สักเครื่องเดียว และ คืนเงินงบประมาณทั้งหมด ให้กับกระทรวงการคลัง ในเดือนมกราคม พ.ศ.2549

3. หลังการปฏิวัติ 19ก.ย.49 ดิฉันก็ถูก ปปช. แจ้งข้อกล่าวหา ในกรณีนี้ว่า "ดำเนินการยกเลิกการประกวดราคามิชอบ" และบริษัทที่เข้าร่วมประมูลได้ฟ้องกระทรวงสาธารณสุข ต่อศาลปกครอง ในกรณีเดียวกัน

4. เมื่อวันที่ 30มิ.ย.53 ศาลปกครองได้พิพากษาชี้ขาดว่า การยกเลิกการประกวดราคาโครงการนี้ ชอบด้วยกฎหมาย เพื่อรักษาประโยชน์ของทางราชการ

และ 5. แต่ทาง ปปช. ยังไม่ยอมยุติเรื่อง จนถึงปัจจุบัน

คุณหญิงสุดารัตน์ ยังกล่าวด้วย ตลอดระยะเวลา 7 ปี ที่ถูกกล่าวหาจาก ปปช. ดิฉันได้พยายามต่อสู้ด้วยข้อเท็จจริง และข้อกฎหมายอย่างไม่ย่อท้อ โดยที่ดิฉันรู้สึกเจ็บปวดอย่างยิ่งทุกครั้ง ที่สื่อลงข่าวว่า "คดีจัดซื้อคอมฯ ฉาว ของ สธ." เพราะตลอดชีวิตการทำงานการเมืองมากว่า 20 ปี ดิฉันไม่เคยทุจริต คดีโกงประชาชน ไม่เคยถูกร้องเรียน ไม่เคยถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ

แต่ หลังจากปฏิวัติฯ ดิฉัน ต้องถูกกล่าวหาในเรื่องนี้ และเป็นเรื่องเดียวในชีวิต ทั้งๆที่การที่ สธ. ยกเลิกโครงการนี้เป็นการทำเพื่อปกป้องผลประโยชน์ ของทางราชการ ยกเลิกโครงการ โดยไม่ได้มีการจัดซื้อแม้แต่เครื่องเดียว งบประมาณทั้งหมดส่งคืนคลัง และศาลปกครอง ก็พิพากษาแล้วว่า การยกเลิกชอบด้วยกฎหมาย เพื่อรักษาผลประโยชน์ราชการ จึงกราบขอความกรุณาได้โปรดช่วยนำเสนอข้อกล่าวหา ของ ปปช. ต่อดิฉันให้ถูกต้อง มิใช่ "จัดซื้อคอมฯ ฉาว" แต่เป็นการ "ยกเลิกการจัดซื้อคอมฯ ฉาว"

และได้โปรดนำเสนอข้อเท็จจริง กรณีที่ศาลปกครอง ได้พิพากษาว่า การยกเลิกโครงการนี้ชอบด้วยกฎหมาย เพื่อรักษาผลประโยชน์ของราชการ หากถ้าซื้อก็ฉาวแน่ๆ เพราจะเป็นการซื้อคอมฯที่มีคุณสมบัติ ต่ำกว่า TOR กำหนดราชการต้องเสียประโยชน์

การเมืองจะสงบ...ไม่ซับซ้อนอะไรเลย...
ถ้าทุกคนรักชาติบ้านเมืองเหมือนที่แหกปาก...


By: saibua *ปัญหา* ที่บ้านเมืองมันวุ่นวายอยู่ทุกวันนี้เพราะนักการเมืองไม่เคารพกติกา...องค์กรอิสระทำตัวเป็นกระบือให้จูงจมูก

ตุลาการทำตัวเป็นขี้ข้าแลกเศษเงิน หมดความสง่างามและศักดิ์สิทธิ์...

*วิธีแก้* เพียงแต่ทุกฝ่ายยอมรับผลการเลือกตั้ง...แพ้ก็รออีกสี่ปี...พยายามทำดีให้ชนะในคราวหน้า...

องค์กรอิสระทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา...ตุลาการอำนวยความยุติธรรมอย่างซื่อสัตย์สุจริต...

ดูเหมือนง่าย...แต่ไม่ทราบว่าจะทำง่ายหรือเปล่า?...แต่ถ้าทุกคนรักชาติบ้านเมืองเหมือนที่แหกปาก...คงไม่ยากค่ะ.....

By: อินทรีย์ *ปัญหา*คือ ประชาชนเลือกข้างกันเรียบร้อยแล้ว

คนส่วนน้อยที่นิยมเผด็จการ ไม่ยอมรับรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย

ทั้งที่คนส่วนน้อยเป็นผู้ร่างรัฐธรรมนูญและกำหนดกติกาไว้เองหมด

*ปัญหาที่หนักกว่านั้น*คือ คนส่วนน้อยที่ร่างรัฐธรรมนูญ ได้วางองค์กรต่างๆไว้คอยถ่วงการทำงานของรัฐบาลไม่ให้ทำงานได้สะดวก

หากมีจังหวะดีๆ ก็หาช่องทางล้มรัฐบาลด้วยวิธีการต่างๆ สุดแต่จะคิด.....

วันศุกร์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2556

23... นายกฯปู ชี้แจงนโยบายจำนำข้าวกับผู้ว่าฯทั่วประเทศ ย้ำไม่ได้คิดถึงกำไรหรือขาดทุน จุดประสงค์ต้องการยกระดับคุณภาพชีวิตชาวนา

@ ภาพหนึ่งภาพ แทนคำพูดล้านคำ..
@ เพิ่งเคยเห็นนายกฯคนแรกนี่แหละ ที่สนับสนุนให้เด็กเก่งคณิตศาสตร์
@ แด่..มนุษย์เงินเดือน "อันความรู้ รู้กระจ่างแต่อย่างเดียว แต่ให้เชี่ยวชาญเถิดจะเกิดผล"
@ สิ่งที่ควรรู้ ก่อนเรียน Master of Business Administration (MBA)
@ ฮู้ยยยย...สติแตกกันไปหมดแย้วทั้งคนเล่นและกองเชียร์แนวร่วม
@ ความเป็นมาของ คดีสะเทือนโลก "ที่ดินรัชดา" ที่ทุกๆคนควรรู้!!!
@ ผมไม่ได้แหล!!! แต่เรื่องดีๆอย่างนี้..clickดูเองเหอะ
@ สาระน่ารู้... เขาซื้อทองคำ ขายทองคำ กันอย่างไร?????
@ เฮ้อ!! ณ นาทีนี้..บอกได้คำเดียว เสียดาย..เสียดายครับ...นโยบายดีๆที่คน กทม. ไม่เอ๊า..ไม่เอา...

คลิกที่ภาพ...เพื่อดูขนาดที่ใหญ่ขึ้น @ New!! แจกปฏิทินนายกฯปู พ.ศ.2556 คลิกที่นี่...

คลิกที่ภาพ...เพื่อดูขนาดที่ใหญ่ขึ้น


นายกฯปู ชี้แจงนโยบายจำนำข้าวกับผู้ว่าฯ
ทั่วประเทศ ย้ำไม่ได้คิดถึงกำไรหรือขาดทุน
จุดประสงค์ต้องการยกระดับคุณภาพชีวิตชาวนา

Credit: นสพ.dailynews

ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 19 มิ.ย.2556 น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวมอบนโยบายให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ ในระหว่างการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อทบทวนและจัดทำแผนพัฒนาจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ

นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวมอบนโยบายในตอนหนึ่งว่า

ขณะนี้ผู้ว่าฯคงจะได้ยินข่าวลือ ทั้งที่ถูกต้อง และไม่ถูกบ้าง เป็นจำนวนมาก และได้ยินการวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องต่างๆ จึงอยากถือโอกาสนี้สื่อสารข้อมูลให้ชัดเจนให้กับผู้ว่าฯ เพื่อให้นำไปชี้แจงในพื้นที่ได้อย่างถูกต้อง โดยเฉพาะโครงการรับจำนำข้าว ที่คงจะได้ยินข่าวมาเยอะ และอาจมีความกังวลใจ เพราะหลายคนอาจจะเป็นห่วงว่าโครงการนี้ใช้งบประมาณสูงเกินไปหรือไม่ ขาดทุนมากแค่ไหน หรือมีปัญหาเรื่องของทุจริตคอร์รัปชั่น

ทั้งนี้คงต้องขอชี้แจงว่าโครงการนี้มาจากนโยบายของรัฐบาล ที่ได้ศึกษามาแล้วว่าชาวนาซึ่งเป็นกระดูกสันหลังของชาติ ที่มีหน้าที่ปลูกข้าวให้คนทั้งประเทศ เป็นผู้ที่คอยทำนาให้อาหารกับเรา และทำรายได้หลักให้กับประเทศ แต่คุณภาพชีวิตของชาวนายังมีปัญหา ขายข้าวไม่ได้ราคาดีเท่าที่ควร บางครั้งถูกกดราคาต่ำกว่าต้นทุนจริง ชาวนายังคงมีรายได้น้อยอยู่ รัฐบาลจึงต้องการยกระดับคุณภาพชีวิตของชาวนาหรือเกษตรกรให้มีรายได้ดีขึ้น ที่สำคัญต้องคุ้มทุนกับค่าใช้จ่าย และให้ความเป็นธรรมกับต้นทุน รัฐบาลจึงได้เสนอนโยบายรับจำนำข้าวเป็นนโยบายเร่งด่วน ซึ่งปีแรกได้ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว และเห็นว่าเป็นโครงการที่มีประโยชน์ ประชาชนยังต้องการอยู่ จึงได้ดำเนินการต่อในปีที่สอง


น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ทั้งนี้จะเห็นได้ว่าหลังจากมีโครงการรับจำนำข้าวก็ทำให้ปริมาณการปลูกข้าวสูงขึ้นมากเมื่อเทียบกับ 2 ปีก่อนที่จะเริ่มโครงการ โดยราคารับจำนำในเบื้องต้น เป็นการเสนอราคาที่อิงกับราคาตลาดโลก แต่ต่อมาอาจจะมีปัญหาเรื่องค่าเงินบาท ทำให้ส่งผลกระทบบ้าง ขณะเดียวกันราคาตลาดโลกก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งรัฐบาลจำเป็นต้องรักษาวินัยทางการเงินการคลังให้เกิดความสมดุล รวมทั้งต้องคิดก่อนว่างบประมาณที่เราใช้แต่ละปีนั้น จะนำไปดูแลประชาชนแต่ละกลุ่มอย่างไร ซึ่งโครงการรับจำนำข้าวก็เป็นส่วนหนึ่งที่รัฐบาลต้องการช่วยเหลือชาวนา ดังนั้นเราถึงไม่ได้บอกว่าขาดทุนหรือกำไร เพราะโครงการนี้ต้องการยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับชาวนา

"โครงการนี้มีโจทย์ที่เรื่องของการช่วยเหลือประชาชนเป็นหลัก ว่าจะทำอย่างไรให้ราคาเป็นธรรมกับชาวนา แต่การรักษาวินัยการเงินการคลังก็เป็นโจทย์ที่รัฐบาลต้องทำเพื่อรักษาสมดุล ดังนั้นวันนี้ ครม.จึงเห็นชอบกับมติของ กขช.ให้ปรับราคารับจำนำข้าวนาปรังในวันที่ 30 มิ.ย. ให้สอดคล้องกับกลไกตลาดบ้าง แต่ในอนาคตถ้าราคาตลาดโลกขึ้นก็ควรจะคืนให้กับชาวนาด้วย ไม่ใช่ว่าจะต้องลดลงเสมอไป ต้องดูตามสภาวะ แต่ที่สำคัญต้องเป็นธรรม และให้คุ้มกับเงินลงทุนที่ชาวนาได้ลงทุนไปในแต่ละรอบด้วย นี่คือหัวใจสำคัญ" นายกรัฐมนตรี กล่าว


"ส่วนขั้นตอนการทำงานอาจจะมีปัญหาในพื้นที่บ้างในเรื่องของทุจริตคอร์รัปชั่น ดังนั้นขอย้ำอีกครั้งว่าเราไม่ต้องการเห็นการทุจริตคอร์รัปชั่นเกิดขึ้นในขั้นตอนของการปฏิบัติงาน จึงขอฝากผู้ว่าฯทุกคนร่วมกันทำงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตรวจสอบขั้นตอนต่างๆให้เป็นไปอย่างโปร่งใส ไม่มีการทุจริตหรือการสวมสิทธิของข้าว ขออย่าได้พบว่าเจ้าหน้าที่ของเราเป็นใจเป็นหูเป็นตาทำให้เกิดช่องการทุจริตคอร์รัปชั่น จะต้องดำเนินการลงโทษทางวินัย และทางคดีด้วย รวมทั้งค่าปรับต่างๆ ซึ่งวันนี้ ครม.ได้เห็นชอบให้ตั้งบริษัทเซอเวเยอร์กลาง เพื่อไปทำงานร่วมกับตำรวจในการตรวจสอบให้ชัดเจน พร้อมกับการดำเนินคดีทั้งทางอาญาและคดีแพ่ง ซึ่งต้องขอความร่วมมือทางผู้ว่าฯด้วย"

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า นอกจากนี้สิ่งที่ต้องทำเพิ่มคือแผนระยะยาว โดยการทำให้เกษตรกรมีรายได้ ไม่ใช่เฉพาะเรื่องข้าวอย่างเดียว ครม.จึงมีมติให้นายกิตติรัตน์ไปดูเรื่องการส่งเสริมการปลูกพืชพลังงานประเภทอื่นด้วย และอยากเห็นการปรับปรุงข้าวให้มีคุณภาพสูง ได้ผลผลิตที่ดี โดยขอให้ปลูกข้าวเชื่อมกับพื้นที่เกษตรโซนนิ่งที่กระทรวงเกษตรได้ประกาศไว้ เพื่อให้ได้ผลผลิตที่ดี โดย ครม.มอบให้นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกฯ และ รมว.ต่างประเทศ ไปเอางานวิจัยเกี่ยวกับข้าวทั้งหมดออกมาดูว่าเราจะเพิ่มมูลค่าให้กับข้าวได้อย่างไร พร้อมทั้งให้กระทรวงอุตสาหกรรมไปดูเรื่องการส่งเสริมการแปรรูปและสร้างมูลค่าให้กับข้าวอย่างจริงจัง เพื่อให้เกษตรกรมีรายได้ที่ยั่งยืน คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น




นายกฯปูยืนยัน เดินหน้านโยบายจำนำข้าวต่อ
โยน กขช. พิจารณาข้อเสนอชาวนาให้ปรับราคา 13,500 บาทต่อตัน


วันที่ 20 มิ.ย.2556 ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ชาวนาเตรียมชุมนุมเรียกร้องหลังไม่พอใจที่รัฐบาลปรับลดราคารับจำนำข้าวเหลือตันละ 12,000 บาท ว่า ได้ให้ผู้ว่าราชการจังหวัด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ หรือ กขช. ลงพื้นที่ชี้แจงต่อประชาชน โดยรัฐบาลต้องสร้างความสมดุลราคาให้สอดคล้องกับตลาดโลก และ รักษาวินัยเงินการคลัง ซึ่งหากตลาดโลกดีขึ้นก็อาจจะมีการปรับเพิ่มราคาได้

ส่วนมาตรการในการช่วยเหลือนั้นจะแนะนำให้ปลูกพืชชนิดอื่นตามสภาพพื้นที่ อาทิ มันสำปะหลัง หรืออ้อย แทน โดยระยะยาวรัฐบาลตั้งใจพัฒนาการทำเกษตรให้เป็นระบบเกษตรโซนนิ่ง

ส่วนการที่ชาวนาต้องการให้ปรับราคารับจำนำข้าวอยู่ที่ 13,500 บาทต่อตัน ต้องให้ทาง กขช. พิจารณาดูตามความเหมาะสมและให้เกิดความเป็นธรรม



พี่น้องชาวนาเอ๋ย..ออกมากันได้แล้ว...
อย่าให้ ปชป.เอาพวกคุณมาเล่นเกมการเมือง



เอาเรื่องปากท้องของชาวนามาเล่นการเมืองเพียงแค่หวังล้มรัฐบาล

เล่นกันแบบหน้ามืดตามัว ไม่มีมารยาท ไม่รู้ผิดรู้ถูก จิตใจโหดร้าย เอาความทุกข์ร้อนของชาวนา มาเป็นเหยื่อสนองตัณหาของตัวเองและพวกพ้อง

ชาวนารู้อยู่แล้วว่า นายทุนใหญ่การเมือง คือผู้บงการให้การเมืองล้มการรับจำนำข้าว ให้กลับไปใช้การประกันราคาข้าวเหมือนเดิม เพราะนายทุนกลุ่มนี้ได้ประโยชน์สูงสุดมาแล้ว

ยังไงๆ พี่น้องชาวนา เขาไม่โกรธรัฐบาล เขารู้ว่ารัฐบาลถูกกดดัน ต้องสนองตัณหาพวกเศษนรก...

By: ดร.ดำเนิน ยาท้วม

ธปท.รับงานมายืนบาทแข็ง ไม่ลดดอกเบี้ย ข้าวขายไม่ได้ เงินอุดหนุนจึงใกล้เพดานวินัยการเงินการคลัง กขช.ก็คนของอำมาตย์ออกมติมาบีบ จึงต้องลดแรงเสียดทานอย่างที่เห็น กองเชียร์ฝ่ายเราอาจโกรธบ้างก็ต้องยอมกลืนเลือด ดีกว่าให้รัฐบาลล้ม โครงการรับจำนำข้าวจะล้มหมดเลย เขายังมีองค์อิสระ ที่หาเรื่องตีความแบบน้ำขุ่นๆ ล้มรัฐบาลได้ทุกเวลาที่เขาต้องการ อันนี้รัฐบาลพูดไม่ออก ได้แต่ทนกลืนเลือดครับ


วันพุธที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2556

22... โครงการรับจำนำข้าว ทำไมต้องโจมตีด้วยว่าขาดทุน ทำไปเพื่ออะไรหรือครับ

@ ภาพหนึ่งภาพ แทนคำพูดล้านคำ..
@ เพิ่งเคยเห็นนายกฯคนแรกนี่แหละ ที่สนับสนุนให้เด็กเก่งคณิตศาสตร์
@ แด่..มนุษย์เงินเดือน "อันความรู้ รู้กระจ่างแต่อย่างเดียว แต่ให้เชี่ยวชาญเถิดจะเกิดผล"
@ สิ่งที่ควรรู้ ก่อนเรียน Master of Business Administration (MBA)
@ ฮู้ยยยย...สติแตกกันไปหมดแย้วทั้งคนเล่นและกองเชียร์แนวร่วม
@ ความเป็นมาของ คดีสะเทือนโลก "ที่ดินรัชดา" ที่ทุกๆคนควรรู้!!!
@ ผมไม่ได้แหล!!! แต่เรื่องดีๆอย่างนี้..clickดูเองเหอะ
@ สาระน่ารู้... เขาซื้อทองคำ ขายทองคำ กันอย่างไร?????
@ เฮ้อ!! ณ นาทีนี้..บอกได้คำเดียว เสียดาย..เสียดายครับ...นโยบายดีๆที่คน กทม. ไม่เอ๊า..ไม่เอา...

คลิกที่ภาพ...เพื่อดูขนาดที่ใหญ่ขึ้น @ New!! แจกปฏิทินนายกฯปู พ.ศ.2556 คลิกที่นี่...

คลิกที่ภาพ...เพื่อดูขนาดที่ใหญ่ขึ้น


@ จริงรึ??? รัฐบาลปูขาดทุนจำนำข้าว 2.6 แสนล้าน

โครงการรับจำนำข้าว ทำไมต้องโจมตีด้วยว่าขาดทุน ทำไปเพื่ออะไรหรือครับ
By: เราหยุดมันไม่ได้หรอก http://pantip.com/topic/30623765

ผมได้ยินการเสนอข่าวทางทีวี และฝ่ายค้านทั้งในและนอกสภา ต่างออกมาโจมตีโครงการรับจำนำข้าวแบบชนิดสาวลึกถึงพื้นนรก ว่าโครงการดังกล่าวขาดทุนนับแสนล้านบาท

โครงการรับจำนำข้าว รัฐบาลคิดและทำโครงการขึ้นมาก็เพื่อ..

1. ให้ชาวนาขายข้าวมีราคาไม่ต้องโดนกดราคาจากโรงสี

2. เพื่อเป็นการช่วยเหลือชาวนา ให้มีรายได้มากขึ้น

3. เพื่อความเป็นอยู่ของชาวนาจะได้ดีขึ้น

4. เพื่อเป็นการกระตุ้นระบบเศรษฐกิจโดยภาพรวมของประเทศ

รัฐบาลใช้เงินงบประมาณจำนวนมาก เพื่อช่วยเหลือชาวนาให้ขายข้าวได้ราคา และชาวนาสามารถไถ่ถอนได้ถ้าที่อื่นให้ราคาสูงกว่าจำนำ รัฐบาลได้ข้าวเก็บไว้ในสต็อก ถ้ามีการบริหารจัดการที่ดี อาจขายข้าวได้ดีกว่าที่รับจำนำมาก็จะได้กำไร สามารถนำเงินที่ขายมาหมุนเวียนรับจำนำข้าวต่อไปได้อีกโดยไม่สูญเสียงบประมาณไปเปล่าๆเหมือนประกันราคาที่ไม่ได้ข้าวเก็บไว้ในสต็อกเลย

สรุป รัฐบาลปูได้ข้าว ชาวนาได้เงิน

เมื่อเปรียบเทียบกับโครงการอื่นๆ เช่น โครงการจ่ายเบี้ยยังชีพให้กับผู้สูงอายุ 60 ปีและคนพิการ คนละ 600 บาท/เดือน

และผู้สูงอายุ 70-80-90 ปี ได้เบี้ยยังชีพเพิ่มขึ้นเป็น 700-800-1,000 บาท/เดือนตามลำดับ

โครงการนี้รัฐบาลมีแต่เสียเงิน แต่ทำให้ผู้สูงอายุและคนพิการ มีรายได้พิเศษต่อเดือนเพิ่มขึ้น

รัฐบาลใช้เงินกับโครงการเบี้ยยังชีพนี้เดือนละเท่าไหร่ทั่วประเทศ แบบนี้รัฐบาลขาดทุนหรือไม่ครับ

หรือ รัฐบาลรณรงค์ป้องกันปัญหายาเสพติด ให้ทุกหน่วยงานจัดอบรมเยาวชนกลุ่มเสี่ยง รัฐบาลสนับสนุนเงินงบประมาณให้แต่ละอำเภอทำการจัดอบรมได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาล โครงการแบบนี้รัฐบาลใช้เงินไปเท่าไหร่ครับ รัฐบาลขาดทุนหรือไม่ครับ

ผมจึงอยากเรียนถาม นักวิชาเกิน ว่า ใช้คำว่า กำไร ขาดทุน กับการบริหารงานของรัฐบาลได้ด้วยหรือครับ

ถ้าใช้คำว่า กำไร ขาดทุน ผมว่ามันขาดทุนตั้งแต่ที่มีอาจารย์บางคนมากินเงินเดือนสูงๆ แล้วทำงานไม่คุ้มค่าแล้วล่ะครับ

หรือแม้แต่ฝ่ายค้านเอง มันขาดทุนตั้งแต่จ่ายเงินเดือนให้พวกคุณเป็นแสนแล้วละครับ

สรุป การบริหารงานของรัฐบาลตามโครงการ จะต้องไม่คำนึงถึงผลกำไรขาดทุน แต่จะต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชนที่ได้รับมากกว่า

By: นายขนมต้ม

เอาอย่างนี้.. เท่าที่ผมฟังๆมา เขาบอกว่า

1. เขา "เป็นห่วง" ว่า จะมีการทุจริต

2. เขาบอกว่า เขาเป็นผู้เสียภาษี ฉะนั้นเงินภาษีเขาจะต้องไม่ถูกนำไปใช้แบบนี้

ผมก็เลยนั่งคิดดู

1. ห่วงว่าทุจริต.. แล้ว ใครทุจริต ลูกน้องเจ๊แดง? เลขาฯ บุญทรง?

ผมเห็นแล้วว่าไปแจ้ง ปปช. แต่เท่าที่ดูมา หลายๆกรณี อย่างทุจริตคุรุภัณฑ์สมัยประชาธิปัตย์, หรือ อื่นๆ จนป่านนี้คดียังไม่คืบหน้าไปไหน

รักเกียรติ สุขธนะ รัฐมนตรีสาธารณสุขสมัยรัฐบาลชวน มีคนเดียวที่ถูกตัดสินว่าผิด วัฒนา อัศวเหม นี่ก็ถูกตัดสินว่าผิด รมต.สมัยรัฐบาลชวนทั้งนั้น

หรือกลัวกันว่า เงินจะไม่ถึงมือชาวนา

คุณรู้ได้ยังไงว่าไม่ถึงมือชาวนา... โครงการนี้ ธกส.โอนเงินเข้าบัญชีชาวนาโดยตรงกว่า 6 แสนล้านบาทแล้ว

สมัยประชาธิปัตย์ เงินผู้สูงอายุ กว่าจะได้ เดือนละ 500 ก็รอกันแทบตาย อภิสิทธิ์ก็ยังไปเถียงกับใครที่สมุทรสาคร ว่า ได้เงินหรือเปล่า

แล้วเงิน 2,000 ที่อภิสิทธิ์แจกให้พวกประกันสังคม ถามว่า เงินที่คนเขาไม่ได้ไปเอา หายไปไหนบ้าง คืนคลังหรือเปล่า.. ถามว่า ได้ประโยชน์มั้ยกับเงิน 6 หมื่นล้าน (ถ้าจำไม่ผิด) ที่ต้องใช้แจกในโครงการนี้

ชาวนาที่ผมไปนั่งคุยด้วย ที่ อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ ปีที่แล้ว ยังบอกเลยว่า ตันละ 18,000 ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลา ยังหายาก บางเจ้ามาจองซื้อจากเจ้าของนา บางรายให้ราคาสูงกว่าที่รัฐรับจำเสียอีก

2. เขาบอกว่า จะไม่จ่ายภาษีให้รัฐบาลยิ่งลักษณ์ไปผลาญเล่น

ผมก็เลยงงว่า อ้าวแล้วที่ผ่านมา ถ้าคุณไม่จ่ายภาษี ไม่ว่าจะรัฐบาลไหนก็ตาม มันก็มีความผิด โดนเรียกภาษีย้อนหลัง ดูอย่างพวกดาราเป็นตัวอย่าง

ผมก็งงเข้าไปอีก อ้าว แล้วตอนที่ รัฐบาลประชาธิปัตย์ กู้เงินมิยาซาว่า จ้างไปดายหญ้า ไปสร้างโรงอบยาง แต่ใช้ไม่ได้ หรือ งบไทยเข้มแข็งที่เอาเสาธงต้นละแสน ฯลฯ แล้วไปจ่ายภาษีกันหรือเปล่า

ประเด็นก็คือ ที่เขาด่าๆกัน เพราะว่า รัฐเอาข้าวไปเก็บไว้เองหมด พวกพ่อค้าข้าว จะขายก็ขายไม่ได้ เพราะราคาสูง แถมข้าวยังไม่มีในสต็อก ก็ด่ารัฐบาลว่า เอาไปไว้ทำไม ไม่เอาออกมาขาย ทีนี้พอรัฐขายไม่ออก (ซึ่งแน่นอนว่ามันขายยากกว่าให้เอกชนขาย) เขาก็บีบให้รัฐเร่งระบายข้าวออกสู่มือพ่อค้า

เพราะอะไร???

เพราะว่า บริษัทที่ได้ ได้ไป พวกที่ไม่ได้ก็ด่า หาว่ารัฐบาลเล่นพรรคเล่นพวก

สรุปก็คือ พวกนี้ก็เรียกร้องขัดขาไปอย่างนั้นแหละ

By: webkit

การบริหารประเทศ ขาดทุนกำไร ดูที่ รายได้ - รายจ่าย

รายได้ของรัฐ มาจาก ภาษีต่างๆ ค่าสัมปทาน ฯลฯ

รายจ่ายของรัฐ คือ เงินเดือนราชการ การจัดซื้อ จัดจ้าง ทำโครงการต่างๆ ดอกเบี้ยเงินกู้ ฯลฯ

พอสิ้นปีงบประมาณ ถ้า รายได้มากกว่ารายจ่าย ก็เรียกว่า กำไร ถ้า รายได้น้อยกว่ารายจ่ายก็เรียกว่า ขาดทุน

ไอ้พวกที่มาดูกำไร ขาดทุน เป็นโครงการๆ แล้วจ้องด่ามันบริหารประเทศไม่เป็นหรอก

เพราะประเทศเขาดูภาพรวม ขาดตรงนั้น ได้ตรงนี้

ก็เหมือนกับการทำบัญชีบริษัทนั่นแหละครับ

บริษัทไหน ที่บอกว่าการโฆษณา การลดแลกแจกแถม หรือ การบริจาค ทำแล้วขาดทุนบ้าง

อิชิตัน แจก เงินล้าน ทุกวัน ขาดทุนมั้ย

ถ้าคิดว่าการใช้เงินเป็นการขาดทุน

จำนำข้าว รถคันแรก แจกแทบเล็ต จ่ายเงินเดือนข้าราชการ ซื้อปืน ซื้อรถถัง สร้างถนน หรือ 30 บาท รักษาทุกโรค มันก็ขาดทุนทุกอย่าง เพราะมันเป็นนโยบายใช้เงิน

แต่ถ้ามองภาพรวม การใช้เงินเหล่านั้น เกิดประโยชน์ ทำให้ประชาชนอยู่ดีกินดีขึ้น

เงินแสนล้าน ที่เอาไปจำนำข้าว ก็อยู่กับ ชาวนาไทย มันจะหายไปไหน

ชาวนา คงไม่รวยถึงขนาดขนเงินไปเที่ยวต่างประเทศมั้งครับ

พวกเขาก็คงใช้เงินกันอยู่ในประเทศนี่แหละ เงินไหลเวียน เศรษฐกิจดีขึ้น รัฐบาลเก็บภาษีส่วนอื่นๆได้มากขึ้น

ผลสุดท้าย ก็คือ กำไร

ใช้มาก ได้กลับมามาก ไม่ขาดทุน

ใช้น้อย แต่ไม่ได้อะไรกลับมา นั่นแหละขาดทุน

ที่ผมมั่นใจว่าไม่มีปัญหา เพราะ เงินที่รัฐจ่ายไป ก็ไปอยู่กับชาวนา

ชาวนา เป็นลูกหนี้ ธกส. .. ได้เงินไปก็โดน ธกส.เก็บกลับมา เหมือนเดิม

ดีกว่า ปล่อยให้ ชาวนา ขายข้าวไม่ได้ราคา ขาดทุน ไม่มีเงินมาจ่ายหนี้ ธกส.

หรือคุณว่าไง???

By: อินทรีย์

เรื่องจำนำข้าว รัฐบาลดันไปรับลูกพรรคแมลงสาปเรื่องกำไร ขาดทุน จนหลงทางอยู่ในเขาวงกต หาทางออกไม่เจอ

ทั้งๆที่เรื่องนี้ เป็นเรื่องเศรษฐกิจโดยรวมของชาติ ไม่ใช่เรื่องการทำกำไรของการค้าข้าว

ชาวนาเป็นประชากรส่วนใหญ่ของประเทศ การช่วยชาวนา เท่ากับการเพิ่มกำลังซื้อ ทำให้เศรษฐกิจของชาติหมุนเวียน เกิดการจ้างงาน การค้าขาย หมุนไปหมุนมา กลายเป็นภาษีที่เก็บได้เพิ่มขึ้น

การนำประเด็นกำไร ขาดทุนมาเป็นเรื่องคอขาดบาดตาย แสดงว่า รัฐบาลกำลังหลงกล คิดเศรษฐศาสตร์ขั้นเดียว เป็นไปตามเกมของพรรคแมลงสาปอัปรีย์จัญไร

เรื่องมันเลยยุ่งพันตัวแบบนี้

พี่น้องชาวนาเอ๋ย..ออกมากันได้แล้ว...
อย่าให้ ปชป.เอาพวกคุณมาเล่นเกมการเมือง



เอาเรื่องปากท้องของชาวนามาเล่นการเมืองเพียงแค่หวังล้มรัฐบาล

เล่นกันแบบหน้ามืดตามัว ไม่มีมารยาท ไม่รู้ผิดรู้ถูก จิตใจโหดร้าย เอาความทุกข์ร้อนของชาวนา มาเป็นเหยื่อสนองตัณหาของตัวเองและพวกพ้อง

ชาวนารู้อยู่แล้วว่า นายทุนใหญ่การเมือง คือผู้บงการให้การเมืองล้มการรับจำนำข้าว ให้กลับไปใช้การประกันราคาข้าวเหมือนเดิม เพราะนายทุนกลุ่มนี้ได้ประโยชน์สูงสุดมาแล้ว

ยังไงๆ พี่น้องชาวนา เขาไม่โกรธรัฐบาล เขารู้ว่ารัฐบาลถูกกดดัน ต้องสนองตัณหาพวกเศษนรก...


มะกอกสามตะกร้าปาไม่ถูก... อภิสิทธิ์ไม่เห็นด้วยซะแล้ว (ฮา)
By: สายลมรัก

จะว่าค้านตะพึดก็ไม่ใช่..

จะว่า.. ติติงแนะนำให้ดีขึ้น ก็ไม่ใช่อีก..

มันออกแนว....ค้านแบบแค้น ค้านแบบ ตุ้ยตุ่ย เพ้อเจ้อ ปลิ้นปล้อน กระล่อน แอน สะตอเสียมากกว่า

จากที่บอกว่าให้..ยกเลิกการจำนำ เพราะตัวเลขการจำนำสูงกว่า ราคาตลาดโลก ทำให้รัฐต้องขาดทุน

ทั้งๆที่ รัฐบาลก็ประกาศ ตั้งแต่ต้นแล้วว่า ยอมขาดทุนเพื่อให้ชาวนาลืมตาอ้าปากได้.....

แต่อภิสิทธิ์ ก็ยืนกรานมาตลอดว่า อย่างนั้น อย่างนี้ เพราะมีการโกง ส่วนโกงตรงไหน ไม่รู้น๊ะ เพราะรู้สึกว่าโกงเฉยๆ

ก็คงอีหรอบเดียวกับเอกยุทธ นั่นแหละ ติโน่น ติงนี่ มีเบื้องหลังว่าจะเป็นการฆาตกรรมทางการเมือง แต่พอตำรวจทำหนังสือเชิญมาให้ข้อมูลอย่างเป็นทางการ เสือกไม่รู้ไม่ชี้ ไม่ใช่หน้าที่ของกูซะนี่ (ฮา)

สรุปว่า รู้ทุกเรื่อง แต่ไม่มีหลักฐาน เป็นจินตนาการอันเพริดพริ้ง แบบสโนไวท์ กับคนแคระทั้งเจ็ด ประมาณนั้น

ผมเห็นรัฐบาล เจอฝ่ายค้านแบบนี้ แล้วก็น่าหนักใจแทน ไอ้หลักการในการค้านหนะไม่เท่าไหร่ แต่วิธีการพูดปลิ้นปล้อนกะล่อนตอแหลไปวันๆนี่สุดๆ ถือเป็นจุดเด่นที่ไม่มีใครมาเทียบได้

วันก่อนบอกว่าจำนำข้าวไม่ดี เพราะ ราคาสูงกว่าตลาดโลก

พอวันนี้บอกห้าม ลดราคาจำนำ เพราะประชาธิปัตย์ยืนยันว่า ยืนข้างชาวนาไทยมาโดยตลอด (ฮา)

ไอ้ที่เคยเอาไม้ไล่ตี ตายยุคตาชวน หรือเอาปืนไล่ยิงตอนทุ่งสังหารราชประสงค์นั้น เป็นอันว่า พรรคของเรา ล้อเล่น (ไม่ฮา) กะให้ยิงแค่หัวเข่า แม้นจะใช้กระสุนจริง แต่หากโดน ก็พอเอายาแดงทาแล้วหายได้

ค้านตะพึด.. ค้านตลอด.. ค้านนโยบายนี้..

ครั้นพอฝ่ายบริหารทบทวน แม่มก็จะฟ้องศาล (พ่อมัน) บอกว่า จะล้มรัฐบาลด้วยข้อหาไม่ทำตามนโยบายที่เคยหาเสียงไว้

เอากับมันสิ พ่อมหาจำเริญทั้งหลาย

ตกลงมันจะเอาไงแน่ 15,000 มันบอกประเทศชาติล่มจมไม่เห็นหัวชาวนา พอลดราคาเหลือ 12,000 มันก็บอกชาวนาล่มจม
By: โบกกรัก

ตอนรัฐบาลรับจำนำข้าวที่ 15,000 เหล่า สาวก สลิ่ม แมงสาป ออกมาโพสต์ด่า รัฐบาลปูว่า ทำแบบนี้ ประเทศชาติจะล่มจม ขาดทุกบักโกรก สองแสนหกหมื่นล้าน (ที่ตอนนี้ รัฐบาลบอก แสนกว่าล้าน น้อยกว่า โครงการให้เงินกินเปล่าประกันราคาของ รัฐบาลมาร์ค)

ด่ารัฐบาล โดยไม่ได้สนใจว่า อานิสงส์เงินที่เพิ่มขึ้นนั้น ไปเพิ่มรายได้ให้ชาวนา เลือกที่จะด่าว่า ทำให้ประเทศชาติเสียหายอยู่อย่างเดียว

วันนี้ รัฐบาลยอมลดราคาจำนำข้าวให้เหลือ 12,000 บาท เพื่อจะไม่ให้รัฐขาดทุน โดยคาดว่าจะทำให้เสมอทุน ไม่ต้องสูญเสีย งบประมาณ แม้จะเป็นมาตรการให้เงินงบประมาณเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรก็ตาม

เอากับมัน............พอลดราคารับจำนำ 12,000 มันลืมเรื่องประเทศชาติล่มจมไปซะฉิบ ตอนนี้ มันเริ่มเห็นชาวนา ชาวนาที่มันมองไม่เห็นมาเกือบสองปี

มันบอกว่า ลดราคา 12,000 ทำให้ชาวนาสูญเสียรายได้ ทำให้เกษตรกรกลับมายากจน

มันไปของมันได้หมด ไม่ว่าจะขึ้น หรือ ล่อง มันขุดมาด่าได้หมด อุดมการณ์เปลี่ยนมันไปทุกวัน แต่ที่ยังยึดมั่นมีอยู่อย่างเดียวคือ เกิดมาด่า ทักษิณ หรือใครก็ตามที่ ทักษิณ สนับสนุน

By: ดร.ดำเนิน ยาท้วม

ธปท.รับงานมายืนบาทแข็ง ไม่ลดดอกเบี้ย ข้าวขายไม่ได้ เงินอุดหนุนจึงใกล้เพดานวินัยการเงินการคลัง กขช.ก็คนของอำมาตย์ออกมติมาบีบ จึงต้องลดแรงเสียดทานอย่างที่เห็น กองเชียร์ฝ่ายเราอาจโกรธบ้างก็ต้องยอมกลืนเลือด ดีกว่าให้รัฐบาลล้ม โครงการรับจำนำข้าวจะล้มหมดเลย เขายังมีองค์อิสระ ที่หาเรื่องตีความแบบน้ำขุ่นๆ ล้มรัฐบาลได้ทุกเวลาที่เขาต้องการ อันนี้รัฐบาลพูดไม่ออก ได้แต่ทนกลืนเลือดครับ

เฉพาะข้าวนาปรังปี 2556
จาก 15,000 บาท เป็น 12,000 บาท



คณะรัฐมนตรี เห็นชอบตามข้อเสนอการปรับลดราคารับจำนำข้าวนาปรังปี 2556 ของ กขช. โดยระบุว่า เป็นไปตามราคาตลาดโลก และวินัยทางการคลัง ขณะที่นายกรัฐมนตรีย้ำว่า หากราคาขึ้น จะปรับขึ้นราคารับจำนำแน่นอน

นายกรัฐมนตรี เรียกประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ หลังคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ หรือ กขช. มีมติให้ลดราคารับจำนำข้าวลง เฉพาะข้าวนาปรังปี 2556 จาก 15,000 บาท เป็น 12,000 บาท

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี รับทราบความเห็นของ กขช. ที่ระบุว่าสถานการณ์เศรษฐกิจโลกโดยรวมมีความผันผวน ประกอบกับอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น จึงเห็นชอบให้ปรับราคารับจำนำข้าวเปลือกเจ้า 100% ของโครงการรับจำนำข้าวเปลือกปีการผลิต 2555/56 ครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 จากราคาตันละ 15,000 บาท เป็นราคาตันละ 12,000 บาท ตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายน 2556 เป็นต้นไป

โดยราคาที่ลดลงใกล้เคียงกับราคาเฉลี่ยของข้าวเปลือกเจ้านาปรัง บวกค่าตอบแทนเกษตรกรประมาณร้อยละ 40 ซึ่งเป็นเกณฑ์การช่วยเหลือที่สูงกว่ามาตรฐานการช่วยเหลือสินค้าเกษตรทั่วไป โดยนายกรัฐมนตรี ย้ำว่า จะขึ้นราคาและแก้เงื่อนไขดังกล่าว หากสถานการณ์เศรษฐกิจโลกมีการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้น

ขณะเดียวกันที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ยังรับทราบผลการประชุม กขช. เรื่องการจำกัดวงเงินรับจำนำข้าวของเกษตรกรแต่ละครัวเรือน จากเดิมที่ไม่จำกัดวงเงิน เป็นไม่เกินครัวเรือนละ 500,000 บาทต่อปี โดยให้เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 20 มิถุนายน 2556 เป็นต้นไป

สำหรับกรอบวงเงินที่ใช้ในการรับจำนำข้าวเปลือกนั้น ยืนยันตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2556 ที่กำหนดวงเงินดำเนินการสิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2556 จะต้องไม่เกิน 500,000 ล้านบาท แบ่งเป็นวงเงินจากกระทรวงการคลัง 410,000 ล้านบาท และเงินทุนหมุนเวียนของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรจำนวน 90,000 ล้านบาท โดยคาดว่าจะมีข้าวเข้าร่วมโครงการประมาณ 2 - 3 ล้านตันข้าวเปลือก จึงมีผลกระทบกับเกษตรกรไม่มาก


ด้านนายอารีพงศ์ ภุ่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงการคลัง ยอมรับว่า การลดราคารับจำนำข้าวเป็นผลมาจากการขาดทุน แบบมีผลกระทบต่อฐานะทางการคลังระยะยาว จึงต้องปรับให้เหมาะสมมากขึ้น ส่วนการบริหารหลังจากนี้ ขึ้นอยู่กับกระทรวงพาณิชย์ ที่จะระบายข้าวในสต็อกได้อย่างมีประสิทธิภาพเพียงใด โดยกระทรวงการคลัง ต้องการเห็นกระทรวงพาณิชย์เพิ่มช่องทางการระบายข้าวให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ ยังยืนยัน การปรับลดราคารับจำนำข้าว จะทำให้วงเงินที่ใช้ในโครงการรวมทั้งหมด ไม่เกิน 500,000 ล้านบาท ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี

ปลัดกระทรวงการคลัง ยังยืนยันว่า ในปีงบประมาณ 2557 เป็นต้นไป จะทยอยชำระหนี้คืนธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. ซึ่งขณะนี้มีค้างหนี้อยู่จากโครงการนี้ ประมาณ 1 แสนล้านบาท

ส่วนข้อท้วงติงว่าการปรับเปลี่ยนโครงการรับจำนำข้าวเปลือก จะกระทบกับการแถลงเป็นนโยบายหรือไม่นั้น นายอัชพร จารุจินดา เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ให้ความเห็นว่าสามารถดำเนินการได้ เพราะรัฐบาลได้ดำเนินนโยบายเร่งด่วน ตามที่ได้แถลงไว้ครบถ้วนแล้วตั้งแต่ปีแรก จากนี้ไปจะเป็นการปรับโครงสร้างภาคการเกษตร ที่เน้นเพิ่มรายได้ให้ดีขึ้น พร้อมกับเพิ่มคุณภาพชีวิตเกษตรกรให้ดีอย่างยั่งยืน สอดคล้องกับการชี้แจงของของนายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

นอกจากนี้นายกรัฐมนตรี ยังกำชับ ว่า จากนี้ไป รัฐบาลจะให้ความสำคัญกับ 3 ประเด็นคือ การทำเกษตรโซนนิ่ง โดยเน้นการปลูกพืชเกษตรในพื้นที่ที่เหมาะสม เพื่อช่วยเพิ่มรายได้แก่เกษตรกร เร่งรัดให้กระทรวงที่เกี่ยวข้อง นำงานวิจัยที่เกี่ยวเนื่องกับการเพิ่มมูลค่าและคุณภาพสินค้าเกษตรมาปรับใช้ เช่น การผลิตข้าวอินทรีย์ ที่เมื่อผลิตและส่งออกแล้ว จะได้ราคาดี และสุดท้ายคือมอบหมายให้กิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี หารือร่วมกับกระทรวงพลังงาน และกระทรวงอุตสาหกรรม ยกระดับราคาสินค้าเกษตรที่สามารถนำมาใช้ในการผลิตเป็นพลังงานทดแทน

นอกจากนี้เพื่อความโปร่งใส ในการดำเนินการโครงการรับจำนำข้าว ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมถึงกระทรวงมหาดไทย เข้มงวด ในการตรวจสอบโครงการรับจำนำข้าวทุกขั้นตอน ตั้งแต่ การจดทะเบียน การตรวจสภาพข้าว การเก็บรักษา และการระบายข้าว

ด้านสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติพบว่า โครงการรับจำนำข้าวที่ผ่านมา ทำให้กำลังซื้อและการบริโภคของประเทศเพิ่มขึ้นอย่างน้อยร้อยละ 2 ทำให้จีดีพีเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 0.69 ในปีแรกของโครงการ และเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.62 ในปีที่สอง ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่าอัตราปกติ

ทั้งนี้ในปี 2555 ที่ผ่านมา การใช้จ่ายภาคครัวเรือนทั้งประเทศขยายตัวถึงร้อยละ 6.7 แต่หากไม่มีโครงการเพื่อเพิ่มรายได้และอำนาจซื้อของเกษตรกรในชนบท จะส่งผลให้การบริโภครวมของครัวเรือนขยายตัวเพียงร้อยละ 4.7 เท่านั้น


นายกฯปูยืนยัน เดินหน้านโยบายจำนำข้าวต่อ
โยน กขช. พิจารณาข้อเสนอชาวนาให้ปรับราคา 13,500 บาทต่อตัน


วันที่ 20 มิ.ย.2556 ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ชาวนาเตรียมชุมนุมเรียกร้องหลังไม่พอใจที่รัฐบาลปรับลดราคารับจำนำข้าวเหลือตันละ 12,000 บาท ว่า ได้ให้ผู้ว่าราชการจังหวัด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ หรือ กขช. ลงพื้นที่ชี้แจงต่อประชาชน โดยรัฐบาลต้องสร้างความสมดุลราคาให้สอดคล้องกับตลาดโลก และ รักษาวินัยเงินการคลัง ซึ่งหากตลาดโลกดีขึ้นก็อาจจะมีการปรับเพิ่มราคาได้

ส่วนมาตรการในการช่วยเหลือนั้นจะแนะนำให้ปลูกพืชชนิดอื่นตามสภาพพื้นที่ อาทิ มันสำปะหลัง หรืออ้อย แทน โดยระยะยาวรัฐบาลตั้งใจพัฒนาการทำเกษตรให้เป็นระบบเกษตรโซนนิ่ง

ส่วนการที่ชาวนาต้องการให้ปรับราคารับจำนำข้าวอยู่ที่ 13,500 บาทต่อตัน ต้องให้ทาง กขช. พิจารณาดูตามความเหมาะสมและให้เกิดความเป็นธรรม




วันศุกร์ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2556

21... เรื่อง ข้าว..ข้าว.. ไทยมีสต็อกข้าวไว้กิน417วัน, ตารางสต็อกข้าวประเทศต่างๆ

@ ภาพหนึ่งภาพ แทนคำพูดล้านคำ..
@ เพิ่งเคยเห็นนายกฯคนแรกนี่แหละ ที่สนับสนุนให้เด็กเก่งคณิตศาสตร์
@ แด่..มนุษย์เงินเดือน "อันความรู้ รู้กระจ่างแต่อย่างเดียว แต่ให้เชี่ยวชาญเถิดจะเกิดผล"
@ สิ่งที่ควรรู้ ก่อนเรียน Master of Business Administration (MBA)
@ ฮู้ยยยย...สติแตกกันไปหมดแย้วทั้งคนเล่นและกองเชียร์แนวร่วม
@ ความเป็นมาของ คดีสะเทือนโลก "ที่ดินรัชดา" ที่ทุกๆคนควรรู้!!!
@ ผมไม่ได้แหล!!! แต่เรื่องดีๆอย่างนี้..clickดูเองเหอะ
@ สาระน่ารู้... เขาซื้อทองคำ ขายทองคำ กันอย่างไร?????
@ เฮ้อ!! ณ นาทีนี้..บอกได้คำเดียว เสียดาย..เสียดายครับ...นโยบายดีๆที่คน กทม. ไม่เอ๊า..ไม่เอา...

คลิกที่ภาพ...เพื่อดูขนาดที่ใหญ่ขึ้น @ New!! แจกปฏิทินนายกฯปู พ.ศ.2556 คลิกที่นี่...

เรื่อง ข้าว..ข้าว.. ไทยมีสต็อกข้าวไว้กิน417วัน, ตารางสต็อกข้าวประเทศต่างๆ


By วิดวะอิเลก : สำหรับประเทศไทย ปริมาณการส่งออกข้าวปีนี้ลดลง ทำให้มีสต็อกข้าวเพิ่มขึ้นร้อยละ 29.33 ส่งผลให้อัตราการสำรองข้าวสารเพื่อการบริโภคของปี 2555/56 อยู่ที่ระดับ 114.39 หรือมีปริมาณข้าวสารสำรองเพื่อการบริโภค ประมาณ 417 วัน


By No.761238 : ผมเอาลิ้งค์ตัวเต็มมาให้ครับ

By โบกกรัก : จีน และ อินเดีย เนี่ย สต็อกข้าวน่ากลัวมาก เกิดภัยพิบัติ หรือ ถ้าแห้งแล้งเมื่อไหร่ ประชาชนตาดำๆ โดนลูกเดียว

By Lpg_Horse : จีนมีประชากรมากกว่าไทยประมาณ 20 เท่า มีสต็อกข้าวมากกว่าไทย แค่ 4 เท่า

อินเดีย มีประชากรมากกว่าไทย 10 กว่าเท่า มีสต็อกมากกว่าไทย 2 เท่า

ผมว่าตรงจุดนี้ แสดงว่าสต็อกข้าวของไทยมีเกินพอ เมื่อเทียบกับประเทศอื่น

By pongsri : ข้าวที่รัฐบาลเก็บไว้ ยังไงๆ ก็ไม่ขาดทุน เพราะจากภาวะการแห้งแล้งของโลก รวมทั้งประเทศคู่แข่งข้าว ไม่มีข้าวจะขายแล้ว เช่นเวียดนาม ยังไงๆ บ้านเราก็ยังได้เปรียบมาก จะไม่พอด้วยซ้ำ

ถ้าไม่ติดข้อ ก.ม. ผมยังอยากให้ซื้อข้าวของ กัมพูชาหรือลาว เอามาไว้ที่ชายแดน ในลักษณะ ข้าวสารเพื่อการส่งออก

ลองคิดดูอีกที สิงคโปร์ ไม่ได้ปลูกข้าว ไม่มีน้ำมัน ไม่มียาง กลับเป็นตลาดของการ
ซื้อขายของเหล่านี้ ครับ คิดกันเป็นบ้าง ก็ดี...

@ จริงรึ??? รัฐบาลปูขาดทุนจำนำข้าว 2.6 แสนล้าน

วันจันทร์ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2556

20... ลืมกันหรือยัง...เมื่อ"กบฏ"ออกกฎหมายอภัยโทษให้ตัวเอง

@ ภาพหนึ่งภาพ แทนคำพูดล้านคำ..
@ เพิ่งเคยเห็นนายกฯคนแรกนี่แหละ ที่สนับสนุนให้เด็กเก่งคณิตศาสตร์
@ แด่..มนุษย์เงินเดือน "อันความรู้ รู้กระจ่างแต่อย่างเดียว แต่ให้เชี่ยวชาญเถิดจะเกิดผล"
@ สิ่งที่ควรรู้ ก่อนเรียน Master of Business Administration (MBA)
@ ฮู้ยยยย...สติแตกกันไปหมดแย้วทั้งคนเล่นและกองเชียร์แนวร่วม
@ ความเป็นมาของ คดีสะเทือนโลก "ที่ดินรัชดา" ที่ทุกๆคนควรรู้!!!
@ ผมไม่ได้แหล!!! แต่เรื่องดีๆอย่างนี้..clickดูเองเหอะ
@ สาระน่ารู้... เขาซื้อทองคำ ขายทองคำ กันอย่างไร?????
@ เฮ้อ!! ณ นาทีนี้..บอกได้คำเดียว เสียดาย..เสียดายครับ...นโยบายดีๆที่คน กทม. ไม่เอ๊า..ไม่เอา...

คลิกที่ภาพ...เพื่อดูขนาดที่ใหญ่ขึ้น @ New!! แจกปฏิทินนายกฯปู พ.ศ.2556 คลิกที่นี่...

ลืมกันหรือยัง...เมื่อ"กบฏ"ออกกฎหมายอภัยโทษให้ตัวเอง
By: คนการเมือง

หลัง 19 กันยายน 2549 สิ่งแรกที่ คปค. ประกาศคือ ให้ยกเลิกรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนเสีย

แล้วใช้รัฐธรรมนูญชั่วคราว มาตราที่สำคัญอย่างยิ่งคือ มาตรา 36 และ มาตรา 37

ในสถานการณ์ปัจจุบันขอยกแค่ มาตรา๓๗ มาให้เปรียบเทียบ

"มาตรา 37 บรรดาการกระทำทั้งหลายซึ่งได้กระทำเนื่องในการยึด และควบคุมอำนาจการปกครองแผ่นดิน เมื่อวันที่ 19 กันยายน พุทธศักราช 2549 ของหัวหน้า และคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข รวมตลอดทั้งการกระทำของบุคคลที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำดังกล่าวหรือของผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากหัวหน้าหรือคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขอันได้กระทำไปเพื่อการดังกล่าวข้างต้นนั้น

การกระทำดังกล่าวมาทั้งหมดนี้ไม่ว่าเป็นการกระทำเพื่อให้มีผลบังคับในทางนิติบัญญัติ ในทางบริหาร หรือในทางตุลาการ รวมทั้งการลงโทษและการกระทำอันเป็นการบริหารราชการอย่างอื่น ไม่ว่ากระทำในฐานะตัวการ ผู้สนับสนุน ผู้ใช้ให้กระทำหรือผู้ถูกใช้ให้กระทำ และไม่ว่ากระทำในวันที่กล่าวนั้นหรือก่อน หรือหลังวันที่กล่าวนั้น หากการกระทำนั้นผิดต่อกฎหมาย ให้ผู้กระทำพ้นจากความผิด และความรับผิดโดยสิ้นเชิง"

By: วิถีชน prachatalk.com 17พ.ย.2554

อ่านกี่ครั้งกี่ครั้งผมก็อดสำลักความอยุติธรรมไม่ได้ เสมือนใครสักคนอัดกรวดทรายยัดลงลำคอทุกที

จริงๆแล้ว มาตรานี้เปรียบดั่งคำสารภาพผิดดีๆนี่เอง

ไหนอ้างว่าต้องทำเพื่อแก้ไขบ้านเมืองให้พ้นจากภัยพิบัติ เมื่อทำความดีแล้วจะผิดได้อย่างไร

แล้วใยจึ่งออกกฎหมายอภัยโทษให้ตนเอง?????

คลิกที่นี่ ดูบนyoutube...

เขาเอามายัดไว้ใน รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 เรียบร้อยแล้วครับ ไม่ใช่แค่ประกาศ คปค.อย่างเดียว โดยยกเอา ฉบับชั่วคราว มารับรองถาวรจนถึงวันนี้

มาตรา 309 บรรดาการใดๆที่ได้รับรองไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2549 ว่าเป็นการชอบด้วยกฎหมายและรัฐธรรมนูญ รวมทั้งการกระทำที่เกี่ยวเนื่องกับกรณีดังกล่าวไม่ว่าก่อนหรือหลังวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญนี้ ให้ถือว่าการนั้นและการกระทำนั้นชอบด้วยรัฐธรรมนูญนี้

ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
มีชัย ฤชุพันธุ์

* * * * *

ดูกันชัดๆ คำพิพากษาศาลฯยกฟ้อง ยึดและควบคุมอำนาจการปกครองแผ่นดิน19ก.ย.2549 แล้วผู้กระทำพ้นจากความผิดและความรับผิดชอบโดยสิ้นเชิง

วันอาทิตย์ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2556

19... จริงรึ??? รัฐบาลปูขาดทุนจำนำข้าว 2.6 แสนล้าน

@ ภาพหนึ่งภาพ แทนคำพูดล้านคำ..
@ เพิ่งเคยเห็นนายกฯคนแรกนี่แหละ ที่สนับสนุนให้เด็กเก่งคณิตศาสตร์
@ แด่..มนุษย์เงินเดือน "อันความรู้ รู้กระจ่างแต่อย่างเดียว แต่ให้เชี่ยวชาญเถิดจะเกิดผล"
@ สิ่งที่ควรรู้ ก่อนเรียน Master of Business Administration (MBA)
@ ฮู้ยยยย...สติแตกกันไปหมดแย้วทั้งคนเล่นและกองเชียร์แนวร่วม
@ ความเป็นมาของ คดีสะเทือนโลก "ที่ดินรัชดา" ที่ทุกๆคนควรรู้!!!
@ ผมไม่ได้แหล!!! แต่เรื่องดีๆอย่างนี้..clickดูเองเหอะ
@ สาระน่ารู้... เขาซื้อทองคำ ขายทองคำ กันอย่างไร?????
@ เฮ้อ!! ณ นาทีนี้..บอกได้คำเดียว เสียดาย..เสียดายครับ...นโยบายดีๆที่คน กทม. ไม่เอ๊า..ไม่เอา...

คลิกที่ภาพ...เพื่อดูขนาดที่ใหญ่ขึ้น @ New!! แจกปฏิทินนายกฯปู พ.ศ.2556 คลิกที่นี่...

จริงรึ??? รัฐบาลปูขาดทุนจำนำข้าว 2.6 แสนล้าน


วันนี้ 6มิ.ย.56 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าวที่มีการระบุว่าขาดทุนถึง 2.6 แสนล้านบาท ว่า ขอยืนยันว่าความเสียหายยังอยู่ในระดับหลักหมื่นล้าน ไม่ใช่ 2.6 แสนล้านบาท อย่างที่พรรคประชาธิปัตย์ระบุแน่นอน ส่วนจำนวนที่แน่ชัดนั้นในวันที่ 7 มิ.ย.นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ จะเป็นผู้ชี้แจงตัวเลขในโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งขณะนี้นายบุญทรง อยู่ระหว่างเตรียมข้อมูลอยู่

ทั้งนี้ สำหรับเรื่องข้าวจริงๆแล้วมีสองล็อต ได้แก่ ล็อตแรก คือ ก่อนหน้ารัฐบาลชุดนี้จะเข้ามาบริหารประเทศ ซึ่งมีข้าวค้างสต็อกอยู่จำนวนมาก แต่เรามีการระบายออกมาได้เยอะแล้ว เป็นข้อดีที่ยังไม่ได้มีการพูดถึงกัน

และ ล็อตที่สองที่รัฐบาลชุดนี้มาบริหารประเทศ ในปี 54–55 มีการรับจำนำหมดแล้ว เหลือแต่ขายออก

และปี 55–56 ขั้นตอนการรับจำนำยังไม่เสร็จสิ้น แต่กับมาตีกัน ได้อย่างไรว่าขาดทุน 2.6 แสนล้านบาท






By: Efiles

สังเกตลำดับที่ 15 ข้าวเปลือกนาปี ปี 54/55 (รัฐบาลปู)

ยอดค่าใช้จ่าย 36,352.71 ล้านบาท นั่นหมายถึงยอดรับจำนำข้าว ขณะที่ยอดรายรับ 4,051.71 ล้านบาท นั่นหมายถึงยอดขาย

*** ส่วนที่ตีว่าขาดทุน 32,301 ล้านบาทนั่นคงตีความว่า สต๊อคที่มีอยู่เป็นผลขาดทุนทั้งหมด ***

ถ้าตีความว่าขาดทุน --> ย่อมตีความต่อได้ว่าสต๊อคข้าวที่เหลือทั้งหมดนั้นเน่าเสีย หรือคุณภาพไม่ดีสำหรับการขายแล้ว --> ย่อมตีความต่อได้ว่าโกดังหรือไซโลที่เก็บนั้นไม่มีประสิทธิภาพอย่างร้ายแรง --> ย่อมตีความต่ออีกว่าฝ่ายประเมินประสิทธิภาพของโกดังขาดคุณสมบัติและความรู้อย่างทุเรศที่สุด

ถ้ามันเป็นไปอย่างที่ตีความแบบนี้ กลิ่นเน่าเหม็น เรื่องทุจริตอย่างมโหฬารจะปิดได้มิดยังไง

ตรรกะของคนทำบัญชีนี้ถือว่าแย่ที่สุด ไม่สมควรจะอยู่ทำหน้าที่ทำบัญชีในหน่วยงานของรัฐ หรือของหน่วยงานเอกชนใดๆได้อีก มาตรฐานต่ำมากๆ

By: ยอนนี่ แดง

ลำดับที่ 15 ข้าวเปลือกนาปี ปี 54/55 (รัฐบาลปู)

ยังฟัน ตัวเลขขาดทุน ของการรับจำนำ ยังไม่ได้ครับ....... เพราะข้าว ส่วนใหญ่ รอการเดินสายขายอยู่....... ดีไม่ดี เข้าหน้าหนาว ข้าวจะขายดี มาก..... จะเท่าทุนเอานา......แต่ ตอนนี้ ชาวนา ได้ลืมตาอ้าปากแล้ว คร๊าบบบบบบบบ..........

@ มองโครงการรับจำนำข้าวในสายตาของชาวนาตัวจริง...

By: PredatorNeverdie

ลำดับที่ 15 ข้าวเปลือกนาปี ปี 54/55 (รัฐบาลปู)

ข้าวขายยังไม่หมด แล้วจะรู้เรอะว่า จะขายได้เท่าไหร่

เหมือนเอาเงินไปซื้อของมาขาย ยังขายไม่หมดเลย มีคนมาถามว่า ขาดทุนเท่าไหร่ครับ ใครจะตอบได้

มันต้องรอให้เขาขายข้าวไปก่อน การจำนำข้าว ไม่ใช่ว่ารับข้าวมาแล้วจะเอาไปขายเลย มันต้องรอให้หมดเวลาจำนำก่อนดิ..

ถ้าถามว่ารัฐบาลใช้เงินในการรับจำนำข้าวไปแล้วเท่าไหร่ อันนี้ตอบได้

ถามว่าตั้งแต่รัฐบาลนี้เข้ามาขายข้าวไปกี่ตันแล้ว ได้เงินมาเท่าไหร่ แบบนี้ซิน่าจะถาม

By: สัจจะธรรมคือความจริง

ขาดทุนอะไร!? รัฐบาลปูข้าว(รอขาย)ยังมีอยู่ในมือในโกดัง ถ้าเทียบกับประกันสมัยมาร์ค ไม่มีข้าวไม่มีอะไรอยู่ในมือในโกดังเลย..นั่นละขาดทุนจริงๆ

รัฐบาลมาร์ค 17ธ.ค.2551 ถึง 5ส.ค.2554

ลำดับที่ 9 ข้าวเปลือกนาปี ปี 51/52 ขาดทุน 26,390.02 ล้านบาท

ลำดับที่ 12 ข้าวเปลือกนาปรัง ปี 52 ขาดทุน 41,405.20 ล้านบาท

รวมขาดทุนสมัยมาร์ค 26,390.02 + 41,405.20 = 67,795.22 ล้านบาท

การประกัน คือ การชดเชยเงินที่ชาวนาขายได้ต่ำกว่าราคาประกัน รัฐฯจ่ายเงินให้ไปฟรีๆ จ่ายไปเท่าไหร่ก็ขาดทุนเท่านั้น ไม่มีทางได้เงินคืน และข้าวก็ไม่ได้สักเมล็ด

ลองคิดดูแบบ หยาบๆง่ายๆ สมมุติ...ราคาตลาดโลก 10,000 บาท รัฐฯก็ประกันที่ 10,000 บาทเหมือนกัน

แต่พ่อค้ามาซื้อกด 6,000 รัฐฯต้องชดเชย 4,000 พ่อค้าไปขายก็จะได้กำไร 4,000 เหมือนกัน

แปลว่า เงินที่ชดเชยให้ชาวนาปีหนึ่ง ในระบบประกันประมาณ 70,000 ล้าน ก็แปลว่า พ่อค้าก็กำไรปีละประมาณเดียวกันนั้น

แล้วพ่อค้าส่งออกรายใหญ่เมืองไทยมีกี่ราย แบ่งกันอู่ฟู่เลย แล้วอย่างนี้ พวกนี้ ทำไมจะไม่ชอบ การประกัน ...ตกลงในความเป็นจริง รัฐบาลกำลังเอาเงินให้ชาวนา หรือ กำลังเอาเงินให้พ่อค้า

ส่วน การรับจำนำ ชาวนาสามารถไถ่คืนได้ถ้าที่อื่นหรือพ่อค้าให้ราคาสูงกว่าจำนำ ส่วนรัฐฯได้ข้าวเก็บไว้ในสต๊อก ถ้ามีการบริหารจัดการที่ดี รัฐฯอาจขายข้าวได้ดีกว่าที่รับจำนำมาก็จะได้กำไร สามารถนำเงินที่ขายมาหมุนเวียนรับจำนำข้าวต่อไปได้อีก

การที่ ชาวนา เอาข้าวมา จำนำ ต้องเป็นผู้ลงทะเบียนกับรัฐฯไว้ครับ

@ เรื่อง ข้าว..ข้าว.. ไทยมีสต็อกข้าวไว้กิน417วัน, ตารางสต็อกข้าวประเทศต่างๆ



เพราะสิ่งที่สำคัญในโลกทุนนิยมคือ "อำนาจของตลาด"
By: ลูกชาวนาไทย

ไม่ว่าเราจะ ลดต้นทุน หรือ เพิ่มผลผลิต อย่างไร หากราคาผลผลิตมันตกลงอย่างรวดเร็ว ต่ำกว่าต้นทุนการผลิต สุดท้ายเกษตรกรก็เจ๊งอยู่ดี

ในโลกทุนนิยม เราจึงไม่อาจประมาท "อำนาจของตลาด" ไปได้

ก็เหมือนเรื่องข้าว ทั้งๆที่ตลาดข้าวเป็นตลาด "ผู้ขายน้อยราย หรือที่เรียกว่า Oligopoly" ไม่ต่างจากตลาดน้ำมัน แต่ว่า อำนาจของตลาดกลับกลายเป็นอำนาจของผู้ซื้อ ไม่ใช่อำนาจของผู้ผลิต ประเทศไทยที่ส่งออกรายใหญ่ของโลก กลับไม่สามารถกำหนดราคาอะไรได้เลย ทั้งๆที่ประเทศผู้ซื้อข้าว ก็ไม่ใช่มหาอำนาจแต่อย่างใด ไม่ได้มีอำนาจครอบงำเหนือตลาดอะไรมากนัก

ปัญหาของตลาดข้าว มันจึงอยู่ที่ "พ่อค้าส่งออก" ที่แย่งกันตัดราคา แล้วไป "กดราคารับซื้อผลผลิต" จากเกษตรกรรายย่อย ก็คือชาวนาไทยต่างๆที่ไม่มีอำนาจต่อรองใดๆในตลาดเลย "พ่อค้าส่งออก" ก็ไปตัดราคากันเองในตลาดโลก ได้ออเดอร์ข้าวมา ก็เอาไปกดราคาเกษตรกรอีกต่อหนึ่ง

ความผิดปกติของตลาดข้าว จึงอยู่ที่ "ระบบการส่งออก" ที่มีพ่อค้าส่งออกที่ทำลายผู้ผลิตของตัวเองนั่นเอง

สมมุติว่า "ผู้ผลิตข้าวไทย" เป็นฟาร์มขนาดใหญ่ทั้งหมด อำนาจของผู้ผลิตมีมากในการครอบงำตลาด ราคาข้าวก็ไม่ตกต่ำขนาดนี้ อำนาจต่อรองของผู้ผลิตย่อมมีสูง

แต่สิ่งเหล่านั้นไม่เกิดกับประเทศไทยแน่นอน เพราะเรายังมีคนอยู่ในภาคเกษตรกรรม 50% คือ มีคนเป็นชาวนา 12-15 ล้านคน ที่มีมูลค่าของผลผลิตเพียง (GDP ข้าว) 300,000 ล้านบาท ที่ต้องแบ่งกันเท่านั้น รายได้เขาจึงต่ำ คุณภาพชีวิตจึงแย่ การรวมเป็นนาขนาดใหญ่จึงไม่มีทางเกิดขึ้นได้ในระยะเวลาอันสั้น ยกเว้นว่าเราจะเปลี่ยนชาวนาเหล่านี้เป็น "ผู้ใช้แรงงานในโรงงานหรือเป็นคนงานปลูกข้าวได้เกินครึ่งก่อน"

การเข้ามารับซื้อข้าวทั้งหมดจากรัฐแต่เพียงฝ่ายเดียว แบบที่นายกฯปู ทำ และให้ราคาที่สูง เงินถึงมือเกษตรกรโดยตรง จึงเป็น "การเพิ่มรายได้ให้ชาวนาโดยตรง" หากพูดตรงๆ คือ เพิ่ม GDP การผลิตข้าว ที่แบ่งกัน 12-15 ล้านคนอย่างเป็นจริงเป็นจัง อย่างน้อยก็เพิ่มทันที 1-2 แสนล้านบาท

มันจึงเป็นคุณูปการที่ยิ่งใหญ่ในการจัดระบบตลาดให้ "ผลประโยชน์ถึงชาวนาโดยตรง"

แม้ว่ารัฐอาจขาดทุน 200,000 ล้านบาท (ซึ่งจริงๆ ไม่ถึง) แต่เงินตรงนี้เหมือนการ "แบ่งเค็ก" ให้คน 12-15 ล้านคน ได้กินเค็กมากขึ้น คุณภาพชีวิตดีขึ้น ความสุขมวลรวมของสังคมย่อมดีขึ้น

การเข้ามาจัดการตลาดของนายกฯปูในโครงการจำนำข้าว ถึงว่าเป็น "การปฏิวัติตลาดข้าว" ยึดอำนาจจากพ่อค้าส่งออก มาจัดการผลประโยชน์ให้ชาวนาเอง

นี่คือ "ความยิ่งใหญ่ที่นายกฯปู" ได้ทำให้กับชาวนา 12-15 ล้านคน

@ ขอบคุณรัฐบาลนายกฯยิ่งลักษณ์ ที่ทำให้ชาวนาไทยลืมตาอ้าปากได้

ปูลู... by: ลูกชาวนาไทย

คือ ผมลืมให้รายละเอียดไปว่าตลาดข้าวระดับโลกเป็นแบบนั้นครับ เป็นตลาดผู้ขายน้อยราย มีไม่กี่ประเทศที่เป็นผู้ส่งออก ดังนั้นการกำหนดราคาข้าวในตลาดโลก มันไม่มีราคาตลาดที่แท้จริง ขึ้นกับว่าใครมีอำนาจครอบงำตลาด

ส่วนการผลิตข้าวในประเทศของเรา เป็นลักษณะรายเล็ก ไม่มีอำนาจต่อรองกับผู้ค้าส่งออก ตลาดเป็นลักษณะ "ผู้ซื้อน้อยราย Oligopsony" อำนาจควบคุมตลาดก็เลยเป็นของพ่อค้าส่งออก ที่กดราคา จนชาวนาได้ตันละไม่ถึง 10,000 บาท

สรุปคือ ตลาดข้าวมันจึงมีทั้งตลาดภายในประเทศ และตลาดโลก โดยตลาดโลกจะเป็นตัวกำหนดตลาดภายในประเทศอีกทีหนึ่ง